Month: กันยายน 2023

มีโอกาสน้อยที่สุด

ฮอลลีวูดได้มอบสายลับที่ดึงดูดความสนใจเป็นพิเศษให้กับเรา เขาขับรถแอสตันมาร์ตินส์ที่เฉิดฉายและรถสปอร์ตสุดหรูอื่นๆ แต่อดีตหัวหน้าซีไอเอ จอนนา เมนเดซ ให้ภาพความจริงที่ตรงกันข้าม เธอกล่าวว่า สายลับต้องเป็น “ชายร่างเล็กผมสีดอกเลา” เป็นคนธรรมดาๆไม่เฉิดฉาย “คุณต้องการให้พวกเขาเป็นคนที่ถูกลืมอย่างง่ายดาย” สายลับที่ดีที่สุดคือคนที่ดูเหมือนสายลับน้อยที่สุด

เมื่อผู้สอดแนมสองคนของอิสราเอลเข้าไปในเมืองเยรีโค ราหับเป็นผู้ซ่อนพวกเขาจากทหารของกษัตริย์ (ยชว.2:4) เธอดูเหมือนเป็นคนที่มีโอกาสน้อยที่สุดที่พระเจ้าจะว่าจ้างให้เป็นตัวแทนหน่วยสืบราชการลับ เพราะมีสามข้อที่คัดค้านเธอ ได้แก่ เธอเป็นชาวคานาอัน เป็นผู้หญิงและเป็นโสเภณี แต่ราหับเริ่มเชื่อในพระเจ้าของคนอิสราเอล “พระเจ้าของท่านเป็นพระเจ้าของสวรรค์เบื้องบน” (ข้อ 11) เธอซ่อนผู้สอดแนมของพระเจ้าไว้ใต้ป่านบนหลังคา ช่วยเหลือในการหลบหนีของพวกเขาอย่างกล้าหาญ พระเจ้าประทานบำเหน็จเพื่อตอบแทนความเชื่อของเธอ “ส่วนราหับหญิงโสเภณี และครอบครัวบิดาของนาง และสารพัดที่เป็นของนาง โยชูวาได้ไว้ชีวิต” (6:25)

บางครั้งเราอาจรู้สึกว่าเรามีโอกาสน้อยที่สุดที่พระเจ้าจะทรงใช้ บางทีเราอาจมีข้อจำกัดทางร่างกาย ไม่รู้สึก “เฉิดฉาย” พอที่จะเป็นผู้นำ หรือมีอดีตที่มัวหมอง แต่ประวัติศาสตร์เต็มไปด้วยผู้เชื่อ “ธรรมดาๆ” ที่พระเจ้าทรงไถ่ คนเช่นราหับที่ได้รับภารกิจพิเศษเพื่ออาณาจักรของพระองค์ ขอให้มั่นใจเถิดว่า พระองค์ทรงมีพระประสงค์จากเบื้องบนแม้กับคนที่ดูไม่น่าเป็นไปได้ที่สุดในพวกเรา

หัวใจแห่งผู้ให้

ในวันสุดท้ายของเราในวิสคอนซิน เพื่อนของฉันได้พาคินส์ลีลูกสาววัยสี่ขวบของเธอมากล่าวคำอำลา “หนูไม่อยากให้คุณย้าย” คินส์ลีบอก ฉันกอดเธอและมอบพัดที่มีภาพวาดด้วยมือซึ่งเป็นของสะสมของฉันกับเธอ “เมื่อหนูคิดถึงฉัน ใช้พัดนี้นะและจำไว้ว่าฉันรักหนู” คินส์ลีถามว่าเธอจะขอพัดเล่มอื่นได้ไหม เป็นพัดกระดาษที่อยู่ในกระเป๋าของฉัน “เล่มนั้นพังแล้ว” ฉันบอก “ฉันอยากให้หนูได้รับพัดที่ดีที่สุด ของฉัน” ฉันไม่เสียใจที่ให้พัดเล่มโปรดของฉันกับคินส์ลี การได้เห็นเธอมีความสุขทำให้ฉันมีความสุขยิ่งกว่า หลังจากนั้นคินส์ลีบอกแม่ของเธอว่าเธอรู้สึกเศร้าเพราะฉันเก็บพัดที่พังไว้ พวกเขาจึงส่งพัดสีม่วงแฟนซีเล่มใหม่เอี่ยมมาให้ฉัน คินส์ลีรู้สึกมีความสุขอีกครั้งหลังจากมอบให้ฉันด้วยใจกว้างขวาง ฉันเองก็เช่นกัน

ในโลกที่ส่งเสริมความพึงพอใจในตนเองและการปกป้องตัวเองนี้ อาจทำให้เราถูกทดลองที่จะเก็บสะสมแทนที่จะใช้ชีวิตด้วยหัวใจแห่งการให้ อย่างไรก็ตามพระคัมภีร์กล่าวว่าบุคคล “ยิ่งจำหน่ายยิ่งมั่งคั่ง” (สภษ.11:24) วัฒนธรรมของเรานิยามความเจริญรุ่งเรืองว่าคือการมีมากขึ้นและมากขึ้น แต่พระคัมภีร์กล่าวว่า “บุคคลที่ใจกว้างขวางย่อมได้รับความมั่งคั่ง” และ “บุคคลที่รดน้ำ เขาเองจะได้รับการรดน้ำ” (ข้อ 25)

ความรักและพระเมตตาอย่างไม่มีเงื่อนไขและไม่จำกัดของพระเจ้าจะเติมพลังใหม่ให้กับเราอย่างไม่ขาดสาย เราแต่ละคนจึงมีหัวใจของผู้ให้และสร้างวงจรการให้ที่ไม่รู้จักจบสิ้นได้ เพราะเรารู้จักพระเจ้าผู้ประทานสิ่งดีทุกอย่าง ผู้ไม่เคยเหน็ดเหนื่อยในการจัดเตรียมให้กับเราอย่างเหลือล้น

ดูแลสวนของคุณ

ฉันตื่นเต้นมากที่จะได้ปลูกผลไม้และผักที่สวนหลังบ้านของเรา แล้วฉันก็เริ่มสังเกตเห็นรูเล็กๆในดิน ก่อนที่จะถึงเวลาสุกงอม ผลไม้ลูกแรกของเราก็หายไปอย่างลึกลับ วันหนึ่งฉันตกตะลึงที่พบว่าต้นสตรอเบอร์รี่ที่ใหญ่ที่สุดของเราถูกกระต่ายตัวหนึ่งที่ทำรังอยู่ขุดรากถอนโคนจนหมดและถูกแดดแผดเผาจนแห้ง ฉันตั้งใจว่าฉันจะใส่ใจกับสัญญาณเตือนให้มากกว่านี้!

บทกวีรักอันไพเราะในพระธรรมเพลงซาโลมอนบันทึกการสนทนาระหว่างชายหนุ่มกับหญิงสาว ขณะเรียกหาคนรักของเขานั้น ชายหนุ่มเตือนอย่างเข้มงวดไม่ให้มีสัตว์มาทำลายสวนของคู่รัก ซึ่งเป็นคำเปรียบถึงของความสัมพันธ์ของพวกเขา เขาบอกว่า “จงจับสุนัขจิ้งจอกมาให้เรา คือสุนัขจิ้งจอกตัวเล็กที่ทำลายสวนองุ่น” (พซม.2:15) บางทีเขาอาจเห็นสัญญาณของ “สุนัขจิ้งจอก” ที่อาจทำลายความรักของตน เช่น ความหึงหวง ความโกรธ การหลอกลวงหรือความไม่ใส่ใจ เพราะเขาปีตียินดีในความงดงามแห่งเจ้าสาวของเขา (ข้อ 14) เขาจะไม่ยอมให้มีสิ่งใดมาเป็นอันตรายต่อร่างกายและจิตใจ สำหรับเขานั้นเธอล้ำค่าดัง “ดอกพลับพลึงท่ามกลางต้นกระชับ” (ข้อ 2) เขาเต็มใจที่จะใช้ความพยายามในทุกทางเพื่อปกป้องความสัมพันธ์ของพวกเขา

ของขวัญล้ำค่าที่สุดบางอย่างที่พระเจ้ามอบให้เรานั้นคือครอบครัวและเพื่อน แม้ว่าการจะรักษาความสัมพันธ์เหล่านั้นไม่ง่ายเสมอไป แต่ด้วยความอดทน ความเอาใจใส่และการปกป้องให้พ้นจาก “สุนัขจิ้งจอกตัวเล็กๆ” เราก็เชื่อวางใจได้ว่าพระเจ้าจะทรงให้เกิดผลที่เติบโตงดงาม

พระเจ้าทรงเรียกชื่อคุณ

นาตาเลียไปอยู่ประเทศอื่นพร้อมกับคำสัญญาว่าจะได้รับการศึกษา แต่ไม่นานผู้เป็นพ่อในบ้านหลังใหม่นั้นก็เริ่มทำร้ายร่างกายและล่วงละเมิดทางเพศเธอ เขาบังคับให้เธอดูแลบ้านและลูกๆของเขาโดยไม่ได้รับค่าจ้าง เขาไม่ยอมให้เธอออกไปข้างนอกหรือใช้โทรศัพท์ เธอกลายเป็นทาสของเขา

ฮาการ์เป็นหญิงคนใช้ชาวอียิปต์ของอับรามและนางซาราย ไม่มีใครเรียกชื่อของเธอ พวกเขาเรียกเธอว่า “หญิงคนใช้ของฉัน” หรือ “หญิงคนใช้ของเจ้า” (ปฐก.16:2, 5-6) พวกเขาเพียงต้องการใช้เธอเพื่อตนเองจะมีทายาท

ช่างแตกต่างกับพระเจ้าอย่างมาก! ทูตของพระเจ้าปรากฏตัวครั้งแรกในพระคัมภีร์เมื่อท่านพูดกับนางฮาการ์ที่ตั้งครรภ์ในถิ่นทุรกันดาร ทูตสวรรค์คือผู้ส่งสารของพระเจ้าหรือคือพระเจ้าเอง นางฮาการ์เชื่อว่าทูตองค์นั้นเป็นพระเจ้า เพราะเธอกล่าวว่า “บัดนี้ฉันได้เห็นพระองค์ผู้ทรงเห็นฉัน” (ข้อ 13 TNCV) ถ้าทูตสวรรค์คือพระเจ้า ทูตนั้นอาจจะเป็นพระบุตรผู้ทรงสำแดงพระเจ้าแก่เราโดยทรงมาปรากฏก่อนการเสด็จมาบังเกิด ท่านผู้นั้นเรียกชื่อนางว่า “ฮาการ์ หญิงคนใช้ของนางซาราย เจ้ามาจากไหนและเจ้าจะไปไหน” (ข้อ 8)

พระเจ้าทรงเห็นนาตาเลียและนำผู้คนที่ห่วงใยเข้ามาสู่ชีวิตของเธอผู้ซึ่งช่วยชีวิตเธอ เวลานี้เธอกำลังเรียนเพื่อเป็นพยาบาล พระเจ้าทรงเห็นนางฮาการ์และทรงเรียกชื่อนาง และพระเจ้าทรงเห็นคุณ คุณอาจถูกมองข้ามหรือแย่กว่านั้นคือถูกทำร้าย แต่พระเยซูทรงเรียกคุณด้วยชื่อของคุณ จงเข้าไปหาเพื่อขอความช่วยเหลือจากพระองค์

เสียงร้องที่เฉพาะเจาะจง

เมื่อเด็กทารกร้อง แสดงว่าเด็กเหนื่อยหรือหิวใช่ไหม นั่นก็จริงอยู่ แต่แพทย์จากมหาวิทยาลัยบราวน์ระบุว่า ความแตกต่างเล็กน้อยในเสียงร้องไห้ของทารกแรกเกิดยังให้เบาะแสที่สำคัญถึงปัญหาอื่นๆด้วย แพทย์ได้คิดค้นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้วัดปัจจัยการร้องไห้ เช่น ระดับเสียงสูงต่ำ ระดับความดังและความชัดเจนของเสียงร้อง เพื่อตรวจสอบว่ามีบางอย่างผิดปกติกับระบบประสาทส่วนกลางของทารกหรือไม่

อิสยาห์เผยพระวจนะว่าพระเจ้าจะทรงฟังเสียงร้องที่เฉพาะเจาะจงของประชากรของพระองค์ ทรงทราบถึงสภาพจิตใจของพวกเขาและทรงตอบสนองด้วยพระคุณ แต่แทนที่ประชาชนยูดาห์จะปรึกษาพระเจ้า พวกเขากลับไม่ใส่ใจผู้เผยพระวจนะของพระองค์และแสวงหาความช่วยเหลือโดยไปเป็นพันธมิตรกับอียิปต์ (อสย. 30:1-7) พระเจ้าตรัสว่า หากพวกเขาเลือกที่จะกบฏต่อไป พระองค์จะทรงนำความพ่ายแพ้และความอัปยศอดสูมาสู่พวกเขา อย่างไรก็ตามพระองค์ทรงคอยที่จะ “ทรงพระกรุณาเจ้าทั้งหลาย...เพื่อเมตตาเจ้า” (ข้อ 18) การช่วยกู้จะมาถึง แต่โดยผ่านเสียงร้องไห้แห่งการกลับใจใหม่และความเชื่อเท่านั้น หากประชากรของพระเจ้าร้องทูลต่อพระองค์ พระองค์จะทรงยกโทษบาปของเขาและฟื้นฟูความเข้มแข็งฝ่ายวิญญาณและกำลังวังชาให้กับพวกเขา (ข้อ 8-26)

สิ่งนี้เป็นความจริงเช่นเดียวกันสำหรับผู้เชื่อพระเยซูในปัจจุบัน เมื่อเสียงร้องที่เฉพาะเจาะจงแห่งการกลับใจและความไว้วางใจของเราไปถึงพระกรรณของพระบิดาในสวรรค์ พระองค์จะทรงสดับฟังเสียงร้องนั้น ทรงยกโทษให้เราและให้เราปีติยินดีและมีความหวังอีกครั้งในพระองค์

เหตุผลที่กลัว

เมื่อผมยังเป็นเด็ก สนามของโรงเรียนเป็นที่ซึ่งพวกเด็กอันธพาลชอบแสดงอำนาจไปทั่ว และเด็กๆอย่างผมที่ถูกรังแกก็ตอบโต้ได้เพียงเล็กน้อย ขณะที่เราคุดคู้ด้วยความหวาดกลัวต่อหน้าผู้ทรมานเหล่านี้ ยังมีบางอย่างที่แย่ยิ่งกว่านั้น นั่นคือการเยาะเย้ยของพวกเขา “นายกลัวละสิ นายกลัวฉันใช่ไหม ที่นี่ไม่มีใครปกป้องนายได้”

อันที่จริงส่วนใหญ่แล้วผมรู้สึกตกใจกลัวจริงๆ และด้วยเหตุผลที่เหมาะสม ที่ผ่านมาผมเคยถูกชก และผมรู้ว่าไม่อยากเจอแบบนั้นอีก แล้วผมจะทำอะไรได้และจะวางใจใครได้ขณะเมื่อความกลัวจู่โจมผม เมื่อคุณอายุแปดขวบและถูกรังแกโดยเด็กที่อายุมากกว่า ตัวใหญ่กว่าและแข็งแรงกว่า ความกลัวนั้นก็ถูกต้องแล้ว

เมื่อผู้เขียนสดุดีเผชิญหน้าการโจมตี ท่านตอบสนองด้วยความมั่นใจมากกว่าความกลัว เพราะท่านรู้ว่าท่านไม่ได้เผชิญภัยคุกคามเหล่านั้นเพียงลำพัง ท่านบันทึกว่า “มีพระเจ้าอยู่ฝ่ายข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่กลัว มนุษย์จะทำอะไรแก่ข้าพเจ้าได้เล่า” (สดด.118:6) ในตอนที่ยังเด็กนั้น ผมไม่แน่ใจว่าจะสามารถเข้าใจระดับความมั่นใจของผู้เขียนสดุดีได้ แต่อย่างไรก็ตามเมื่อผมเป็นผู้ใหญ่ ผมได้เรียนรู้จากช่วงเวลาหลายปีในการเดินกับพระคริสต์ว่า พระองค์ทรงยิ่งใหญ่กว่าการคุกคามใดๆที่ทำให้เกิดความกลัว

ภัยคุกคามที่เราเผชิญในชีวิตเป็นเรื่องจริง แต่เราไม่จำเป็นต้องกลัว องค์พระผู้สร้างจักรวาลสถิตอยู่ด้วยกับเรา และการมีพระองค์นั้นก็มากเกินพอแล้ว

การกระทำด้วยใจเมตตาสงสาร

การสร้างม้านั่งไม่ใช่งานของเจมส์ วอร์เรน แต่เขาก็เริ่มสร้างมันขึ้นมาเมื่อสังเกตเห็นผู้หญิงคนหนึ่งในเดนเวอร์นั่งอยู่บนพื้นสกปรกขณะรอรถประจำทาง วอร์เรนรู้สึกเป็นห่วงว่ามันดู “ไร้เกียรติ” ด้วยเหตุนี้ที่ปรึกษาด้านแรงงานวัย 28 ปีผู้นี้จึงเอาเศษไม้มาทำม้านั่งและวางไว้ที่ป้ายรถประจำทาง มันถูกใช้งานแทบจะทันที เมื่อตระหนักว่าป้ายรถเมล์เก้าพันแห่งในเมืองของเขานั้นหลายแห่งไม่มีที่นั่ง เขาจึงสร้างม้านั่งขึ้นอีก จากนั้นก็ทำขึ้นอีกหลายตัว โดยเขียนคำอุทิศว่า “จงมีใจเมตตา” บนม้านั่งแต่ละตัวจุดประสงค์ของเขาคืออะไร วอร์เรนกล่าวว่า “เพื่อทำให้ชีวิตของผู้คนดีขึ้นในทุกทางที่ผมทำได้ แม้เพียงเล็กน้อยก็ตาม”

ความเมตตาสงสารเป็นอีกคำอธิบายหนึ่งของการกระทำนี้ ความเมตตาตามแบบที่พระเยซูทรงสำแดงนั้น เป็นความรู้สึกที่แข็งแกร่งมากจนทำให้เราต้องดำเนินการเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้อื่น เมื่อฝูงชนที่สิ้นหวังติดตามพระเยซู “พระองค์ทรงสงสารเขา เพราะว่าเขาเป็นเหมือนฝูงแกะไม่มีผู้เลี้ยง” (มก.6:34) พระองค์ทรงเปลี่ยนความสงสารให้เป็นการกระทำโดย ทรงรักษาคนป่วยให้หาย (มธ.14:14)

เปาโลกระตุ้นเราเช่นกันว่าควร “สวม[ตัวเราด้วย]ใจเมตตา” (คส.3:12) ประโยชน์คืออะไร ดังที่วอร์เรนกล่าวว่า “มันเติมเต็มผม เป็นเหมือนกับการเติมลมยางรถของผม”

รอบตัวเราล้วนมีความต้องการมากมาย และพระเจ้าจะทรงนำสิ่งเหล่านี้มาสู่ความสนใจของเรา ความต้องการเหล่านั้นกระตุ้นความเมตตาในตัวเราไปสู่การกระทำ และการกระทำเหล่านั้นจะหนุนใจผู้อื่นเมื่อเราสำแดงความรักของพระคริสต์แก่พวกเขา

คำตอบทั้งหมด

เดล เอิร์นฮาร์ท จูเนียร์เล่าถึงชั่วขณะที่น่ากลัวอย่างยิ่งเมื่อรู้ว่าพ่อของเขาจากไป เดล เอิร์นฮาร์ท ซีเนียร์ผู้เป็นตำนานนักแข่งรถเพิ่งเสียชีวิตจากการชนอย่างแรงในตอนท้ายของการแข่งขันเดย์โทนา 500 ซึ่งเป็นการแข่งที่เดล จูเนียร์เข้าร่วมด้วย “เสียงนี้ดังออกมาจากตัวผม โดยที่ผมไม่อาจทำขึ้นอีกครั้งได้” เอิร์นฮาร์ดผู้เป็นลูกชายกล่าว “[มันคือ] เสียงแผดร้องแห่งความตกตะลึงและความระทมทุกข์ และก็ความกลัว” จากนั้นก็คือความจริงอันอ้างว้างที่ว่า “ผมจะต้องทำสิ่งนี้ต่อไปด้วยตัวเอง”

“การมีพ่ออยู่ด้วยก็เหมือนกับการมีสูตรโกง” เอิร์นฮาร์ท จูเนียร์อธิบาย “การมีพ่อก็เหมือนการรู้คำตอบทั้งหมด”

เหล่าสาวกของพระเยซูเรียนรู้ที่จะมองไปที่พระองค์เพื่อจะได้คำตอบทั้งหมด เวลานั้นในวันก่อนการตรึงกางเขน พระองค์ทรงรับรองว่าจะไม่ทอดทิ้งพวกเขาไว้ลำพัง พระเยซูตรัสว่า “เราจะทูลขอพระบิดา และพระองค์จะประทานผู้ช่วยอีกผู้หนึ่งให้แก่ท่าน เพื่อจะได้อยู่กับท่านตลอดไป คือพระวิญญาณแห่งความจริง” (ยน.14:16-17)

พระเยซูทรงมอบการปลอบโยนนั้นให้กับทุกคนที่เชื่อในพระองค์ โดยตรัสว่า “ถ้าผู้ใดรักเรา ผู้นั้นจะประพฤติตามคำของเรา และพระบิดาจะทรงรักเขา แล้วพระบิดากับเราจะมาหาเขา และจะอยู่กับเขา” (ข้อ 23)

ผู้ที่เลือกติดตามพระคริสต์จะมีพระวิญญาณอยู่ภายในเป็นผู้ทรงสอน“ทุกสิ่ง” และจะทรงให้พวกเขาระลึกถึงทุกสิ่งที่พระเยซูได้ทรงสอนไว้ (ข้อ 26) เราไม่มีคำตอบทั้งหมดนั้น แต่เรามีพระวิญญาณของพระองค์ผู้นั้นที่ทรงมีคำตอบ

การทรงสร้างใหม่อันงดงาม

ในหนังสืออันยอดเยี่ยมชื่อ ศิลปะ+ศรัทธา: ศาสนศาสตร์แห่งการสร้าง ของศิลปินชื่อดังมาโกโตะ ฟูจิมูระได้อธิบายถึงศิลปะแบบคินสึงิของญี่ปุ่นยุคโบราณ ในหนังสือนี้ศิลปินจะนำเครื่องปั้นดินเผาที่แตกหัก (เดิมคือถ้วยชา) แล้วนำชิ้นส่วนเหล่านั้นมาต่อติดเข้าด้วยกันด้วยยางไม้ โดยผสานด้วยเส้นสายสีทองเข้าไปในรอยแตก ฟูจิมูระอธิบายว่า “คินสึงิไม่ได้เป็นเพียงการ ‘ติดให้แน่น’ หรือซ่อมแซมภาชนะที่แตกเท่านั้น แต่เทคนิคนี้ทำให้เครื่องดินเผาที่แตกหักสวยงามยิ่งกว่าของเดิม” คินสึงิถูกนำมาใช้ครั้งแรกเมื่อหลายร้อยปีก่อน ตอนที่ถ้วยใบโปรดของขุนศึกแตกเสียหายแล้วได้รับการซ่อมแซมขึ้นใหม่อย่างงดงาม กลายเป็นศิลปะที่มีมูลค่าสูงและเป็นที่ต้องการ

อิสยาห์บรรยายว่าพระเจ้าทรงประกาศใช้วิธีการซ่อมสร้างขึ้นใหม่อย่างชาญฉลาดนี้กับโลก แม้ว่าเราจะแตกสลายจากการกบฏและความเห็นแก่ตัวของเรา แต่พระเจ้าทรงสัญญาว่าจะ “สร้างฟ้าสวรรค์ใหม่และแผ่นดินโลกใหม่” (65:17) พระองค์ทรงวางแผนไม่เพียงแค่ซ่อมแซมโลกใบเก่าเท่านั้น แต่จะทรงสร้างมันขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ทรงนำเอาซากปรักหักพังของโลกเราแล้วสร้างให้เปล่งประกายด้วยความงามสดใหม่ การทรงสร้างใหม่นี้จะน่าทึ่งมากจน “ความลำบากเก่าแก่นั้นก็ลืมเสียแล้ว” และ “สิ่งเก่าก่อนนั้นจะไม่จำกันหรือนึกได้อีก” (ข้อ 16-17) ด้วยการทรงสร้างใหม่นี้ พระเจ้าจะไม่ทรงเขย่าสิ่งต่างๆรวมเข้าด้วยกันเพื่อปกปิดความผิดของเรา แต่จะปลดปล่อยฤทธิ์อำนาจแห่งการสรรค์สร้างของพระองค์เป็นฤทธิ์อำนาจที่ทำให้สิ่งที่น่าเกลียดกลายเป็นสิ่งซึ่งงดงาม และสิ่งซึ่งตายแล้วกลับมีชีวิตอีกครั้ง

เมื่อเราสำรวจชีวิตที่พังทลายของเรา ขออย่าได้สิ้นหวัง พระเจ้าทรงกำลังกระทำกิจแห่งการสร้างขึ้นใหม่อันงดงามของพระองค์

เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไป นั่นเป็นการแสดงว่าท่านยอมรับ นโยบายการใช้คุกกี้ของเรา