Month: กรกฎาคม 2020

มองไปด้านบน

เมื่อไวลี่ย์ โอเวอร์สตรีท ผู้ผลิตภาพยนตร์ได้ถ่ายทอดสดภาพของดวงจันทร์ที่มองผ่านกล้องส่องทางไกลคุณภาพสูง ผู้ชมพากันตะลึงกับภาพที่เห็นในระยะใกล้นั้น ไวลี่ย์อธิบายว่า การได้เห็นภาพที่งดงาม “ทำให้เรารู้สึกประหลาดใจว่ายังมีบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเรามาก”

ดาวิดผู้เขียนสดุดีก็อัศจรรย์ใจกับแสงสวรรค์ของพระเจ้าเช่นกัน “เมื่อข้าพระองค์มองดูฟ้าสวรรค์อันเป็นฝีพระหัตถ์ของพระองค์ ดวงจันทร์และดวงดาวซึ่งพระองค์ได้ทรงสถาปนาไว้ มนุษย์เป็นผู้ใดเล่าซึ่งพระองค์ทรงระลึกถึงเขา และบุตรของมนุษย์เป็นใครเล่าซึ่งพระองค์ทรงเยี่ยมเขา” (สดด.8:3-4)

คำถามที่ถ่อมใจของดาวิดใส่มุมมองแห่งความยำเกรงให้กับเรา เมื่อได้รู้ว่าหลังจากที่พระเจ้าทรงสร้างสวรรค์และโลกใหม่แล้ว เราไม่จำเป็นต้องมีดวงจันทร์หรือดวงอาทิตย์อีกต่อไป อัครทูตยอห์นบอกว่า พระสง่าราศีของพระเจ้าจะเป็นแสงส่องสว่างให้เรา “นครนั้นไม่ต้องการแสงของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ เพราะว่าพระสิริของพระเจ้าเป็นแสงสว่างของนครนั้น และพระเมษโปดกทรงเป็นดวงประทีปของนครนั้น... และจะไม่มีเวลากลางคืนในนครนั้นเลย” (วว.21:23-25)

ช่างเป็นความคิดที่อัศจรรย์ และเราสามารถมีประสบการณ์กับแสงสว่างแห่งสวรรค์ได้ในเวลานี้ ด้วยการแสวงหาพระคริสต์ผู้เป็นความสว่างของโลก ตามที่ไวลี่ย์ได้แนะนำว่า “เราควรมองไปด้านบนให้บ่อยขึ้น” เพื่อเราจะเห็นพระเจ้า PR

แยกกันอย่างกลมเกลียว

การที่อัลวินถูกมอบหมายให้ทำโครงงานร่วมกับทิมเพื่อนร่วมงาน ทำให้เขารู้สึกลำบากใจมาก เขาและทิมมีแนวคิดที่แตกต่างกันมาก แม้จะเคารพในความคิดของกันและกัน แต่วิธีการของทั้งสองแตกต่างกันจนยากที่จะหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง ก่อนที่ความขัดแย้งจะปะทุขึ้น ทั้งสองคนตกลงที่จะคุยเรื่องความต่างนี้กับหัวหน้าผู้ซึ่งให้ทั้งสองแยกทีมกัน การตัดสินใจนี้ส่งผลดี สิ่งที่อัลวินได้เรียนรู้ในวันนั้นคือ การเป็นหนึ่งเดียวกันไม่จำเป็นต้องทำอะไรด้วยกันเสมอไป

อับราฮัมตระหนักถึงความจริงข้อนี้เมื่อท่านบอกกับโลทให้แยกทางกันที่เบธเอล (ปฐก.13:5-9) เมื่อเห็นว่ามีพื้นที่ไม่พอสำหรับฝูงสัตว์ของพวกเขาอับราฮัมจึงบอกอย่างชาญฉลาดให้แยกทางกัน แต่ก่อนอื่น ท่านได้ย้ำว่าพวกเขาเป็น “ญาติสนิท” กัน (ข้อ 8) เพื่อเตือนโลทถึงความสัมพันธ์ แล้วด้วยความถ่อมใจอย่างที่สุดท่านจึงให้หลานเป็นคนเลือกก่อน (ข้อ 9) แม้อับราฮัมจะมีอาวุโสกว่าก็ตาม เหมือนกับที่ศิษยาภิบาลท่านหนึ่งอธิบายไว้ว่า “แยกกันอย่างกลมเกลียว”

พระเจ้าทรงสร้างเราแต่ละคนมาอย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว บางครั้งเราทำงานได้ดีกว่าเมื่อต้องแยกกันทำเพื่อบรรลุจุดมุ่งหมายเดียวกัน เราเป็นหนึ่งเดียวกันได้ในความแตกต่าง ขอให้เราไม่ลืมว่าเรายังเป็นพี่น้องกันในครอบครัวของพระเจ้า เราอาจใช้วิธีที่แตกต่างแต่เรายังคงเป็นหนึ่งเพื่อเป้าหมายเดียวกัน

ขบวนแห่งสีสัน

หลายสิบปีที่ผ่านมา ลอนดอนเป็นหนึ่งในเมืองที่มีความหลากหลายในเชื้อชาติวัฒนธรรมที่สุด ในปี 1933 นักข่าวเกลน โรเบิร์ต เขียนถึงเมืองหลวงที่ยิ่งใหญ่นี้ว่า “ผมคิดว่าการมีผู้คนหลายเชื้อชาติภาษาเป็นข้อดีที่สุดของลอนดอน” “ความหลากหลาย” นั้นยังพบเห็นได้ในทุกวันนี้ด้วยการผสมผสานกันของกลิ่น เสียง และรูปลักษณ์ของชุมชนจากทั่วโลก ความหลากหลายอันงดงามเป็นเสน่ห์อันน่าดึงดูดของเมืองที่ยิ่งใหญ่นี้

เช่นเดียวกับเมืองทั่วไปที่มีผู้คนอาศัยอยู่ ลอนดอนเองก็มีปัญหา การเปลี่ยนแปลงนำมาซึ่งปัญหา วัฒนธรรมบางครั้งก็ขัดแย้งกัน และนี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ไม่มีเมืองใดที่มนุษย์สร้างขึ้นจะเปรียบได้กับบ้านอันเป็นนิรันดร์ของเรา

ตอนที่อัครทูตยอห์นถูกนำไปอยู่ต่อพระพักตร์พระเจ้านั้น ความหลากหลายเป็นองค์ประกอบหนึ่งของการนมัสการบนสวรรค์ ดังผู้ที่ทรงไถ่ไว้แล้วร้องว่า “พระองค์ทรงเป็นผู้ที่สมควรจะทรงรับม้วนหนังสือ และแกะตราม้วนหนังสือนั้นออก เพราะว่าพระองค์ทรงถูกปลงพระชนม์แล้ว และด้วยพระโลหิตของพระองค์นั้น พระองค์ได้ทรงไถ่คนทุกเผ่า ทุกภาษา ทุกชาติและทุกประเทศเพื่อถวายแด่พระเจ้า พระองค์ได้ทรงโปรดให้เขาเป็นราชอาณาจักร และเป็นปุโรหิตของพระเจ้าของเรา และพวกเขาจะได้ครอบครองแผ่นดินโลก” (วว.5:9-10)

ลองนึกภาพของสวรรค์ว่า ชนทุกชาติในโลกกำลังเฉลิมฉลองความมหัศจรรย์ที่ทุกคนได้เป็นบุตรของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์ร่วมกัน ในฐานะผู้เชื่อในพระเยซู ให้เราเฉลิมฉลองความหลากหลายนี้ในวันนี้

อย่าเป็นนักฉวยโอกาส

นักโทษหลายคนกำลังทำงานเก็บขยะข้างทางเพื่อลดหย่อนโทษ ในตอนที่เจมส์ผู้คุมได้ล้มลงหมดสติ พวกเขารีบเข้าไปช่วยและพบว่าผู้คุมเขาอยู่ในภาวะวิกฤติ นักโทษคนหนึ่งใช้โทรศัพท์ของเจมส์ติดต่อขอความช่วยเหลือ ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอบคุณนักโทษเหล่านั้นที่ไม่ทอดทิ้งผู้คุมซึ่งกำลังอยู่ในอันตรายจากภาวะเส้นเลือดในสมองแตก และไม่ฉวยโอกาสหลบหนี

การทำดีของนักโทษเหล่านั้นไม่ต่างกับสิ่งที่เปาโลและสิลาสทำในขณะถูกจองจำ หลังจากที่โดนกระชากเสื้อผ้าออก ถูกทุบตีและจำไว้ในคุก ก็เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงจนทำให้เครื่องจำจองหลุดและประตูคุกเปิดออก (กจ.16:23-26) เมื่อผู้คุมตื่นขึ้น เขาคิดว่านักโทษคงหนีไปแล้วจึงคิดจะฆ่าตัวตาย (เพื่อไม่ต้องรับโทษที่ปล่อยให้นักโทษหลบหนี) เมื่อเปาโลตะโกนบอกว่า “เราทุกคนยังอยู่” (ข้อ 28) ผู้คุมจึงซาบซึ้งใจกับการกระทำของพวกเขา ที่ทำตัวไม่เหมือนนักโทษ จนทำให้เขาอยากรู้จักพระเจ้าที่คนเหล่านี้นมัสการ และในที่สุดได้เชื่อในพระองค์ด้วย (ข้อ 29-34)

วิธีที่เราปฏิบัติต่อผู้อื่นจะเผยให้เห็นถึงสิ่งที่เราเชื่อและให้คุณค่า เมื่อเราเลือกทำการดีแทนการร้าย การกระทำของเราอาจทำให้คนอื่นอยากรู้จักกับพระเจ้าที่เรารักและรู้จัก

ชีวิตใหม่ที่ดูโง่เขลา

เรื่องบางอย่างเราอาจไม่เข้าใจจนกว่าจะมีประสบการณ์เอง เมื่อตั้งครรภ์ลูกคนแรก ฉันอ่านหนังสือเรื่องการคลอดลูกหลายเล่มและได้ฟังแม่หลายคนเล่าเรื่องการเจ็บท้องคลอด แต่ฉันก็ยังนึกภาพไม่ออก เพราะสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นกับร่างกายฉันฟังดูน่าเหลือเชื่อ

เปาโลเขียนไว้ใน 1 โครินธ์ว่าการบังเกิดในแผ่นดินพระเจ้า โดยความรอดที่ทรงมอบให้เราผ่านทางพระคริสต์นั้น ดูเป็นเรื่องที่เข้าใจยากสำหรับผู้ที่ไม่เคยมีประสบการณ์ อาจฟังดูเป็น “เรื่องโง่เขลา” ที่ความรอดจะมาทางไม้กางเขน เพราะความตายเป็นเครื่องหมายของความอ่อนแอ ความพ่ายแพ้ และความอดสูแต่ “เรื่องโง่เขลา” นี้แหละคือความรอดที่เปาโลกำลังประกาศอยู่

นี่ไม่ใช่สิ่งที่ใครจะจินตนาการได้ว่าเรื่องจะเป็นอย่างไร บางคนคิดว่าความรอดจะมาจากผู้นำการเมืองที่เข้มแข็งหรือเป็นการอัศจรรย์ บางคนคิดว่าความรู้หรือความสำเร็จในหลักปรัชญาคือความรอดของพวกเขา (1 คร.1:22) แต่พระเจ้าทรงทำให้ทุกคนประหลาดใจโดยประทานความรอดมาในแบบที่เข้าใจได้สำหรับคนที่เชื่อและได้มีประสบการณ์เท่านั้น

พระเจ้าทรงทำให้ความตายที่ไม้กางเขน ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าอับอายและอ่อนแอ กลายมาเป็นรากฐานแห่งสติปัญญาและฤทธิ์เดช พระเจ้าทรงทำสิ่งที่เกินจะจินตนาการ พระองค์ทรงเลือกสิ่งที่โลกถือว่าอ่อนแอและโง่เขลาเพื่อทำให้คนมีปัญญาอับอาย (ข้อ 27)

และวิธีการอันน่าอัศจรรย์ใจเกินคาดคิดของพระองค์เป็นหนทางที่ดีที่สุด

เพื่อนในยามผิดพลาด

ในวันที่ 27 พฤศจิกายน 1939 นักล่าสมบัติสามคนพร้อมกับทีมถ่ายทำได้ขุดพื้นด้านนอกของสนามฮอลลีวู้ดโบวล์ ทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อหาสมบัติแห่งหุบเขาคาเวงก้า ที่มีทั้งทองคำ เพชร และไข่มุกตามคำเล่าลือว่าถูกฝังไว้เมื่อ 75 ปีก่อน

พวกเขาไม่พบอะไร หลังจากใช้เวลาอยู่ 24 วัน พวกเขาขุดไปกระแทกโดนก้อนหินใหญ่จึงต้องหยุด สิ่งที่ได้มีเพียงหลุมกว้าง 9 ฟุต ลึก 42 ฟุต พวกเขาจากไปด้วยความผิดหวัง

ความผิดพลาดคือเรื่องธรรมดาของมนุษย์ บางครั้งเราก็ล้มเหลว พระคัมภีร์บอกเราว่ามาระโกละทิ้งเปาโลและบารนาบัสตอนเดินทางไปประกาศ “และไม่ได้ทำงานร่วมกับเขาต่อไป” ดังนั้น “เปาโลไม่เห็นควรที่จะพา[เขา]ไปด้วย” ในครั้งต่อมา (กจ.15:38) ซึ่งส่งผลให้เกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงกับบารนาบัส ถึงแม้ว่ามาระโกเคยทำผิดพลาด แต่หลายปีหลังจากนั้นท่านก็ปรากฏตัวขึ้นอีก เมื่อครั้งที่เปาโลรู้สึกโดดเดี่ยวอยู่ในคุกในช่วงท้ายของชีวิต ท่านได้เรียกหามาระโกและเรียกท่านว่า ผู้ที่ “ช่วยปรนนิบัติข้าพเจ้าได้เป็นอย่างดี” (2 ทธ.4:11) พระเจ้ายังทรงดลใจให้มาระโกเขียนพระกิตติคุณตามชื่อของท่าน

ชีวิตของมาระโกแสดงให้เห็นว่าพระเจ้าจะไม่ปล่อยให้เราเผชิญกับความผิดพลาดและล้มเหลวตามลำพัง เรามีเพื่อนผู้ยิ่งใหญ่กว่าทุกความผิดพลาดเมื่อเราติดตามองค์พระผู้ช่วย พระองค์จะทรงประทานความช่วยเหลือและกำลังให้กับเรา

ไข่อธิษฐาน

ที่นอกหน้าต่างห้องครัว นกโรบินตัวหนึ่งสร้างรังอยู่ใต้ชายคา ฉันชอบมองดูมันจัดแต่งหญ้าให้เป็นระเบียบแล้วนั่งลงกกไข่ ฉันคอยดูความคืบหน้าอยู่ทุกเช้า แต่ก็ไม่เห็นอะไร เพราะไข่นกโรบินใช้เวลา 2 อาทิตย์ในการฟักเป็นตัว

ความไม่อดทนไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับฉัน ฉันมักจะเคร่งเครียดกับการรอคอย โดยเฉพาะเมื่ออธิษฐาน ฉันและสามีต้องรอเกือบ 5 ปีกว่าจะได้ลูกบุญธรรมคนแรก กว่าทศวรรษที่ผ่านมาแคธรีน มาร์แชลเคยเขียนไว้ว่า “คำอธิษฐานเหมือนกับไข่ ที่ต้องรอเวลาฟัก”

ผู้เผยพระวจนะฮาบากุกปล้ำสู้กับการรอคอยในการอธิษฐาน ฮาบากุกอึดอัดใจกับการที่พระเจ้าทรงเงียบเมื่อบาบิโลนข่มเหงแผ่นดินยูดาห์อย่างโหดร้าย ท่านตั้งใจที่จะ “ยืนเฝ้าดูอยู่ ข้าพเจ้าจะยืนที่หอคอย และมองออกไปเพื่อจะฟังดูว่า พระองค์จะตรัสอะไรแก่ข้าพเจ้า” (ฮบก.2:1) พระเจ้าทรงตอบโดยให้ฮาบากุกรอ “เวลาของมัน” (ข้อ 3) และทรงนำท่านให้ “เขียนนิมิตนั้นลงไป” เพื่อเมื่อถึงเวลา ข้อความจะได้เผยแพร่ออกไป (ข้อ 2)

สิ่งที่พระเจ้าไม่ได้บอกคือ “เวลาของมัน” ที่บาบิโลนจะล่มสลายคืออีก 60 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นช่วงเวลานานถ้านับจากตอนที่พระเจ้าให้สัญญาไว้ คำอธิษฐานก็เหมือนกับไข่ที่จะไม่ฟักออกเป็นตัวทันที แต่ต้องรอเวลาตามพระประสงค์ของพระเจ้าที่ทรงมีต่อโลกนี้และต่อชีวิตของเรา

ต้นไม้ที่งอกงาม

ผมมีหัวใจของการเป็นนักสะสมมาตลอด ตอนเป็นเด็กผมสะสมแสตมป์ การ์ดเบสบอล หนังสือการ์ตูน และตอนนี้ผมเห็นลูกมีนิสัยแบบเดียวกัน บางครั้งผมก็สงสัยว่า “ลูกจำเป็นต้องมีตุ๊กตาหมีอีกตัวหรือ”

คำตอบไม่ใช่เรื่องของความจำเป็น แต่อยู่ที่เสน่ห์ของความใหม่ หรือบางทีสิ่งนั้นดึงดูดใจเพราะเป็นของเก่าและหายาก เป็นอะไรก็ตามที่ทำให้เราหลงใหลไปกับจินตนาการ และลวงให้เชื่อว่าการมี “สิ่งนี้” ชีวิตจะดีขึ้นและมีความสุข

แต่สิ่งเหล่านั้นไม่เคยให้ประโยชน์อะไร ทำไมน่ะหรือ เพราะพระเจ้าทรงสร้างเราเพื่อจะได้รับการเติมเต็มโดยพระองค์ ไม่ใช่โดยสิ่งต่างๆที่โลกนี้เฝ้าบอกว่าจะสามารถเติมเต็มจิตใจที่โหยหาของเราได้

นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ สุภาษิตเปรียบเทียบชีวิตไว้สองแบบที่ตรงข้ามกัน คือชีวิตที่ไขว่คว้าความร่ำรวยและชีวิตที่ตั้งมั่นในพระเจ้าผู้ทรงรักและให้ด้วยใจกว้างขวาง ในพระคัมภีร์ฉบับ เดอะเมสเสจ ยูจีน ปีเตอร์สันได้แปลสุภาษิต 11:28 ว่า “ชีวิตที่ทุ่มเทให้กับสิ่งของคือชีวิตที่ตายแล้ว คือตอไม้ แต่ชีวิตที่พระเจ้าทรงจัดแต่งเป็นชีวิตที่เจริญงอกงาม”

เราเห็นภาพชีวิต 2 แบบคือต้นไม้ที่เจริญงอกงามเกิดผล กับภาพตอไม้ไร้ผล โลกนี้พยายามบอกเราว่าการมีข้าวของมากมายคือ “ชีวิตที่ดี” ตรงข้ามกับพระเจ้าที่ทรงเชื้อเชิญเราให้หยั่งรากในพระองค์ ให้มีประสบการณ์ในความดีของพระองค์และให้งอกงามเกิดผล และในขณะที่เราถูกปรับแต่งโดยการมีสัมพันธภาพกับพระองค์นั้น พระเจ้าจะปรับเปลี่ยนจิตใจและความปรารถนาของเราใหม่ โดยเปลี่ยนแปลงเราจากภายใน

รับกำลังใหม่

จิตแพทย์โรเบิร์ต โคลส์ สังเกตเห็นรูปแบบของผู้ที่หมดไฟในการรับใช้ สัญญาณเตือนแรกคือมีความอ่อนล้า ต่อมาคือสงสัยว่าไม่มีอะไรดีขึ้นเลย แล้วก็เริ่มขมขื่น ท้อแท้ มีอาการซึมเศร้า และในที่สุดก็หมดไฟ

หลังจากเขียนหนังสือที่เกี่ยวกับการเยียวยาจากความฝันที่แตกสลาย ผมยุ่งกับการไปบรรยายในที่ต่างๆ การช่วยคนให้มีความหวังหลังจากผิดหวังเป็นเรื่องที่น่ายินดีแต่ก็ต้องแลกมาด้วยบางสิ่ง วันหนึ่งผมรู้สึกหน้ามืดขณะที่กำลังเดินขึ้นเวที ผมนอนไม่พอและการไปพักร้อนก็ไม่ทำให้หายล้า แค่คิดว่าต้องฟังปัญหาของคนอื่นอีกก็ทำให้ผมรู้สึกแย่มาก ผมกำลังเป็นแบบที่โคลส์พูดไว้

พระคัมภีร์บอกวิธีเอาชนะการหมดไฟไว้สองประการ อิสยาห์ 40 บอกว่าพระองค์ประทานกำลังแก่ผู้เหน็ดเหนื่อยเมื่อเขาหวังใจในพระองค์ (ข้อ 29-31) ผมต้องพักในพระเจ้า วางใจให้พระองค์กระทำกิจแทนที่จะฝืนต่อไปด้วยกำลังตัวเองที่เหลือน้อยลงทุกที และสดุดี 103 บอกว่าพระเจ้าทรงทำให้เราอิ่มด้วยของดี (ข้อ 5) รวมถึงการยกโทษและการทรงไถ่ (ข้อ 3-4) ความยินดีและการเล่นสนุกมาจากพระองค์เช่นกัน เมื่อผมจัดตารางเวลาใหม่ โดยเพิ่มเวลาในการอธิษฐาน พักผ่อน และทำงานอดิเรกอย่างเช่นการถ่ายภาพ ผมจึงกลับมามีสุขภาพที่ดีอีกครั้ง

การหมดไฟเริ่มจากความอ่อนล้า ให้เราหยุดก่อนที่เป็นมากกว่านั้น เราจะรับใช้ผู้อื่นได้ดีที่สุดเมื่อชีวิตเรามีทั้งการนมัสการและการพักผ่อน

เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไป นั่นเป็นการแสดงว่าท่านยอมรับ นโยบายการใช้คุกกี้ของเรา