การรับฟัง
ในหนังสือ การรับฟังผู้อื่น ของจอยซ์ ฮักเกตต์ เธอเขียนเกี่ยวกับความสำคัญของการรับฟัง และการตอบสนองอย่างมีประสิทธิภาพต่อผู้ที่อยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เธอเล่า ถึงประสบการณ์ที่เธอรับฟังผู้ที่มีความทุกข์ใจ เธอระบุว่า คนเหล่านั้นมักขอบคุณเธอสำหรับ สิ่งที่เธอทำให้กับพวกเขา เธอเขียนว่า “มีหลายครั้ง” ที่ “ฉันไม่ได้ ‘ทำ’ อะไรเลย ฉันเพียง ‘แค่รับฟัง’ ฉันได้ข้อสรุปในทันทีว่า เพียง ‘แค่รับฟัง’ ก็เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพอย่างยิ่งในการช่วยเหลือผู้อื่น”
บัญชีความใฝ่ฝัน
เพื่อนคนหนึ่งบอกฉันว่า เมื่อเร็วๆนี้ เขาได้บรรลุผลข้อหนึ่งใน “บัญชีความใฝ่ฝัน” (สิ่งต่างๆที่คุณอยากจะทำก่อนจากโลกนี้ไป) คือการพาน้องสาวไปเที่ยวยุโรป แม้ว่าเขาจะเคยเดินทางไปที่นั่นหลายครั้งแล้ว แต่เธอยังไม่เคยไปเลย สิ่งที่สะดุดใจฉันคือเขามีเป้าหมายที่ไม่เห็นแก่ตัวอยู่ใน “บัญชีความใฝ่ฝัน” ฉันจึงสงสัยว่า มีกี่ข้อในความฝันและเป้าหมายของฉัน ที่ให้ความสำคัญกับผู้อื่น ไม่ใช่ตัวเอง
ช่วยเหลือทุกรูปแบบ
หลังจากเหตุการณ์ การกราดยิงในโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งในเมืองนิวทาวน์ รัฐคอนเนคติคัท หลายคนมีความรู้สึกอยากช่วยเหลือ บางคนบริจาคโลหิตสำหรับผู้บาดเจ็บ บางคนบริการอาหารและกาแฟฟรีแก่เจ้าหน้าที่ที่ร้านของตน ส่วนบางคนก็เขียนจดหมายปลอบใจหรือสวมกอด บางคนส่งเงินช่วยเหลือและตุ๊กตาหมีมาให้เด็กๆ บางคนให้คำปรึกษา บางคนหาวิธีช่วยเหลือตามลักษณะนิสัย ความสามารถและสิ่งที่ตนมีอยู่
ตั้งใจแน่วแน่
ระหว่างการรายงานข่าวโทรทัศน์เรื่องสถานการณ์อันเลวร้ายของผู้ที่ต้องอพยพออกจากประเทศที่ถูกสงครามทำลาย ผมสะดุดใจในคำพูดของเด็กหญิงอายุ 10 ขวบคนหนึ่ง แม้ว่าพวกเขามีโอกาสเพียงน้อยนิดที่จะได้กลับบ้าน เด็กคนนั้นก็ยังแสดงออกถึงกำลังใจที่เข้มแข็ง “เมื่อเรากลับไป หนูจะไปหาเพื่อนบ้าน หนูจะ ไปเล่นกับเพื่อนๆ” เธอบอกด้วยความตั้งใจที่แน่วแน่ “พ่อหนูบอกว่าเราไม่มีบ้าน แต่หนูบอกว่าเราจะไปซ่อมบ้านกัน”
ขับเลนซ้าย
เนื่องจากผมเติบโตในประเทศอเมริกาซึ่งขับรถในเลนฝั่งขวาของถนน ผมจึงคิดเสมอว่าการขับรถในเลนฝั่งซ้ายในประเทศอื่นนั้นน่าสนใจ เมื่อผมไปที่ประเทศอังกฤษ ผมได้ยินมัคคุเทศน์ในลอนดอน อธิบายถึงเหตุผลที่เป็นไปได้ของการใช้กฎหมายขับรถในเลนฝั่งซ้ายว่า “ในช่วงทศวรรษที่ 1800 คนเดินถนนและรถม้าใช้ ถนนร่วมกัน เมื่อรถม้าอยู่ทางด้านขวาของถนน คนขับที่ใช้แส้บังคับม้าก็มักพลาดสะบัดแส้ถูก คนเดินเท้าที่ผ่านมา เพื่อขจัดภัยอันตรายนี้กฎหมายจึงกำหนดให้้รถม้าทุกชนิดต้องอยู่ทางด้านซ้ายของถนนเพื่อให้คนเดินเท้าปลอดภัย”
เป็นที่รักเพื่อจะรัก
ชีวิตของดีทริช บอนโฮเฟอร์เผชิญความเสี่ยงทุกๆวันที่อาศัยอยู่ในประเทศเยอรมนีในสมัยของฮิตเลอร์ แต่เขายังคงอยู่ที่นั่น ผมคิดว่าเขาคงจะคิดเหมือนอย่างเปาโลที่ปรารถนาจะไปอยู่ในสวรรค์ แต่การอยู่ในที่ที่มีคนต้องการเขา เป็นพระประสงค์ของพระเจ้าในขณะนั้น (ฟป.1:21) เขาจึงอยู่ที่นั่นในฐานะศิษยาภิบาลที่จัดการนมัสการอย่างลับๆและต่อต้านการปกครองอันเลวร้ายของฮิตเลอร์
คำพยานที่อ่อนสุภาพ
หลายปีก่อน ผมต้องเข้าโรงพยาบาลหลังตกจากสะพานสูง 11.5 เมตรที่ทำให้ผมเกือบเอาชีวิตไม่รอด ขณะอยู่ที่นั่น ภรรยาของคนไข้เตียงข้างๆแวะมาคุยกับผม เธอบอกว่า “สามีดิฉันเพิ่งเล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณ เราเชื่อว่าพระเจ้าทรงไว้ชีวิตคุณเพราะพระองค์ต้องการใช้คุณ พวกเราอธิษฐานเผื่อคุณอยู่”
กฎทองคำ
แนวคิดของกฎทองคำที่ให้ปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างที่เราต้องการให้เขาปฏิบัติต่อเรา ปรากฏอยู่ในหลายศาสนา แต่อะไรที่ทำให้ พระดำรัสนี้ของพระเยซูโดดเด่นกว่า