คู่รักที่หยุดชมภาพเขียนนามธรรมขนาดใหญ่สังเกตเห็นกระป๋องสีที่เปิดอยู่และพู่กันที่วางอยู่ข้างใต้ พวกเขาคิดว่ามันเป็น “งานที่อยู่ระหว่างดำเนินการ” ที่ใครอยากจะช่วยสร้างสรรค์ก็ได้ พวกเขาจึงทาสีเพิ่มเข้าไปแล้วจากไป แต่ศิลปินได้จงใจทิ้งอุปกรณ์เอาไว้เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการจัดแสดงผลงานที่วาดเสร็จแล้ว หลังจากดูคลิปวีดิโอของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางห้องแสดงภาพยอมรับว่ามันเป็นความเข้าใจผิดและไม่ได้แจ้งตำรวจ

ชนชาติอิสราเอลที่อาศัยอยู่ทางตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดนได้ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดเมื่อพวกเขาสร้างแท่นบูชาใหญ่โตขึ้นที่ริมแม่น้ำ คนที่อยู่ฝั่งตะวันตกมองว่านี่เป็นการกบฏต่อพระเจ้า เพราะทุกคนต่างรู้ว่าพลับพลาเป็นที่แห่งเดียวที่พระเจ้าอนุญาตให้มีการนมัสการได้ (ยชว.22:16)

ความตึงเครียดเพิ่มขึ้นจนกระทั่งผู้คนฝั่งตะวันออกอธิบายว่าพวกเขาตั้งใจจะสร้างแท่นบูชาจำลองขึ้น เพื่อต้องการให้ลูกหลานเห็นและตระหนักถึงความผูกพันด้านความเชื่อและสายเลือดที่พวกเขามีต่อชนชาติอิสราเอลเผ่าอื่นๆ (ข้อ 28-29) พวกเขาอุทานว่า “องค์ผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์คือพระเจ้าพระเยโฮวาห์ พระองค์ทรงทราบ” (ข้อ 22) ยังดีที่คนเหล่านั้นรับฟัง พวกเขาเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นจึงได้สรรเสริญพระเจ้า แล้วกลับไปบ้าน

เพราะพระเจ้า “ทรงพิจารณาจิตใจทั้งปวง และทรงเข้าใจในแผนงานและความคิดทั้งปวง” (1 พศด.28:9) พระองค์ทรงทราบแรงจูงใจของทุกคน หากเราขอให้ทรงช่วยเราแก้ไขสถานการณ์ที่สับสน พระองค์อาจประทานโอกาสให้เราได้อธิบายเหตุผลของเรา หรือประทานพระคุณที่เราจำเป็นต้องมีเพื่อจะให้อภัยเราหันมาหาพระเจ้าได้เมื่อเราแสวงหาการเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับผู้อื่น