วิถีชีวิตของเรา
ผมติดใจวลีหนึ่งที่มาจากพระคัมภีร์แปลฉบับร่วมสมัย เมื่อผมค้นคำว่า “วิถีชีวิตของเรา” ในกูเกิลเพื่อหาว่ามาจากพระธรรมตอนไหนผลการค้นหาจำนวนมากเกี่ยวกับสิ่งที่ผู้คนรู้สึกว่ากำลังคุกคามวิถีชีวิตของพวกเขา ภัยที่เด่นๆ ได้แก่ สภาพอากาศที่เปลี่ยนไป การก่อการร้าย และนโยบายต่างๆ ของรัฐ
แพ้หรือชนะ
วันที่ 18 มิถุนายนของทุกปี เป็นวันระลึกถึงยุทธการที่วอเตอร์ลู ซึ่งปัจจุบันอยู่ในประเทศเบลเยี่ยม วันนั้นในปี 1815 กองทัพฝรั่งเศสของนโปเลียนพ่ายแพ้แก่กองทัพพันธมิตร ภายใต้การนำของดยุกแห่งเวลลิงตัน ตั้งแต่นั้นมา คำว่า “เจอกับวอเตอร์ลู” ก็มีความหมายถึงการ “พ่ายแพ้แก่ผู้ที่แข็งแกร่งกว่าหรือปัญหาที่ยากเกินกว่าจะรับมือ”
กำลังสำหรับผู้อ่อนแรง
ในวันที่อากาศสดใส ผมเดินเล่นในสวนแห่งหนึ่งด้วยความรู้สึกเหนื่อยล้าในจิตใจ สิ่งที่ทำให้ผมหนักใจไม่ได้มีแค่อย่างเดียว แต่ดูเหมือนทุกอย่างประดังเข้ามา เมื่อผมหยุดเพื่อจะนั่งลงบนม้านั่ง ผมเห็นป้ายสลักข้อความแสดงความอาลัยรักแด่ “สามี พ่อ พี่และเพื่อนผู้ทุ่มเท” และมีข้อความต่อไปอีกว่า “แต่เขาทั้งหลายผู้รอคอยพระเจ้าจะเสริมเรี่ยวแรงใหม่ เขาจะบินขึ้นด้วยปีกเหมือนนกอินทรี เขาจะวิ่งและไม่เหน็ดเหนื่อย เขาจะเดินและไม่อ่อนเปลี้ย” (อสย.40:31)
ทรงรับสภาพเดียวกับเรา
เดวิด ดิลลาร์ดต้องการช่วยพนักงานสถาปนิกรุ่นใหม่ให้เข้าใจความต้องการของลูกค้าที่ว่าจ้างให้ออกแบบ เขาจึงส่งพนักงานไป “นอนค้างคืน” พวกเขาสวมชุดนอนและใช้เวลา 24 ชั่วโมงในศูนย์ดูแลผู้สูงอายุในสภาพเดียวกับคนอายุ 80-90 ปี ทั้งใส่เครื่องช่วยฟัง พันนิ้วมือเพื่อจำกัดความคล่องตัวในการใช้มือ และสลับแว่นตากันเพื่อให้เหมือนคนมีปัญหาด้านสายตา ดิลลาร์ดบอกว่า “ข้อดีที่สุดคือเมื่อผมส่งคนอายุ 27 ปีไป ผมจะได้คนที่มีใจกว้างกว่าเดิม 10 เท่ากลับมา พวกเขาได้พบเจอคนอื่นและเข้าใจสถานการณ์ของคนเหล่านั้น”
อยู่ในการทรงดูแลเสมอ
อดีตผู้สื่อข่าวสก็อต เพลลีย์ไม่เคยเดินทางไปทำข่าวโดยไม่มีของสำคัญคือ วิทยุคลื่นสั้น กล้องถ่ายรูป กระเป๋าเดินทางใบแกร่ง คอมพิวเตอร์พกพา โทรศัพท์และอุปกรณ์ส่งสัญญาณฉุกเฉินที่ใช้งานได้ทุกที่ เพลลีย์บอกว่า “แค่ดึงเสาอากาศออกมา กดสองปุ่มและมันจะส่งสัญญาณไปยังดาวเทียม ที่เชื่อมต่อกับองค์การรบริหารสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติเพื่อแจ้งว่าผมเป็นใครและอยู่ที่ไหน เขาจะส่งทีมมาช่วยหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับว่าผมอยู่ในประเทศใด” เพลลีย์ไม่เคยต้องใช้อุปกรณ์ส่งสัญญาณนี้ แต่ก็พกติดตัวไปด้วยทุกครั้ง
ไม่มีความปีติยิ่งกว่า
บ็อบและเอวอน พอตเตอร์เป็นคู่สามีภรรยาที่ชอบความสนุกสนาน พวกเขามีลูกชายเล็กๆ สามคนตอนที่ชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยนอันน่าอัศจรรย์ ในปี 1956 พวกเขาไปงานประกาศของบิลลี่ เกรแฮมในโอกลาโฮมาและมอบชีวิตให้พระคริสต์ ต่อมาพวกเขาอยากจะประกาศความเชื่อและความจริงของพระคริสต์แก่ผู้อื่น จึงเปิดบ้านทุกคืนวันเสาร์ให้นักเรียนมัธยมและมหาวิทยาลัยที่ต้องการเรียนพระคัมภีร์ เพื่อนคนหนึ่งชวนผมไปและผมก็กลายเป็นแขกประจำของบ้านพอตเตอร์
ยิ่งใหญ่กว่าความยุ่งเหยิง
ใจความหลักของพระธรรม 2 ซามูเอล น่าจะสรุปได้ว่า “ชีวิตช่างยุ่งเหยิง” ขณะที่ดาวิดเป็นกษัตริย์ปกครองอิสราเอล ท่านต้องเผชิญกับอุปสรรคทางการทหาร อุบายทางการเมือง และการทรยศจากเพื่อนและคนในครอบครัว และดาวิดเองก็ทำผิดในเรื่องความสัมพันธ์กับนางบัทเชบา (2 ซามูเอล 22:11-12)
วันนี้เป็นวัน
ในปี 1940 ดร.เวอร์จิเนีย คอนนอลลี่ อายุ 27 ปี ยืนหยัดทนต่อการต่อต้านและคำวิพากษ์วิจารณ์ที่เธอเป็นแพทย์หญิงคนแรกของเมืองอาบิลีน รัฐเท็กซัส ต่อมาในปี 2012 ก่อนวันครบรอบวันเกิด 100 ปีเธอได้รับรางวัลประกาศเกียรติคุณสูงสุดด้านการนำวิชาการแพทย์มาช่วยเหลือสังคม ในช่วงชีวิตของดร.คอนนอลลี่ เธอได้ประกาศพระกิตติคุณไปทั่วโลกผ่านการออกหน่วยแพทย์อาสา เธอใช้ชีวิตรับใช้พระเจ้าและผู้อื่นวันต่อวัน
ใกล้เกินไป
ผมเติบโตในเมืองโอกลาโฮม่า ซึ่งมักมีสภาพอากาศรุนแรงในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิถึงปลายฤดูร้อน ผมจำได้ว่าเย็นวันหนึ่ง มีเมฆมืดทึบปกคลุมท้องฟ้า ข่าวพยากรณ์อากาศเตือนว่ามีพายุทอร์นาโดกำลังใกล้เข้ามา แล้วไฟฟ้าก็ดับ พ่อแม่ พี่สาว กับผมจึงรีบลงบันไดไปอยู่ในห้องหลบภัยใต้ดินทันที จนกระทั่งพายุผ่านไป