ในหมู่รูปปั้นของเหล่าบุรุษที่จัตุรัสรัฐสภากลางกรุงลอนดอน มีรูปปั้นสตรีเพียงหนึ่งเดียว คือ มิลลิเซนท์ ฟอว์เซทท์ผู้ต่อสู้เพื่อให้ผู้หญิงมีสิทธิ์เลือกตั้ง รูปปั้นสัมฤทธิ์ถือป้ายจารึกคำที่เธออุทิศแด่ผู้ร่วมอุดมการณ์ว่า “ความกล้าหาญร้องเรียกความกล้าหาญจากทุกที่” ฟอว์เซทท์ยืนยันว่าความกล้าหาญของคนหนึ่งจะสร้างความกล้าหาญให้กับผู้อื่น ร้องเรียกจิตวิญญาณที่ขลาดกลัวให้ลงมือทำ

เมื่อดาวิดสืบทอดราชบัลลังก์ให้ซาโลมอนพระราชโอรส ทรงอธิบายถึงหน้าที่ที่กำลังจะตกเป็นของซาโลมอน ซึ่งคงหวาดหวั่นเมื่อรับภาระหนักนี้ คือการนำอิสราเอลให้ดำเนินตามพระบัญญัติพระเจ้า รักษาแผ่นดินที่พระเจ้ามอบให้ และกำกับดูแลการสร้างพระวิหาร (1 พศด. 28:8-10)

ดาวิดรู้ว่าซาโลมอนกังวล จึงกล่าวคำพูดที่ทรงพลังว่า “จงเข้มแข็ง และกล้า หาญ…อย่ากลัวเลย อย่าขยาด เพราะว่าพระเยโฮวาห์พระเจ้า คือพระเจ้าของข้าทรงสถิตกับเจ้า” (ข้อ 20) ความกล้าหาญแท้ไม่ได้เกิดจากทักษะหรือความมั่นใจของซาโลมอน แต่เพราะพระเจ้าสถิตอยู่ด้วยและความเข้มแข็งของพระองค์ ทรงประทานความกล้าหาญที่จำเป็นให้กับซาโลมอน

เมื่อต้องเผชิญกับความยากลำบาก เรามักจะทำใจดีสู้เสือหรือพูดให้ตัวเองรู้สึกกล้าหาญ แต่พระเจ้าเป็นผู้เพิ่มเติมความเชื่อของเรา พระองค์จะสถิตกับเราซึ่งจะปลุกให้เรากล้าหาญ