เมื่อฉลามไม่กัด
ลูกๆ ของฉันรู้สึกตื่นเต้น แต่ฉันกลับเป็นกังวล ช่วงปิดเทอมเราไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำซึ่งอนุญาตให้ผู้ชมเอามือไปสัมผัสฉลามตัวเล็กๆ ในถังชนิดพิเศษได้ ฉันถามคนดูแลว่า ฉลามเคยงับนิ้วผู้ชมไหม เธออธิบายว่า เราเพิ่งให้อาหารและเพิ่มปริมาณให้มัน มันจะไม่กัดใครเพราะมันไม่หิว
พระเจ้าทรงเริงโลด
เมื่อไม่นานมานี้ ย่าของฉันได้ส่งสมุดรูปภาพเก่ามาให้ ขณะที่พลิกดูสมุดเล่มนั้น ฉันสะดุดตากับภาพหนึ่ง เป็นภาพฉันตอนสองขวบกำลังนั่งอยู่หน้าเตาผิง มีพ่อนั่งโอบไหล่แม่อยู่อีกด้านหนึ่ง ทั้งสองกำลังจ้องมาที่ฉันด้วยแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความรักและความชื่นชม
เล่นซ่อนหา
"เขาต้องหาผมพบแน่ๆ” ผมคิด หัวใจผมเริ่มเต้นถี่ขึ้นเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของลูกพี่ลูกน้องวัย 5 ขวบที่เดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ห่างออกไปแค่ห้าก้าว สาม สอง “โป้ง”
พระผู้ช่วยให้รอดรู้จักเรา
"พ่อครับ กี่โมงแล้ว” ลูกชายถามผมจากเบาะหลัง “5:30 น.ครับ” ผมรู้ว่าเขาจะพูดอะไรต่อ “ไม่ใช่ครับ ขณะนี้เวลา 5:28 น.” แล้วผมก็เหลือบไปดูใบหน้าและรอยยิ้มกว้างของเขาที่หลอกผมสำเร็จ ผมดีใจที่รู้ว่าลูกชอบอะไร ซึ่งเป็นสิ่งที่พ่อแม่เท่านั้นที่รู้
รักที่ปราศจากความกลัว
หลายปีที่ฉันเหมือนมีเกราะป้องกันเพราะกลัวถูกทำร้ายจิตใจ จนกลายเป็นข้ออ้างไม่ยอมลองทำสิ่งใหม่ ไม่ทำตามฝัน และไม่เชื่อฟังพระเจ้า ฉันกลัวการสูญเสีย ความปวดใจและการถูกปฏิเสธ จึงไม่อาจพัฒนาความรักและความสัมพันธ์กับพระเจ้าและผู้อื่น ทำให้ฉันเป็นภรรยาที่รู้สึกไม่มั่นคง มักวิตกกังวลและขี้อิจฉา เป็นแม่ที่กังวลและปกป้องลูกมากเกินไป แต่เมื่อค่อยๆ เรียนรู้ว่าพระเจ้ารักฉันมาก พระองค์ทรงเปลี่ยนวิธีที่ฉันสัมพันธ์กับพระองค์และผู้อื่น เพราะรู้ว่ามีพระเจ้าคอยดูแลฉันจึงรู้สึกมั่นคงขึ้น และเต็มใจให้ความต้องการของผู้อื่นมาก่อนความต้องการของตัวเอง
กอดแน่นๆ
"หมี” เป็นของขวัญที่ฉันมอบให้หลาน มีความรักอัดแน่นอยู่ในตุ๊กตาตัวยักษ์ หนูน้อยดีตอบสนองอย่างไรน่ะหรือ ตอนแรกสงสัย ต่อมาประหลาดใจแล้วก็เริ่มสำรวจด้วยความอยากรู้อยากเห็น เขาใช้นิ้วกลมๆ จิ้มไปตรงจมูกของเจ้าหมี และเมื่อหมีล้มลงมาในอ้อมกอดของเขา เขาก็แสนชื่นบาน หนูน้อยดีแนบศีรษะกับอกอันปุกปุยและกอดตุ๊กตาแน่น ลักยิ้มปรากฏบนแก้มทั้งสองเมื่อเขาซุกหน้ากับความอ่อนนุ่มของเจ้าหมี เด็กน้อยไม่รู้ว่าตุ๊กตาไม่สามารถรักเขาได้จริง เขาสัมผัสความรักของเจ้าหมี และตอบสนองอย่างหมดใจอย่างไร้เดียงสาและเป็นธรรมชาติ
ความรักจะไม่หยุด
เมื่อฉันอายุย่างเข้า 19 ปี ฉันต้องย้ายไปอยู่ห่างจากแม่ไกล 1,100 กิโลเมตร โดยไม่มีวิทยุติดตามตัวหรือโทรศัพท์มือถือ เช้าวันหนึ่งฉันออกจากบ้านไปทำธุระแต่เช้า จึงลืมโทรหาแม่ตามเวลา ต่อมาในคืนวันนั้นตำรวจสองนายมาที่บ้านของฉัน แม่กังวลมากเพราะฉันโทรหาท่านเป็นประจำไม่เคยขาด พอแม่โทรหาฉันไม่ติดอยู่หลายครั้ง ท่านจึงติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ช่วยตรวจสอบว่าฉันยังปลอดภัยหรือไม่ เจ้าหน้าที่นายหนึ่งบอกฉันว่า “เป็นเรื่องดีมากที่ได้รู้ว่าความรักจะไม่หยุดตามหาคุณ”
จงมารับไป!
ผมแอบมองผ่านรั้วไม้หลังบ้าน เห็นผู้คนกำลังวิ่งและเดินออกกำลังกายอยู่ที่ทางเดินรอบสวนสาธารณะหลังบ้านของเรา ผมคิดว่า ผมก็เคยทำแบบนี้ตอนที่ผมแข็งแรงกว่านี้ แล้วผมก็รู้สึกไม่พอใจในสภาพที่เป็นอยู่ขึ้นมาทันที
ช่วงเวลานั้น
ประตูรถพยาบาลกำลังจะปิดโดยมีผมอยู่ข้างใน ส่วนข้างนอกลูกชายของผมกำลังโทรหาแม่ ผมเรียกชื่อเขาทั้งที่ยังมึนงง เขาเล่าให้ฟังว่าผมค่อยๆ พูดว่า “บอกแม่ด้วยว่าพ่อรักแม่มาก”