Month: สิงหาคม 2021

เหตุผลที่ดี

ผู้หญิงทั้งสองคนนั่งตรงที่นั่งริมทางเดินคนละฝั่งในแถวเดียวกัน เที่ยวบินนั้นใช้เวลาเดินทางสองชั่วโมง ผมจึงมีโอกาสได้เห็นปฏิสัมพันธ์ของพวกเธอ แน่นอนว่าพวกเธอรู้จักกัน อาจจะเกี่ยวดองกันด้วย คนที่ดูอายุน้อยกว่า (น่าจะวัยหกสิบปี) คอยล้วงกระเป๋ายื่นสิ่งต่างๆให้อีกคนที่สูงวัยกว่า (ผมเดาว่าวัยเก้าสิบ) ทั้งแอปเปิ้ลหั่นชิ้น แซนด์วิชทำเองขนาดพอดีคำ ต่อด้วยผ้าเช็ดปาก ตบท้ายด้วยหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ การยื่นให้ในแต่ละครั้งนั้นทั้งอ่อนโยนและดูภาคภูมิ เมื่อเราลุกขึ้นเตรียมตัวลงจากเครื่อง ผมบอกกับหญิงที่อายุน้อยกว่าว่า “ผมสังเกตเห็นวิธีที่คุณดูแลเธอ มันงดงามมาก” เธอตอบว่า “ท่านเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน ท่านเป็นแม่ฉันเอง”

คงดีใช่ไหมถ้าเราทุกคนสามารถพูดเช่นนั้นได้ พ่อแม่บางคนเป็นเหมือนเพื่อนสนิท พ่อแม่บางคนไม่ใกล้เคียงแม้แต่น้อย ความจริงคือความสัมพันธ์นี้มักจะซับซ้อน จดหมายของเปาโลถึงทิโมธีไม่ได้ละเลยในจุดนี้ และยังคงเรียกร้องให้เรา “หัด​ปฏิบัติ​หน้าที่​ทาง​ศาสนา” ด้วยการดูแลพ่อแม่ปู่ย่าตายาย หรือก็คือ “วงศ์ญาติ” และ “คนในบ้านเรือน” ของเรา (1 ทธ.5:4,8)

เราทุกคนมักจะให้การดูแลก็ต่อเมื่อสมาชิกครอบครัวคนนั้นดีหรือเคยดีต่อเรา หรือพูดอีกแง่หนึ่งคือ ตามที่พวกเขาสมควรได้รับ แต่เปาโลให้เหตุผลที่งดงามกว่าในการตอบแทนพวกเขาคือ ให้ดูแลพวกเขาเพราะ “​การ​กระทำ​เช่นนี้​เป็น​ที่​พอ​พระ​ทัย​พระ​เจ้า” (ข้อ 4)

การเลี้ยงดูของพระเจ้า

เราเดินลึกเข้าไปในป่าเรื่อยๆค่อยๆห่างจากหมู่บ้านในมณฑลยูนนาน ประเทศจีน หลังจากผ่านไปราวหนึ่งชั่วโมง เราก็ได้ยินเสียงน้ำที่ดังสนั่นหวั่นไหว เราจึงรีบเร่งฝีเท้า ไม่นานก็มาถึงที่โล่งและได้พบกับภาพทิวทัศน์อันงดงามของม่านน้ำสีขาวที่ไหลบ่าลงเหนือแนวหินสีเทา ช่างน่าประทับใจยิ่งนัก!

เพื่อนร่วมการปีนเขาของเราซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่บ้านที่เราจากมาเมื่อชั่วโมงที่แล้วตัดสินใจว่าเราควรจะปิคนิคที่นี่ เป็นความคิดที่ดีแต่อาหารอยู่ที่ไหนล่ะ เราไม่ได้นำอาหารมาด้วย เพื่อนๆของฉันหายเข้าไปในป่าที่ล้อมรอบบริเวณนั้นและกลับออกมาพร้อมด้วยผักและผลไม้หลากหลายรวมถึงปลาด้วย ผักเลือนดูแปลกตาด้วยดอกเล็กๆสีม่วง แต่รสชาติอร่อยลิ้น!

อีกครั้งที่ฉันระลึกว่าสิ่งทรงสร้างนั้นประกาศถึงการเลี้ยงดูอันอุดมของพระเจ้า เราเห็นหลักฐานถึงพระทัยอันกว้างขวางของพระองค์ได้ใน “​ผัก​หญ้า​ที่​มี​เมล็ด​ตาม​ชนิด​ของ​มัน และ​ต้นไม้​ที่​ออก​ผล​มี​เมล็ด​ใน​ผล​ตาม​ชนิด​ของ​มัน” (ปฐก.1:12) พระเจ้าทรงสร้างและประทาน “​พืช​ที่​มี​เมล็ด​ทั้งหมด...และ​ต้นไม้​ทุก​ชนิด​ที่​มี​เมล็ด​ใน​ผล​ของ​มัน​” ให้เราเป็นอาหาร ​​(ข้อ 29)

บางครั้งคุณพบว่าเป็นเรื่องยากที่จะวางใจพระเจ้าว่าจะประทานสิ่งจำเป็นแก่คุณหรือไม่ ทำไมไม่ลองไปเดินเล่นท่ามกลางธรรมชาติดู ให้สิ่งที่คุณเห็นตอกย้ำถ้อยคำของพระเยซูที่ว่า “​อย่า​กระวน​กระวาย​ว่าจะ​เอา​อะไร​กิน หรือ​จะ​เอา​อะไร​ดื่ม...​พระ​บิดา​ของ​ท่าน​ผู้​ทรง​สถิต​ใน​สวรรค์​ทรง​ทราบ​แล้ว​ว่า ท่าน​ต้อง​การ​สิ่ง​ทั้ง​ปวง​เหล่า​นี้​” (มธ.6:31-32)

รักศัตรู

ผมหลบเข้าไปในห้องก่อนเธอจะเห็นผม ผมรู้สึกอายที่ต้องหลบซ่อนแต่ผมไม่อยากคุยกับเธอในตอนนั้นหรือตลอดไป ผมอยากบอกให้เธอไปหรือให้เธอรู้ตัว แม้ผมจะเคยหงุดหงิดกับพฤติกรรมของเธอในอดีต แต่เป็นไปได้ว่าผมเป็นฝ่ายที่ทำให้เธอขัดเคืองใจมากยิ่งกว่า!

ชาวยิวและชาวสะมาเรียก็มีความสัมพันธ์ที่ขัดเคืองใจต่อกันเช่นกัน จากการมีเชื้อสายที่หลากหลายและนมัสการพระของตัวเอง ชาวสะมาเรียในสายตาของชาวยิวได้ทำให้สายเลือดและความเชื่อของคนยิวเสียหาย และก่อตั้งศาสนาคู่แข่งบนภูเขาเกริซิม (ยน.4:20) ที่จริงชาวยิวรังเกียจชาวสะมาเรียมากจนยอมเดินทางอ้อมเมืองไปซึ่งไกลกว่าเดินทางตรงผ่านดินแดนสะมาเรีย

พระเยซูทรงเปิดเผยให้เห็นหนทางที่ดีกว่า พระองค์นำความรอดมาสู่ทุกคนรวมทั้งชาวสะมาเรียด้วย ด้วยเหตุนี้พระองค์จึงเข้าไปยังใจกลางดินแดนสะมาเรียเพื่อนำน้ำธำรงชีวิตไปให้หญิงคนบาปและเมืองของเธอ (ข้อ 4-42) ถ้อยคำสุดท้ายที่พระองค์ตรัสแก่สาวกคือ ให้ทำตามแบบอย่างของพระองค์ พวกเขาต้องประกาศข่าวประเสริฐแก่ทุกคน เริ่มจากเยรูซาเล็มและแพร่ไปผ่านสะมาเรียจนถึง “​ที่สุด​ปลาย​แผ่นดิน​โลก” (กจ.1:8) สะมาเรียเป็นมากกว่าลำดับถัดไปทางภูมิศาสตร์ แต่เป็นส่วนที่เจ็บปวดที่สุดในพันธกิจ เหล่าสาวกต้องเอาชนะอคติที่มีมาทั้งชีวิตและรักคนที่พวกเขาไม่ชอบ

พระเยซูทรงสำคัญสำหรับเรามากกว่าความคับข้องใจของเราหรือไม่ มีหนทางเดียวเท่านั้นที่จะทำให้แน่ใจได้ นั่นคือจงรักคนที่เปรียบเหมือน “ชาวสะมาเรีย” ของคุณ

ไม่แสวงหาการแก้แค้น

ชาวสวนขึ้นรถกระบะและเริ่มออกไปสำรวจพืชผลยามเช้า เมื่อไปถึงสุดเขตที่ดินเขาเริ่มรู้สึกเดือดดาล มีคนแอบมาใช้พื้นที่ห่างไกลของสวนเป็นที่ทิ้งขยะ อีกแล้ว

เมื่อเขาโยนถุงขยะที่เป็นเศษอาหารเหล่านั้นขึ้นรถ เขาพบซองจดหมายฉบับหนึ่ง บนหน้าซองมีที่อยู่ของผู้ที่ทำความผิดนี้ นี่เป็นโอกาสที่ดีเกินกว่าจะปล่อยให้ผ่านไป คืนนั้นเขาขับรถไปที่บ้านของผู้ก่อเหตุและทิ้งขยะในสวนของเขา ซึ่งไม่ใช่แค่ขยะที่เก็บมาแต่มีขยะจากบ้านของเขาด้วย!

มีบางคนกล่าวไว้ว่า การแก้แค้นนั้นแสนหวาน แต่มันเป็นเรื่องถูกต้องหรือไม่ ใน 1 ซามูเอล 24 ดาวิดกับคนของท่านซ่อนอยู่ในถ้ำเพื่อหนีจากกษัตริย์ซาอูลที่ตามฆ่า เมื่อซาอูลเข้าไปในถ้ำเดียวกันเพื่อปลดทุกข์ คนของดาวิดเห็นโอกาสที่ดีเกินกว่าจะปล่อยให้ผ่านไปเพื่อให้ดาวิดได้แก้แค้น (ข้อ 3-4) แต่ดาวิดต่อต้านความปรารถนาที่จะเอาคืนนี้ “​พระ​เจ้า​ทรง​ห้าม​ไม่ให้​ข้าพเจ้า​กระทำ​สิ่ง​นี้​ต่อ​เจ้านาย​ของ​ข้าพเจ้า” ท่านกล่าว (ข้อ 6) เมื่อซาอูลรู้ว่าดาวิดเลือกที่จะไว้ชีวิตพระองค์ ซาอูลประหลาดใจยิ่งนัก “เจ้า​ชอบธรรม​ยิ่ง​กว่า​ข้า” พระองค์ประกาศ (ข้อ 17-18)

เมื่อเราหรือคนที่เรารักต้องเผชิญกับความอยุติธรรม โอกาสที่จะได้แก้แค้นผู้กระทำผิดอาจมาถึงเรา เราจะยอมจำนนต่อความปรารถนาเช่นเดียวกับชาวสวนคนนั้น หรือต่อต้านเหมือนกับดาวิด เราจะเลือกความชอบธรรมเหนือการแก้แค้นหรือไม่

ทรงพาเราผ่านพายุ

ระหว่างการเดินทางไปอินเดียครั้งแรกของมิชชันนารีชาวสก๊อต อเล็กซานเดอร์ ดัฟฟ์ในปี 1830 เรือของเขาอับปางกลางพายุใกล้ชายฝั่งของแอฟริกาใต้ เขากับเพื่อนผู้โดยสารเรือรอดไปถึงเกาะร้างเล็กๆ และไม่นานต่อมาลูกเรือคนหนึ่งก็พบพระคัมภีร์ของดัฟฟ์ถูกพัดมาติดหาดทราย เมื่อพระคัมภีร์แห้งแล้วดัฟฟ์ก็อ่านสดุดี 107 ให้ผู้รอดชีวิตฟังและพวกเขาก็มีกำลังใจ ในที่สุดหลังจากได้รับการช่วยเหลือและมีเหตุการณ์เรือแตกอีกครั้ง ดัฟฟ์ก็ไปถึงอินเดีย

พระธรรมสดุดี 107 กล่าวถึงวิธีการบางอย่างที่พระเจ้าใช้ปลดปล่อยคนอิสราเอล ไม่ต้องสงสัยว่าดัฟฟ์และลูกเรือเข้าใจเป็นอย่างดีและได้รับการปลอบประโลมใจจากถ้อยคำที่ว่า “พระ​องค์​ทรง​กระทำ​ให้​พายุ​สงบ​ลงและ​คลื่น​ทะเล​ก็​นิ่ง แล้ว​เขา​ก็​ยินดี​เพราะ​เขา​มี​ความ​เงียบ และ​พระ​องค์​ทรง​นำ​เขา​มายัง​ท่า​ที่​เขา​ปรารถนา” (ข้อ 29-30) และเช่นเดียวกับคนอิสราเอล พวกเขา “​ขอบ​พระ​คุณ​พระ​เจ้า เพราะ​ความ​รัก​มั่นคง​ของ​พระ​องค์ เพราะ​การ​อัศจรรย์​ของ​พระ​องค์​ที่​มี​ต่อ​บุตร​ของ​มนุษย์” (ข้อ 31)

เราเห็นความคล้ายคลึงระหว่างสดุดี 107:28-30 กับพันธสัญญาใหม่ (มธ.8:23-27; มก.4:35-41) พระเยซูและสาวกอยู่ในเรือกลางทะเลเมื่อเกิดพายุรุนแรง สาวกร้องด้วยความกลัวและพระเยซูซึ่งเป็นพระเจ้าผู้สวมสภาพมนุษย์ทรงทำให้ทะเลสงบลง เราเองก็มีกำลังใจได้เช่นกัน! พระเจ้าและพระผู้ช่วยให้รอดผู้ทรงฤทธิ์ทรงได้ยินและตอบคำร้องทูลของเรา และจะทรงปลอบประโลมเราในท่ามกลางพายุ

สันติสุขในความโกลาหล

มีบางอย่างที่เหมือนกับเสียงประทัดทำให้โจแอนน์ตื่นจากหลับ เป็นเสียงกระจกแตก เธอลุกขึ้นดูว่าเกิดอะไรขึ้นขณะคิดในใจว่าคงจะดีถ้าเธอไม่ต้องอยู่ตัวคนเดียว ถนนที่มืดมิดนั้นว่างเปล่าและบ้านก็ดูปกติดี แล้วเธอก็เห็นกระจกที่แตก

ตำรวจพบกระสุนปืนตกห่างจากท่อแก๊สเพียงครึ่งนิ้ว หากกระสุนโดนท่อเธอคงไม่น่าจะรอดชีวิต ภายหลังพวกเขาพบว่าเป็นกระสุนลูกหลงจากอพาร์ตเมนต์ใกล้ๆ แต่ตอนนี้โจแอนน์กลัวไม่กล้าอยู่บ้าน เธออธิษฐานขอสันติสุข และเมื่อเศษกระจกถูกเก็บกวาดเรียบร้อย จิตใจของเธอก็สงบลง

พระธรรมสดุดี 121 เตือนให้เรามองไปที่พระเจ้าในเวลาที่มีปัญหา ในที่นี้เราได้เห็นว่าเรามีสันติสุขและสงบได้เพราะ “ความ​อุปถัมภ์​ของ​ข้าพเจ้า​มา​จาก​พระ​เจ้า ผู้​ทรง​สร้าง​ฟ้า​สวรรค์​และ​แผ่นดิน​โลก” (ข้อ 2) พระเจ้าผู้ทรงสร้างจักรวาลทรงช่วยเหลือและดูแลเรา (ข้อ 3) แม้ในขณะที่เราหลับ แต่พระองค์เองไม่เคยหลับ (ข้อ 4) พระองค์ทรงดูแลเราทั้งกลางวันและกลางคืน (ข้อ 6) “ตั้งแต่​กาล​บัดนี้​สืบไป​เป็น​นิตย์​” (ข้อ 8)

ไม่ว่าเราจะอยู่ในสถานการณ์ใด พระเจ้าทรงทอดพระเนตรเห็น และพระองค์กำลังรอคอยให้เราหันหาพระองค์ เมื่อเราทำเช่นนั้น สถานการณ์ของเราอาจจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงเสมอไป แต่พระองค์ทรงสัญญาว่าสันติสุขของพระองค์จะอยู่ด้วยในทุกสถานการณ์

จดจำและเฉลิมฉลอง

วันที่ 6 ธันวาคม 1907 แรงระเบิดสั่นสะเทือนชุมชนเล็กๆในรัฐเวสต์เวอร์จิเนียเป็นหายนะร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์อุตสาหกรรมเหมืองถ่านหิน ชาวเหมือง 360 คนเสียชีวิต และประมาณการว่าโศกนาฏกรรมนี้ทำให้มีหญิงม่ายประมาณ 250 คนและเด็กนับพันที่ไร้พ่อ นักประวัติศาสตร์กล่าวว่างานไว้อาลัยครั้งนั้นคือที่มาของการเฉลิมฉลองวันพ่อในสหรัฐในเวลาต่อมา ความสูญเสียครั้งใหญ่ก่อให้เกิดการจดจำและการเฉลิมฉลองในที่สุด

โศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์เกิดขึ้นเมื่อมนุษย์ตรึงองค์พระผู้สร้างของพวกเขาที่กางเขน กระนั้น ช่วงเวลาที่มืดมนนั้นก็นำมาซึ่งการจดจำและการเฉลิมฉลอง คืนก่อนที่จะทรงถูกตรึง พระเยซูหยิบของในเทศกาลปัสกาของอิสราเอลมาและจัดให้มีการฉลองเพื่อระลึกถึงพระองค์เอง บันทึกของลูกาบรรยายไว้อย่างนี้ว่า “พระ​องค์​ทรง​หยิบ​ขนม​ปัง โมทนา​พระ​คุณ แล้ว​หัก​ส่ง​ให้แก่​เขา​ทั้ง​หลาย ตรัส​ว่า “นี่​เป็น​กาย​ของ​เราซึ่ง​ได้​ให้​สำหรับ​ท่าน​ทั้ง​หลาย จง​กระทำ​อย่าง​นี้​ให้​เป็น​ที่​ระลึก​ถึง​เรา” (ลก.22:19)

จนถึงทุกวันนี้ ทุกครั้งที่เรารับศีลมหาสนิท เราก็ได้ถวายเกียรติให้กับความรักยิ่งใหญ่ของพระองค์ที่มีต่อเรา โดยการระลึกถึงราคาที่ทรงจ่ายเพื่อช่วยกู้เราและเฉลิมฉลองของประทานแห่งชีวิตจากการเสียสละของพระองค์ ตามที่ชาร์ลส์ เวสลีย์เขียนไว้ในเพลงนมัสการว่า “ความรักประหลาดเป็นได้อย่างไร ที่ผู้ไถ่วายพระชนม์เพื่อข้า”

พระเจ้าทรงรู้เรื่องราวของคุณ

ขณะที่ฉันขับรถกลับบ้านหลังรับประทานอาหารเที่ยงกับเพื่อนสนิท ฉันออกเสียงขอบคุณพระเจ้าสำหรับเธอ เธอรู้จักและรักฉันแม้จะมีหลายสิ่งที่ฉันเองยังไม่ชอบเกี่ยวกับตัวเองเลย เธอเป็นหนึ่งในแวดวงคนสนิทไม่กี่คนที่ยอมรับฉันอย่างที่ฉันเป็น ทั้งความประหลาด นิสัยและข้อผิดพลาดต่างๆ กระนั้นก็ยังมีเรื่องราวบางส่วนที่ฉันไม่ได้เล่าให้เธอหรือคนอื่นที่ฉันรักฟัง ทั้งเรื่องราวที่ฉันไม่ใช่นางเอกของเรื่อง เรื่องที่ฉันด่วนตัดสินหรือใจร้ายหรือขาดความรัก

แต่พระเจ้าทรงทราบเรื่องของฉันทั้งสิ้น พระองค์คือผู้เดียวที่ฉันพูดคุยได้อย่างอิสระแม้ฉันจะลังเลไม่กล้าพูดกับคนอื่น

ถ้อยคำที่คุ้นเคยในสดุดี 139 บรรยายถึงความสนิทสนมที่เราจะชื่นชมได้ร่วมกับองค์จอมกษัตรา พระองค์ทรงรู้จักเราในทุกด้าน! (ข้อ 1) “ทรง​คุ้นเคย​กับ​ทาง​ทั้งสิ้น​” ของเรา (ข้อ 3) พระองค์เชื้อเชิญให้เรานำความสับสน ความคิดกังวลและการต่อสู้กับการทดลองเข้ามาหาพระองค์ เมื่อเราเต็มใจยอมจำนนต่อพระองค์โดยสิ้นเชิง พระองค์จะทรงยื่นพระหัตถ์ออกมาเพื่อรื้อฟื้นและเขียนเรื่องราวที่ทำให้เราเศร้าเพราะเราเหินห่างจากพระองค์นั้นขึ้นใหม่

พระเจ้าทรงรู้จักเราดียิ่งกว่าใครทั้งสิ้น และกระนั้น...พระองค์ยังทรงรักเรา! เมื่อเรายอมจำนนต่อพระองค์ ในแต่ละวันและแสวงหาที่จะรู้จักพระองค์มากขึ้น พระองค์สามารถเปลี่ยนเรื่องราวของเราเพื่อพระเกียรติของพระองค์ได้ พระองค์คือผู้ประพันธ์ที่ยังคงเขียนเรื่องราวอยู่เสมอ

เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไป นั่นเป็นการแสดงว่าท่านยอมรับ นโยบายการใช้คุกกี้ของเรา