เดือน: มีนาคม 2022

ทำให้เป็นเรื่องง่าย

อีเมลนั้นสั้นแต่เร่งด่วน “ต้องการความรอด ผมอยากรู้จักพระเยซู” ช่างเป็นคำขอที่น่าประหลาดใจ คนๆนี้ไม่ต้องการให้โน้มน้าว... ไม่เหมือนกับเพื่อนและครอบครัวที่ยังลังเลไม่เชื่อพระเยซู หน้าที่ของฉันคือหยุดสงสัยตัวเองในเรื่องการประกาศและเพียงแค่แบ่งปันหลักข้อเชื่อที่เป็นหัวใจสำคัญ พระวจนะ และแหล่งข้อมูลที่จะตอบสนองคำร้องขอของชายคนนี้ได้ ด้วยความเชื่อว่าพระเจ้าจะทรงนำทางเขาต่อจากนั้น

ฟีลิปได้สาธิตการประกาศอย่างเรียบง่ายในตอนที่ท่านพบนายคลังชาวเอธิโอเปียที่กำลังอ่านออกเสียงจากหนังสืออิสยาห์บนถนนในถิ่นทุรกันดาร ฟีลิปจึงถามว่า “ซึ่งท่านอ่านนั้น ท่านเข้าใจหรือ” (กจ.8:30) ชายนั้นตอบว่า “ถ้าไม่มีใครอธิบายให้ ที่ไหนจะเข้าใจได้” (ข้อ 31) เมื่อถูกเชื้อเชิญให้อธิบาย “ฟีลิปจึงเริ่มเล่าจับต้นกล่าวตามพระคัมภีร์ข้อนั้น ชี้แจงถึงข่าวประเสริฐเรื่องพระเยซู” (ข้อ 35)

การเริ่มต้นในจุดที่คนๆนั้นอยู่และประกาศอย่างเรียบง่ายในแบบที่ฟีลิปทำนั้น เป็นวิธีเล่าเรื่องพระคริสต์ที่เกิดผลได้ ขณะทั้งสองเดินทางไปด้วยกัน ชายนั้นพูดว่า “นี่แน่ะ มีน้ำ” แล้วขอรับบัพติศมา (ข้อ 36) ฟีลิปทำตามที่ถูกขอ แล้วชายนั้นได้ “เดินทางต่อไปด้วยความพอใจ” (ข้อ 39) ฉันยินดีมากเมื่อชายที่เขียนอีเมลตอบกลับมาว่าเขาได้กลับใจ สารภาพบาปต่อพระคริสต์ ไปโบสถ์ และเชื่อว่าตนได้บังเกิดใหม่แล้ว ช่างเป็นการเริ่มต้นที่สวยงามจริงๆ! ขอพระเจ้าทรงนำเขาให้จำเริญมากยิ่งขึ้น!

หายไปกับอดีต

กษัตริย์ยองโจแห่งเกาหลี (ค.ศ.1694-1776) ทรงไม่พอพระทัยกับการทุจริตและความหรูหราฟุ่มเฟือยที่แพร่กระจายไปในแผ่นดินของพระองค์ จึงทรงตัดสินใจเปลี่ยนแปลงหลายสิ่ง มีกรณีตัวอย่างที่พระองค์ทรงกำจัดสิ่งไม่ดีไปพร้อมๆกับสิ่งที่ดีคือ การสั่งห้ามทำงานศิลปะปักด้ายทองแบบโบราณโดยถือเป็นความฟุ่มเฟือยเกินเหตุ ในไม่ช้า ความรู้เรื่องขั้นตอนอันซับซ้อนของงานศิลปะดังกล่าวก็สูญหายไปกับกาลเวลา

ในปี 2011 ศาสตราจารย์ซิม ยอนอ๊กต้องการฟื้นฟูศิลปะโบราณนั้น จากการสันนิษฐานว่าแผ่นทองคำเปลวถูกติดไว้บนกระดาษสาแล้วตัดเป็นเส้นเรียวด้วยมือ เธอจึงสร้างกระบวนการนั้นขึ้นได้อีกครั้ง เป็นการฟื้นฟูศิลปะโบราณขึ้นใหม่

ในหนังสืออพยพ เราได้เรียนรู้ถึงแบบการสร้างพลับพลาอันหรูหรางดงาม รวมถึงการนำเส้นทองคำมาทำเสื้อของปุโรหิตอาโรน ช่างผู้เชี่ยวชาญ “ตีทองใบแผ่ออกเป็นแผ่นบางๆแล้วตัดเป็นเส้นๆเพื่อจะทอเข้ากับด้ายสีฟ้า เข้ากับด้ายสีม่วง เข้ากับด้ายสีแดงเข้ม และเข้ากับเส้นป่านอย่างดี” (อพย.39:3) เกิดอะไรขึ้นกับงานฝีมือประณีตวิจิตรเหล่านั้น เสื้อผ้าเหล่านั้นเก่าและชำรุดไปหรือ หรือถูกปล้นเอาไปในภายหลัง มันหมดประโยชน์ไร้ค่าหรือ ไม่ใช่เลย! ความพยายามทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะพระเจ้าประทานคำสั่งอย่างเฉพาะเจาะจง

พระเจ้าประทานให้เราแต่ละคนมีสิ่งที่ต้องทำเช่นกัน อาจเป็นการแสดงความเมตตาแบบง่ายๆ เพื่อตอบแทนพระองค์ในขณะที่เรารับใช้กันและกัน เราไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับความพยายามของเราในท้ายที่สุด (1 คร.15:58) การงานใดๆที่เราทำเพื่อพระบิดาจะกลายเป็นเส้นด้ายที่ทอดยาวไปถึงนิรันดร์กาล

ลุกขึ้นเต้นรำ

ในวิดีโอที่ถูกแชร์ออกไปอย่างกว้างขวาง หญิงชราที่ดูภูมิฐานคนหนึ่งนั่งอยู่บนรถเข็น เธอคนนั้นคือมาร์ทา กอนซาเลซ ซัลดาญ่า อดีตนักเต้นบัลเลต์ชื่อดังที่บัดนี้ป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ แต่เมื่อเสียงเพลงสวอนเลค ของไชคอฟสกี้ดังขึ้นก็ได้เกิดบางสิ่งที่มหัศจรรย์ขณะที่ดนตรีบรรเลง มือบอบบางของเธอค่อยๆ ยกขึ้น และในทันทีที่เสียงทรัมเป็ตดัง เธอก็เริ่มแสดงจากบนรถเข็นนั้น แม้สมองและร่างกายจะเสื่อมสลายลง แต่พรสวรรค์ของเธอยังคงอยู่

สิ่งที่เห็นในวิดีโอนั้นทำให้ผมคิดถึงคำสอนของเปาโลเรื่องการเป็นขึ้นจากตายใน 1 โครินธ์ 15 ที่เปรียบเทียบร่างกายของเราว่าเป็นเมล็ดพืชที่ถูกหว่านก่อนที่จะงอกขึ้นเป็นต้น ท่านกล่าวว่าแม้ร่างกายของเราจะเสื่อมสลายลงตามอายุหรือความเจ็บไข้ การไร้เกียรติ หรือถูกทำลายจากความอ่อนแอ ร่างกายของผู้เชื่อที่เป็นขึ้นมาใหม่จะไม่ รู้จักเน่าเปื่อย มีศักดิ์ศรีและทรงอานุภาพ (ข้อ 42-44) ระหว่างเมล็ดพืชและต้นนั้นมีความเชื่อมโยงกันทางอินทรียสารฉันใด เราก็ยังเป็น “เรา” หลังจากการเป็นขึ้นมาจากความตาย บุคลิกภาพและพรสวรรค์ของเราจะคงอยู่ แต่เราจะจำเริญขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

เมื่อท่วงทำนองเพลงสวอนเลคที่อยู่ในความทรงจำเริ่มบรรเลงขึ้น มาร์ทาที่ในตอนแรกดูเศร้าสร้อย ซึ่งอาจเพราะคิดถึงสิ่งที่เธอเคยเป็นที่ไม่อาจทำได้อีกแล้ว แต่แล้วก็มีชายคนหนึ่งเอื้อมไปจับมือเธอไว้ และจะเป็นเช่นนั้นสำหรับเราด้วย เมื่อเสียงแตรดังขึ้น (ข้อ 52) มือหนึ่งจะเอื้อมมา และเราจะลุกขึ้นเต้นรำอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ทวงคืนเวลาของเรา

แม่ของฉันเล่าให้ฟังว่าท่านเลือกที่จะไม่เข้าเรียนมหาวิทยาลัยเพื่อจะได้แต่งงานกับพ่อในช่วงทศวรรษ 1960 แต่ท่านยังคงใฝ่ฝันที่จะเป็นครูสอนคหกรรมเสมอมา ต่อมาเมื่อมีลูกสามคน แม้จะไม่เคยได้รับปริญญาจากที่ไหน ท่านได้กลายเป็นผู้ช่วยด้านโภชนาการในระบบสุขภาพของรัฐหลุยเซียน่า ท่านสาธิตการทำอาหารเพื่อสุขภาพในแบบต่างๆ เหมือนกับครูสอนคหกรรม หลังจากเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตรวมถึงความฝันของท่านให้ฉันฟัง ท่านกล่าวว่าพระเจ้าทรงได้ยินคำอธิษฐานและได้ประทานให้ตามที่ใจท่านปรารถนา

ชีวิตของเราก็อาจเป็นเช่นนั้นด้วย แผนการของเรานำไปทางหนึ่ง แต่ความเป็นจริงไปอีกทางหนึ่ง แต่โดยพระเจ้า วันเวลาและชีวิตของเราสามารถกลายเป็นภาพอันงดงามที่สำแดงถึงพระกรุณา ความรัก และการฟื้นฟูจากพระองค์ พระเจ้าบอกกับชาวยูดาห์ (ยอล.2:21) ว่าพระองค์จะ “คืน” สิ่งที่พวกเขาสูญเสียและปีเดือนที่พวกเขาถูกฝูง “ตั๊กแตน” ทำลายไป (ข้อ 25) พระองค์ยังทรงช่วยเหลือเราเสมอในยามยากลำบากและในความฝันที่ยังไม่เป็นจริง เพราะเรารับใช้พระเจ้าองค์พระผู้ไถ่ผู้ทรงให้เกียรติและตอบแทนสิ่งที่เราเสียสละเพื่อพระองค์ (มธ.19:29)

ไม่ว่าเราจะกำลังเผชิญกับความยากลำบากแสนสาหัส หรือความฝันที่ยังไม่เป็นจริง ขอให้เราร้องเรียกหาพระเจ้าผู้ทรงฟื้นฟูสิ่งต่างๆขึ้นใหม่และสรรเสริญพระองค์

จิ้งจอกตัวเล็ก

นักบินใส่แก้วชาลงไปในที่วางแก้วไม่ได้ เขาจึงวางไว้บนแผงควบคุมตรงกลาง เมื่อเครื่องบินตกหลุมอากาศ น้ำชาจึงหกใส่แผงควบคุมทำให้เครื่องยนต์ดับ เที่ยวบินนั้นถูกเปลี่ยนเส้นทางและลงจอดอย่างปลอดภัย แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นอีกครั้งกับลูกเรือของสายการบินอื่นในเวลาสองเดือนต่อมา บริษัทผู้ผลิตจึงตระหนักว่ามีปัญหา เครื่องบินมีราคา 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่กลับมีที่วางแก้วเล็กเกินไป การละเลยที่ดูเหมือนเล็กน้อยนี้นำไปสู่ช่วงเวลาที่เจ็บปวดใจ

รายละเอียดเล็กๆสามารถทำลายแผนการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดได้ ดังนั้นชายในบทเพลงซาโลมอนจึงเรียกร้องให้คนรักจับ “สุนัขจิ้งจอกตัวเล็กที่ทำลายสวนองุ่น” แห่งความรักของพวกเขา (2:15) ท่านเคยเห็นว่ามีสุนัขจิ้งจอกปีนข้ามกำแพงและขุดคุ้ยเพื่อหาองุ่น การจับพวกมันทำได้ยากเพราะพวกมันพุ่งเข้าไปในสวนองุ่นและหายไปในความมืด แต่จะละเลยพวกมันไม่ได้

สิ่งใดคุกคามความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดที่สุดของคุณ อาจไม่ใช่เป็นการทำความผิดใหญ่โต แต่เป็นสุนัขจิ้งจอกตัวเล็กๆ คำพูดบางคำในบางเวลา ที่คอยขุดรากถอนโคนความรักของคุณ ความผิดเล็กน้อยสะสมมากขึ้น ทำให้มิตรภาพที่เคยเบ่งบานหรือชีวิตแต่งงานที่เคยดูดดื่มอาจตกอยู่ในภาวะวิกฤติ

ขอพระเจ้าทรงช่วยเราจับสุนัขจิ้งจอกตัวเล็กเหล่านั้นด้วยเถิด! ให้เราทูลขอและยอมให้อภัย และบำรุงเลี้ยงต้นองุ่นของเราในดินแห่งการแสดงความห่วงใยในขณะที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมสิ่งที่เราต้องการ

ทรงเตรียมที่ไว้สำหรับเรา

ครอบครัวเรากำลังวางแผนจะเลี้ยงลูกสุนัข ลูกสาววัย 11 ปีของผมจึงหาข้อมูลอยู่หลายเดือน เธอรู้ว่าสุนัขควรจะกินอะไร และจะแนะนำให้มันรู้จักกับบ้านใหม่ของเราอย่างไร นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดอื่นอีกมากมาย เธอบอกผมว่า ลูกสุนัขจะเรียนรู้ได้ดีที่สุดถ้ามันได้ทำความรู้จักห้องทีละห้อง เราจึงเตรียมห้องนอนสำรองเอาไว้อย่างดี ผมแน่ใจว่าจะยังมีเรื่องที่เราต้องประหลาดใจอีกแน่แต่การเตรียมการที่เปี่ยมไปด้วยความสุขของลูกสาวผม ครอบคลุมรายละเอียดทุกอย่างเอาไว้เป็นอย่างดี

วิธีที่ลูกสาวของผมเปลี่ยนการจดจ่อรอคอยที่จะได้ลูกสุนัขมาเป็นการเตรียมการด้วยความรัก ทำให้ผมคิดถึงพระคริสต์ที่ทรงปรารถนาจะใช้ชีวิตร่วมกับประชากรของพระองค์ และพระสัญญาที่จะเตรียมบ้านไว้ให้พวกเขา ในเวลาใกล้สิ้นสุดพระราชกิจบนโลกนี้ พระเยซูทรงเรียกร้องให้เหล่าสาวกวางใจในพระองค์โดยตรัสว่า “ท่านวางใจในพระเจ้า จงวางใจในเราด้วย” (ยน.14:1) จากนั้นทรงสัญญาว่าจะไป “จัดเตรียมที่ไว้สำหรับ[พวกเขา]... เพื่อว่า [พระองค์]อยู่ที่ไหน[พวกเขา]จะได้อยู่ที่นั่นด้วย” (ข้อ 3)

ในไม่ช้าพวกสาวกจะพบกับปัญหา แต่พระเยซูต้องการให้พวกเขารู้ว่าพระองค์ทรงกำลังเตรียมการที่จะพาพวกเขากลับบ้านไปหาพระเจ้า

ผมอดไม่ได้ที่จะชื่นชมกับการเตรียมตัวอย่างละเอียดรอบคอบที่ลูกสาวผมตั้งใจทำเพื่อลูกสุนัขตัวใหม่ของเรา ผมได้แต่จินตนาการว่าพระผู้ช่วยให้รอดของเราจะทรงยินดียิ่งกว่าเรามากสักแค่ไหนที่ได้ทรงจัดเตรียมให้เราแต่ละคนอย่างละเอียดรอบคอบเพื่อจะได้มีชีวิตนิรันดร์ร่วมกับพระองค์

ขอบคุณ แต่ไม่เป็นไร

โรงเรียนคริสเตียนสำหรับเด็กออทิสติกแห่งหนึ่งในอินเดียได้รับเงินบริจาคก้อนใหญ่จากบริษัทแห่งหนึ่ง หลังตรวจสอบว่าไม่มีข้อผูกมัดใดๆ พวกเขาจึงยอมรับเงินนั้น แต่ต่อมาบริษัทขอเป็นคณะกรรมการบริหารของโรงเรียน ผู้อำนวยการโรงเรียนจึงได้คืนเงินก้อนนั้นไป เธอไม่ยอมผ่อนปรนในจุดยืนของโรงเรียน เธอกล่าวว่า “การทำงานของพระเจ้าตามแนวทางของพระเจ้านั้นสำคัญกว่า”

เหตุผลในการปฏิเสธความช่วยเหลือมีมากมาย และนี่ก็เป็นเหตุผลหนึ่ง ในพระคัมภีร์เราเห็นอีกเหตุผลหนึ่ง เมื่อชาวยิวที่ถูกเนรเทศได้กลับมายังเยรูซาเล็ม กษัตริย์ไซรัสทรงมอบหมายให้พวกเขาสร้างพระวิหารขึ้นมาใหม่ (อสร.3) เมื่อเพื่อนบ้านเอ่ยว่า “ให้เราสร้างด้วยกันกับท่านเพราะว่าพวกเรานมัสการพระเจ้าของท่านอย่างท่านทั้งหลาย” (4:2) บรรดาผู้นำของอิสราเอลปฏิเสธ พวกเขาตัดสินใจว่าการยอมรับความช่วยเหลือนั้นจะทำให้การสร้างพระวิหารขึ้นใหม่ไม่สมบูรณ์ และการกราบไหว้รูปเคารพอาจคืบคลานเข้ามาในชุมชนของพวกเขา เพราะบรรดาเพื่อนบ้านเหล่านั้นกราบไหว้รูปเคารพด้วย ชนชาติอิสราเอลตัดสินใจถูกต้องแล้ว เพราะนับแต่นั้นมา “พวกเพื่อนบ้าน” ทำทุกวิถีทางเพื่อขัดขวางการก่อสร้างของพวกเขา

ด้วยความช่วยเหลือจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ และคำแนะนำของผู้เชื่อที่มีปัญญา เราสามารถพัฒนาสู่การแยกแยะที่ดีได้ และเราจะมั่นใจได้ในการปฏิเสธข้อเสนอที่ดูเป็นมิตรแต่อาจแฝงไว้ด้วยอันตรายฝ่ายวิญญาณ เพราะพระเจ้าจะไม่ทรงยอมให้พันธกิจที่ดำเนินตามแนวทางของพระองค์ต้องขาดสิ่งใด

ไม่ต้องมีสูตรสำเร็จ

เมื่อเจนยังเด็ก ครูสอนรวีฯผู้มีเจตนาดีได้ฝึกอบรมเด็กในชั้นเรียนเรื่องการประกาศ ซึ่งรวมถึงการท่องจำข้อพระคัมภีร์และสูตรสำเร็จในการแบ่งปันพระกิตติคุณ เธอกับเพื่อนลองใช้วิธีนี้อย่างประหม่ากับเพื่อนอีกคนหนึ่ง พวกเขากลัวจะลืมข้อพระคัมภีร์หรือขั้นตอนที่สำคัญไป เจน “จำไม่ได้ว่าเย็นวันนั้นจบลงด้วยการที่เพื่อนรับเชื่อหรือไม่ แต่เดาว่าไม่” ดูเหมือนวิธีการที่เธอใช้จะให้ความสำคัญกับการทำตามสูตรมากกว่าตัวบุคคล

หลายปีต่อมา ตอนนี้เจนและสามีกำลังเป็นตัวอย่างที่แสดงให้ลูกๆเห็นถึงความรักที่พวกเขามีต่อพระเจ้าและแบ่งปันความเชื่อของพวกเขาด้วยวิธีการที่น่าสนใจมากขึ้น พวกเขาเข้าใจถึงความสำคัญในการสอนลูกๆเรื่องพระเจ้า พระคัมภีร์ และการมีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับพระเยซู แต่พวกเขากำลังทำเช่นนั้นผ่านการดำเนินชีวิต ที่สำแดงถึงความรักต่อพระเจ้าและพระวจนะในแต่ละวัน พวกเขากำลังแสดงให้เห็นว่าการเป็น “ความสว่างของโลก” (มธ.5:14) รวมถึงการประกาศด้วยคำพูดที่อ่อนโยนและเป็นมิตรนั้นเป็นเช่นไร เจนกล่าวว่า “เราไม่สามารถส่งต่อถ้อยคำแห่งชีวิตไปยังผู้อื่นได้หากตัวเราเองไม่มีถ้อยคำนั้นอยู่ในชีวิต” เมื่อเธอและสามีแสดงความกรุณาในวิถีการดำเนินชีวิตของตนเอง พวกเขาก็กำลังเตรียมลูกๆให้ “นำผู้อื่นมาเชื่อ”

เราไม่จำเป็นต้องมีสูตรสำเร็จในการนำผู้อื่นมาหาพระเยซู สิ่งสำคัญที่สุดคือ ความรักที่เรามีต่อพระเจ้าจะต้องมีอิทธิพลและส่องสว่างผ่านชีวิตของเรา เมื่อเราดำเนินชีวิตและแบ่งปันความรักของพระองค์ พระเจ้าจะนำผู้อื่นให้มารู้จักพระองค์เช่นกัน

พระเยซูกับความยุติธรรม

ซีซาร์ ออกัสตัส (63 ปีก่อนค.ศ. - ค.ศ.14) จักรพรรดิองค์แรกของอาณาจักรโรมัน ต้องการเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ปกครองที่เข้มงวดในเรื่องกฎระเบียบต่างๆ แม้พระองค์จะสร้างอาณาจักรจากแรงงานทาส การยึดอำนาจทางทหาร และการติดสินบน แต่พระองค์ก็ได้ฟื้นฟูกระบวนการยุติธรรมและมอบเทพียูสทิเทียซึ่งในระบบยุติธรรมทุกวันนี้เรียกว่าเทพียุติธรรมให้กับพลเมืองของพระองค์ พระองค์ยังให้มีการสำรวจสำมะโนประชากร ซึ่งนำมารีย์และโยเซฟมาที่เบธเลเฮมเพื่อให้กำเนิดผู้ปกครองที่เฝ้ารอมานาน ผู้ซึ่งความยิ่งใหญ่ของพระองค์จะไปถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก (มคา.5:2-4)

สิ่งที่ออกัสตัสและคนทั้งโลกคาดไม่ถึงก็คือ การที่จอมกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ทรงมีชีวิตและสิ้นพระชนม์เพื่อสำแดงให้เห็นถึงความยุติธรรมที่แท้จริง หลายศตวรรษก่อนหน้าในสมัยของมีคาห์ ประชากรของพระเจ้ากลับไปเกลือกกลั้วกับการโกหก ความรุนแรง และ “ทรัพย์สมบัติที่ได้มาจากการชั่วร้าย” (6:10-12) ชนชาติที่พระเจ้าทรงรักมองไม่เห็นพระองค์ พระองค์ปรารถนาที่พวกเขาจะแสดงให้โลกเห็นถึงความหมายของการกระทำสิ่งที่ถูกต้องต่อกัน และเดินอย่างถ่อมใจไปกับพระองค์ (ข้อ 8)

กษัตริย์ผู้รับใช้ทรงเป็นแบบอย่างของความยุติธรรม ซึ่งผู้คนที่เจ็บปวด ถูกลืม และช่วยเหลือตัวเองไม่ได้นั้นรอคอย คำพยากรณ์ของมีคาห์ที่สำเร็จโดยพระเยซูทำให้มนุษย์กลับมามีสัมพันธ์ที่ถูกต้องกับพระเจ้าและกับมนุษย์ด้วยกัน สิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นจากการบังคับใช้กฎหมายและกฎระเบียบแค่ภายนอกของซีซาร์ แต่เกิดจากเสรีภาพแห่งพระเมตตา ความดี และจิตวิญญาณของพระเยซู กษัตริย์ผู้รับใช้ของเรา

เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไป นั่นเป็นการแสดงว่าท่านยอมรับ นโยบายการใช้คุกกี้ของเรา