Month: พฤศจิกายน 2022

ทั้งสองล้วนเป็นจริง

เฟิงลู่ลู่ได้พบกับครอบครัวที่ให้กำเนิดหลังผ่านไปสามทศวรรษ ตอนยังเล็กเธอถูกลักพาตัวไปขณะเล่นอยู่นอกบ้าน แต่ด้วยความช่วยเหลือจากสหพันธ์สตรีแห่งประเทศจีนเธอจึงถูกพบตัวในที่สุด ตอนที่ถูกลักพาตัวเฟิงลู่ลู่ยังเด็กมากจึงจำอะไรไม่ได้ เธอเติบโตขึ้นมาโดยเชื่อว่าตนเองถูกขายเพราะพ่อแม่ไม่สามารถเลี้ยงดูเธอได้ การได้รู้ความจริงทำให้เกิดคำถามและความรู้สึกที่หลากหลาย

เมื่อโยเซฟได้พบพวกพี่ชายอีกครั้ง ดูเหมือนว่าท่านจะมีอารมณ์ที่หลากหลาย ท่านถูกพวกพี่ชายขายไปเป็นทาสที่อียิปต์ตั้งแต่ยังหนุ่ม แม้จะเจอเรื่องราวพลิกผันอันเจ็บปวดหลายต่อหลายครั้ง แต่พระเจ้าทรงนำโยเซฟไปสู่ตำแหน่งที่มีอำนาจ เมื่อพวกพี่ชายมาซื้ออาหารที่อียิปต์เนื่องจากการกันดารอาหาร พวกเขาไม่รู้เลยว่าจะต้องมาซื้อกับโยเซฟ

โยเซฟตระหนักว่าพระเจ้าทรงไถ่ความผิดของพวกเขาแล้ว โดยบอกว่าพระองค์ทรงใช้มันเพื่อ “ช่วยชีวิตของ [พวกเขา] ไว้ด้วยการช่วยกู้อันใหญ่หลวง” (ปฐก.45:7) กระนั้นโยเซฟก็ไม่ได้แก้ต่างให้กับการกระทำอันร้ายกาจที่พวกพี่ทำกับท่าน ท่านใช้คำที่ชัดเจนว่า “ขาย [เขา]” (ข้อ 5)

บางครั้งเราพยายามมองสถานการณ์ยากลำบากในแง่บวกมากเกินไป โดยจดจ่อไปที่สิ่งดีซึ่งพระเจ้าทรงให้เกิดขึ้นและลืมนึกถึงอารมณ์ความรู้สึกที่มี ให้เราใส่ใจไม่เพียงการมองเรื่องร้ายว่าเป็นสิ่งดีเพราะพระเจ้าทรงไถ่มันแล้ว แต่ให้เราคาดหวังว่าพระองค์จะทำให้เกิดสิ่งดีขึ้นได้ในขณะที่ยังคงจดจำความเจ็บปวดที่เกิดจากการทำผิดนั้นด้วย เพราะทั้งสองล้วนเป็นความจริง

ต้นตอ

ในปี 1854 มีบางสิ่งคร่าชีวิตผู้คนในลอนดอนไปหลายพัน พวกเขาคิดว่าจะต้องเป็นมลพิษในอากาศแน่ๆ ความจริงแล้วความร้อนที่ผิดปกติทำให้สิ่งปฏิกูลปนเปื้อนในแม่น้ำเทมส์ส่งกลิ่นเลวร้ายจนเป็นที่เรียกขานว่า “วิกฤตการณ์กลิ่นเหม็นรุนแรง”

แต่ปัญหาที่เลวร้ายที่สุดไม่ใช่อากาศ งานวิจัยของดร.จอห์น สโนว์แสดงให้เห็นว่าน้ำที่ปนเปื้อนคือสาเหตุการระบาดของอหิวาตกโรค

มีวิกฤตอีกอย่างที่มนุษย์เราตระหนักมานานแล้ว คือวิกฤตที่ส่งกลิ่นเหม็น
ไปยังฟ้าสวรรค์ เราอยู่ในโลกที่ตกต่ำ และเรามักจะระบุต้นตอของปัญหานี้ผิดพลาดและหาทางรักษาแทน โครงการและนโยบายทางสังคมอันชาญฉลาด
มีประโยชน์อยู่บ้าง แต่ไม่มีอำนาจในการหยุดยั้งสาเหตุแห่งความเจ็บป่วยของสังคม นั่นก็คือจิตใจที่เต็มด้วยความบาปของเรา!

เมื่อพระเยซูตรัสว่า “ไม่มีสิ่งใดภายนอกที่เข้าไปภายในมนุษย์จะกระทำให้มนุษย์เป็นมลทินได้” พระองค์ไม่ได้หมายถึงความเจ็บป่วยฝ่ายร่างกาย (มก.
7:15) แต่ทรงวินิจฉัยสภาพฝ่ายวิญญาณของเราทุกคน “สิ่งซึ่งออกมาจากภายในมนุษย์ สิ่งนั้นแหละกระทำให้มนุษย์เป็นมลทิน” พระองค์ตรัส (ข้อ 15) และ
ทรงชี้ถึงการชั่วต่างๆที่ซุกซ่อนอยู่ภายในเรา (ข้อ 21-22)

“ดูเถิด ข้าพระองค์ถือกำเนิดมาในความผิดบาป” ดาวิดเขียน (สดด.51:5) คำคร่ำครวญนี้เป็นสิ่งที่เราทุกคนพูดได้เช่นกัน เราแตกสลายมาตั้งแต่ต้น นั่นเป็นเหตุให้ดาวิดอธิษฐานว่า “ขอทรงสร้างใจสะอาดภายในข้าพระองค์” (ข้อ 10) ในทุกวันเราต้องการหัวใจใหม่ที่สร้างโดยพระเยซูผ่านทางองค์พระวิญญาณ

แทนที่จะรักษาอาการป่วย เราจำต้องให้พระเยซูทรงชำระต้นตอของมัน

มรดกของการเป็นเพื่อน

ผมพบเขาในช่วงทศวรรษ 1970 ตอนที่ผมเป็นครูสอนภาษาอังกฤษและครูฝึกบาสเกตบอลในโรงเรียนมัธยมปลาย เขาเป็นนักเรียนใหม่ที่รูปร่างผอมสูง ไม่นานเขาก็ได้เข้ามาอยู่ในทีมบาสและชั้นเรียนของผม และมิตรภาพก็ก่อตัวขึ้น เพื่อนคนเดียวกันนี้รับใช้ในฐานะบรรณาธิการร่วมกับผมเป็นเวลาหลายปี เขายืนอยู่ต่อหน้าผมในงานเลี้ยงเกษียณอายุของผมและแบ่งปันถึงมรดกแห่งมิตรภาพอันยาวนานของเรา

เพื่อนที่ผูกพันกันด้วยความรักของพระเจ้าซึ่งหนุนใจและนำเราให้ใกล้ชิดพระเยซูนั้นมีลักษณะเช่นไร ผู้เขียนพระธรรมสุภาษิตเข้าใจว่ามิตรภาพมีสององค์ประกอบที่เกื้อหนุนกัน ประการแรก เพื่อนแท้จะให้คำแนะนำที่มีค่า ถึงแม้การให้และรับนั้นจะไม่ง่ายเลย (27:6) ผู้เขียนอธิบายว่า “บาดแผลที่มิตรทำก็สุจริต” ประการที่สอง เพื่อนที่อยู่ใกล้และไปมาหาสู่ได้เป็นสิ่งสำคัญในยามวิกฤต “เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ ดีกว่าพี่น้องที่อยู่ห่างไกล” (ข้อ 10)

การใช้ชีวิตเพียงลำพังไม่ดีสำหรับเรา เช่นที่ซาโลมอนบอกว่า “สองคนดีกว่าคนเดียว เพราะว่าเขาทั้งสองได้รับผลของงานดี” (ปญจ.4:9) ชีวิตเราจำเป็นต้องมีเพื่อนและต้องเป็นเพื่อนด้วย ขอพระเจ้าทรงช่วยให้เรา “รักกันฉันพี่น้อง” (รม.12:10) และ “ช่วยรับภาระของกันและกัน” (กท.6:2) โดยการเป็นเพื่อนในแบบที่สามารถหนุนใจผู้อื่นและนำพวกเขาเข้าใกล้ความรักของพระเยซูยิ่งขึ้น

มีปัญญาหรือไร้ปัญญา

ตอนอายุสิบขวบ ผมเอาตลับเทปเพลงจากวงดนตรีคริสเตียนร่วมสมัยซึ่งได้มาจากเพื่อนในกลุ่มอนุชนกลับบ้าน พ่อของผมซึ่งเติบโตมาในครอบครัวฮินดูแต่ได้รับความรอดในพระเยซูแล้วไม่ยอมรับ ท่านต้องการให้บ้านของเราเปิดแต่เพลงนมัสการเท่านั้น ผมอธิบายว่านี่เป็นวงดนตรีคริสเตียน แต่ก็ไม่ทำให้ท่านเปลี่ยนใจ หลังจากนั้นสักพักท่านก็แนะนำให้ผมฟังเพลงพวกนั้นสัปดาห์หนึ่งแล้วตัดสินใจว่ามันได้นำให้ผมเข้าใกล้พระเจ้า หรือผลักให้ผมห่างไกลจากพระองค์ คำแนะนำนั้นมีสติปัญญาที่เป็นประโยชน์

มีหลายสิ่งในชีวิตที่บอกได้อย่างชัดเจนว่าถูกหรือผิด แต่หลายครั้งเราก็โต้เถียงกันในเรื่องที่ตัดสินได้ยาก (รม.14:1-19) เราสามารถแสวงหาสติปัญญาจากพระคัมภีร์เพื่อจะตัดสินใจว่าควรทำเช่นไร เปาโลหนุนใจผู้เชื่อชาวเอเฟซัสว่า “จงระมัดระวังในการดำเนินชีวิตให้ดี อย่าให้เหมือนคนไร้ปัญญา แต่ให้เหมือนคนมีปัญญา” (อฟ.5:15) เช่นเดียวกับพ่อแม่ที่ดี เปาโลทราบว่าท่านไม่อาจอยู่ด้วยตลอดหรือให้คำแนะนำได้ในทุกสถานการณ์ แต่หากพวกเขาจะ “ฉวยโอกาส เพราะว่าทุกวันนี้เป็นกาลที่ชั่ว” พวกเขาก็จะมีวิจารณญาณและ “เข้าใจน้ำพระทัยขององค์พระผู้เป็นเจ้าว่าเป็นอย่างไร” (ข้อ 16-17) ชีวิตแห่งปัญญาคือคำเชื้อเชิญให้เราแสวงหาความเข้าใจและคำแนะนำที่ดีตามที่พระเจ้าทรงนำเรา แม้ขณะที่เราโต้เถียงกันในเรื่องที่อาจตัดสินได้ยาก

รักเพื่อนบ้านของเรา

ในช่วงที่ต้องเว้นระยะห่างและล็อกดาวน์ระหว่างการระบาดของไวรัสโคโรนา ถ้อยคำของมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ ใน “จดหมายจากเรือนจำเบอร์มิง-แฮม” สะท้อนความจริงอย่างชัดเจน เมื่อพูดถึงความอยุติธรรม เขาสังเกตว่าตนไม่อาจนั่งเฉยในเมืองหนึ่งโดยไม่สนใจว่าเกิดอะไรขึ้นในอีกเมือง “เราเชื่อมโยงอยู่ในเครือข่ายเดียวกันอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง” เขากล่าว “ผูกติดอยู่ในชะตากรรมเดียวกัน สิ่งใดก็ตามที่ส่งผลกระทบต่อเมืองหนึ่งโดยตรง ก็จะส่งผลกับทุกเมืองในทางอ้อมด้วย”

ในทำนองเดียวกัน การระบาดของโควิด 19 ได้ตอกย้ำถึงความเชื่อมโยงของเรา ขณะที่เมืองและประเทศต่างๆทั่วโลกปิดลงเพื่อหยุดยั้งการแพร่กระจายของไวรัส สิ่งที่กระทบเมืองหนึ่งในไม่ช้าก็จะกระทบเมืองอื่นๆด้วย

หลายศตวรรษมาแล้ว พระเจ้าทรงชี้แนะประชากรของพระองค์เรื่องการแสดงความห่วงใยต่อผู้อื่น พระองค์ประทานกฎเกณฑ์แก่ชนอิสราเอลผ่านโมเสสเพื่อนำและช่วยพวกเขาในการอาศัยอยู่ด้วยกัน พระองค์ตรัสแก่พวกเขาว่า “อย่าปองร้ายต่อชีวิตของเพื่อนบ้าน” (ลนต.19:16) และอย่าแก้แค้นหรือผูกพยาบาทต่อผู้อื่น แต่ “จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง” (ข้อ 18) พระเจ้าทรงทราบว่าชุมชนจะเริ่มแตกแยกถ้าผู้คนไม่เอาใจใส่ซึ่งกันและกัน โดยให้ความสำคัญกับชีวิตของผู้อื่นเหมือนกับตนเอง

เราเองก็สามารถตอบรับพระปัญญาจากคำสอนของพระเจ้า ในขณะที่ดำเนินชีวิตประจำวันนั้น เราระลึกได้ว่าเราเชื่อมโยงกับผู้อื่นเมื่อเราทูลขอพระองค์ว่าจะรักและรับใช้พวกเขาให้ดีได้อย่างไร

ขอบพระคุณสำหรับวันจันทร์

ฉันเคยกลัววันจันทร์ บางครั้งเมื่อฉันลงจากรถไฟเพื่อไปยังที่ทำงานเก่า ฉันจะนั่งอยู่ที่สถานีครู่หนึ่งเพื่อเลี่ยงเวลาไปถึงตึกแม้จะเพียงไม่กี่นาที หัวใจของฉันจะเต้นแรงเมื่อกังวลว่าใกล้ถึงเวลาส่งงานและต้องรับมือกับอารมณ์ที่ไม่คงที่ของเจ้านาย

สำหรับเราบางคน การเริ่มสัปดาห์ทำงานอันน่าเบื่ออาจยากเป็นพิเศษ เราอาจรู้สึกหนักใจหรือคิดว่างานของเราไม่สำคัญ กษัตริย์ซาโลมอนบรรยายถึงความเหนื่อยยากในการทำงานเมื่อพระองค์เขียนว่า “เพราะว่าเขาได้อะไรจากบรรดางานตรากตรำ และคร่ำเครียดที่เขาต้องทำภายใต้ดวงอาทิตย์เล่า ด้วยว่าปีเดือนของเขามีแต่ความเจ็บปวด และกิจธุระของเขาก่อความสลดใจ” (ปญจ.2:22-23)

ในขณะที่กษัตริย์ผู้ทรงสติปัญญาไม่ได้มอบยาสารพัดโรคที่จะทำให้งานกดดันน้อยลงหรือให้ผลตอบแทนมากขึ้น แต่พระองค์แนะนำให้เราเปลี่ยนมุมมอง ไม่ว่างานของเราจะยากเพียงใด พระองค์หนุนใจเราให้ “หาความชื่นบาน” จากมันด้วยความช่วยเหลือจากพระเจ้า (ข้อ 24) บางทีสิ่งนี้จะเกิดขึ้นเมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงช่วยให้เราสามารถสำแดงถึงพระลักษณะของพระคริสต์ หรือเมื่อเราได้ยินเรื่องของคนที่ได้รับพรจากการรับใช้ของเรา หรือเมื่อเราระลึกถึงสติปัญญาที่พระเจ้าประทานให้จัดการกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก แม้งานของเราอาจจะยาก แต่พระเจ้าผู้ทรงสัตย์ซื่อทรงอยู่กับเรา การสถิตอยู่และฤทธิ์อำนาจของพระองค์ส่องสว่างแม้ในวันที่มืดมน ด้วยความช่วยเหลือจากพระองค์ เราจึงสามารถขอบพระคุณสำหรับวันจันทร์

ความหวังจากเกเฮนนา

ในปี 1979 นักโบราณคดีกาเบรียล บาร์เคย์ ขุดพบหนังสือม้วนเงินขนาดเล็กสองม้วน ซึ่งต้องใช้เวลาหลายปีในการค่อยๆคลี่หนังสือม้วนเหล็กเหล่านี้ออก และพบว่าแต่ละม้วนสลักคำอวยพรในภาษาฮีบรูจากกันดารวิถี 6:24-26 “ขอพระเจ้าทรงอำนวยพระพรแก่ท่าน และพิทักษ์รักษาท่าน ขอพระเจ้าทรงให้พระพักตร์ของพระองค์ทอแสงแก่ท่าน และทรงพระกรุณาท่าน ขอพระเจ้าทรงเงยพระพักตร์ของพระองค์เหนือท่าน และประทานสวัสดิภาพแก่ท่าน” นักวิชาการระบุว่าหนังสือม้วนเหล่านี้มาจากศตวรรษที่ 7 ก่อนคริสตศักราช และเป็นข้อพระคัมภีร์คัดตอนที่เก่าแก่ที่สุดในโลก

ที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือสถานที่ที่พวกเขาพบ บาร์เคย์ขุดค้นถ้ำที่หุบเขาฮินโนม ซึ่งเป็นสถานที่ที่ผู้เผยพระวจนะเยเรมีย์บอกประชาชนยูดาห์ว่าพระเจ้าจะทรงประหารพวกเขาที่ใช้บุตรของตนเผาบูชา (ยรม.19:4-6) หุบเขานี้เป็นสถานที่แห่งความชั่วร้ายที่พระเยซูทรงใช้คำว่า “เกเฮนนา” (รูปภาษากรีกจากชื่อฮีบรูของ “หุบเขาฮินโนม”) ซึ่งเล็งถึงภาพของนรก (มธ.23:33)

ณ ที่แห่งนั้น ในช่วงเวลาเดียวกับที่เยเรมีย์ประกาศการพิพากษาของพระเจ้าแก่ชนชาติของท่าน ใครบางคนได้สลักพระพรในอนาคตของพระองค์บนม้วนหนังสือเงิน พระพรนั้นไม่ได้เกิดขึ้นในช่วงชีวิตของพวกเขา แต่วันหนึ่งในอีกด้านของการรุกรานจากบาบิโลน พระเจ้าจะทรงหันพระพักตร์ของพระองค์มาเหนือประชากรของพระองค์และประทานสวัสดิภาพแก่พวกเขา

บทเรียนของเรานั้นชัดเจน แม้สิ่งที่เราได้รับจะสมควรแล้ว แต่เราสามารถยึดมั่นในพระสัญญาของพระเจ้า เพราะพระทัยของพระองค์นั้นคำนึงถึงประชากรของพระองค์เสมอ

วิ่งแข่งขัน

เว็บไซต์ statista.com กล่าวโดยสรุปถึงนักกีฬาอเมริกันฟุตบอลลีกระดับประเทศส่วนใหญ่ว่ามีระยะเวลาในการเล่นอาชีพเฉลี่ย 3.3 ปี แต่ในปี 2021 ทอม เบรดี้ ผู้เล่นตำแหน่งควอร์เตอร์แบ็กของเอ็นเอฟแอล ได้เริ่มฤดูกาลที่ 22 ของเขาด้วยอายุ 44 ปี เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น อาจเพราะการควบคุมอาหารอย่างเคร่งครัดและการออกกำลังอย่างสม่ำเสมอของเขาซึ่งเป็นที่เลื่องลือทำให้เขาสามารถรักษาความได้เปรียบในการแข่งขัน แหวนซูเปอร์โบวล์ทั้งเจ็ดวงทำให้เขาได้รับสมญานามยอดเยี่ยมตลอดกาลในเอ็นเอฟแอล แต่นี่เป็นสมญานามที่เขาจะไม่มีทางได้รับนอกจากจะให้ความมุ่งมาดปรารถนาที่จะเล่นฟุตบอลอย่างสมบูรณ์แบบหลอมรวมกับทุกสิ่งในชีวิต

อัครทูตเปาโลทราบว่านักกีฬาในสมัยของท่านก็แสดงออกถึงวินัยแบบเดียวกัน (1 คร.9:24) และท่านยังเห็นว่าไม่ว่าพวกเขาจะฝึกฝนมากเพียงใด ที่สุดแล้วความรุ่งโรจน์นั้นก็จะร่วงโรยไป ในทางกลับกันท่านกล่าวว่า เรามีโอกาสที่จะดำเนินชีวิตเพื่อพระเยซูซึ่งจะส่งผลกระทบต่อนิรันดร์กาล หากนักกีฬาที่กระหายหาความรุ่งโรจน์ชั่วคราวยังฝึกฝนอย่างหนักเช่นนั้น เปาโลกล่าวต่อว่า แล้วผู้ที่มีชีวิตเพื่อ “มงกุฎที่ไม่มีวันร่วงโรย” ควรจะทำยิ่งกว่านั้นสักเท่าใด (ข้อ 25)

เราไม่ได้ฝึกฝนเพื่อจะได้รับความรอด แต่ตรงกันข้ามคือ เมื่อเราตระหนักว่าความรอดของเราอัศจรรย์อย่างยิ่งยวดเพียงใด มันจะปรับเปลี่ยนลำดับความสำคัญ มุมมอง และเป้าหมายในชีวิตของเรา ในขณะที่เราแต่ละคนวิ่งในการแข่งขันแห่งความเชื่ออย่างสัตย์ซื่อด้วยกำลังที่มาจากพระเจ้า

พระเจ้าทรงชดเชยความเจ็บปวดของเรา

โอลีฟมองเพื่อนขนอุปกรณ์ทันตกรรมของเธอขึ้นรถของเขา เขาเป็นเพื่อนทันตแพทย์ที่ซื้ออุปกรณ์ใหม่เอี่ยมจากเธอ การมีคลินิกของตนเองเป็นความฝันของโอลีฟมาหลายปี แต่เมื่อไคล์ลูกชายของเธอเกิดมาพร้อมภาวะสมองพิการ เธอจึงตระหนักว่าต้องหยุดทำงานเพื่อดูแลเขา

“ถึงจะมีล้านชีวิต ฉันก็จะเลือกเหมือนเดิม” เพื่อนของฉันบอก “แต่การเลิกเป็นทันตแพทย์นั้นยากมาก มันคือจุดจบของความฝัน”

เรามักเผชิญกับความยากลำบากที่เราไม่อาจเข้าใจได้ สำหรับโอลีฟแล้วนี่คือความเจ็บปวดใจจากอาการป่วยอย่างไม่คาดฝันของลูกและการต้องทิ้งความปรารถนาของตน สำหรับนาโอมีนั่นคือความเจ็บปวดใจจากการสูญเสียคนทั้งครอบครัว ในนางรูธ 1:21 นางคร่ำครวญว่า “องค์ผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ให้ฉันต้องประสบเหตุร้ายเช่นนี้”

แต่เรื่องราวของนาโอมียังมีมากกว่าที่นางเห็น พระเจ้าไม่ได้ทรงทอดทิ้งนาง พระองค์ทรงนำการฟื้นฟูมาทางโอเบดหลานชายของนาง (นรธ.4:17) โอเบดไม่เพียงเป็นผู้สืบเชื้อสายสามีและบุตรชายของนาง แต่เพราะเขา นางจึงได้เป็นญาติกับบรรพบุรุษ (โบอาส) ของพระเยซู (มธ.1:5, 16)

พระเจ้าทรงชดเชยความเจ็บปวดของนาโอมี พระองค์ยังทรงชดเชยความเจ็บปวดของโอลีฟด้วยการช่วยเธอริเริ่มพันธกิจสำหรับเด็กที่มีความผิดปกติทางระบบประสาท เราอาจต้องเผชิญกับฤดูแห่งความเจ็บปวด แต่เราสามารถวางใจว่าเมื่อเราเชื่อฟังและติดตามพระเจ้า พระองค์จะทรงชดเชยความเจ็บปวดของเรา ด้วยพระปัญญาและความรักของพระองค์นั้น พระองค์ทรงสามารถทำให้เกิดสิ่งดีจากความเจ็บปวดได้

เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไป นั่นเป็นการแสดงว่าท่านยอมรับ นโยบายการใช้คุกกี้ของเรา