ในการเล่นเบสบอลแบบมีเสียง ผู้เล่นที่พิการทางสายตาจะฟังเสียงดังติ๊ดๆ จากลูกบอลเพื่อจะรู้ว่าเขาต้องทำอะไรและไปทางไหน ผู้ตีที่มีผ้าปิดตา (เพื่อความเท่าเทียมในระดับของความพิการที่แตกต่างกัน) และพิชเชอร์ที่มองเห็นอยู่ทีมเดียวกัน เมื่อผู้ตีหวดถูกลูกบอลที่มีเสียง เขาจะวิ่งไปทางเบสที่มีเสียงสั่นถี่ๆ ผู้ตีจะต้องออกจากการแข่งขันหากผู้เล่นฝ่ายรับ “เก็บ” บอลไว้ได้ก่อนที่ผู้ตีจะวิ่งไปถึงเบส มิเช่นนั้นคะแนนจะเป็นของผู้ตี ผู้เล่นคนหนึ่งแสดงความคิดเห็นว่าส่วนที่ดีที่สุดคือการที่เขารู้สึกถึง “อิสรภาพในการวิ่ง” เพราะเขารู้ว่าทางที่เขาจะวิ่งไปนั้นโล่งและมีทิศทางที่แน่นอน

หนังสืออิสยาห์บอกเราว่าพระเจ้า “ผู้เที่ยงธรรมทรงกระทำให้วิถีของคนชอบธรรมราบรื่น” (26:7) ณ เวลาที่พระธรรมตอนนี้ถูกเขียนขึ้น การเดินทางของชนชาติอิสราเอลไม่ใกล้เคียงกับคำว่าราบรื่นเอาเสียเลย พวกเขาต้องรับการพิพากษาจากพระเจ้าเพราะการไม่เชื่อฟังของเขา อิสยาห์กระตุ้นเตือนพวกเขาให้ดำเนินในความเชื่อและการเชื่อฟัง ซึ่งเป็นเส้นทางที่ยากแต่ราบรื่น การรอคอย “พระนามอันเป็นที่ระลึกของพระองค์” (ข้อ 8) ควรเป็นความปรารถนาของพวกเขา

ในฐานะผู้เชื่อในพระเยซู เราได้รู้จักพระเจ้ามากขึ้นและพัฒนาความไว้วางใจของเราในพระลักษณะอันสัตย์ซื่อของพระองค์เมื่อเราเดินตามวิถีของพระองค์ด้วยการเชื่อฟัง เส้นทางชีวิตของเราอาจไม่ได้ดูหรือรู้สึกราบรื่นเสมอไป แต่เราสามารถเชื่อมั่นเมื่อเราไว้วางใจว่า พระเจ้าทรงอยู่เคียงข้างเราและทรงจัดเตรียมหนทางเพื่อเรา เราเองก็สามารถสัมผัสถึงอิสรภาพได้ เมื่อเราวิ่งด้วยการเชื่อฟังไปบนเส้นทางที่ดีที่สุดที่พระเจ้าจัดเตรียมไว้เพื่อเรา