ผมเคยคิดว่าคำเทศนาบนภูเขา (มธ.5-7) เป็นพิมพ์เขียวสำหรับความประพฤติของมนุษย์ เป็นมาตรฐานที่ไม่มีใครทำตามได้ แต่ผมพลาดความหมายที่แท้จริงไป พระเยซูตรัสคำสอนเหล่านั้นไม่ใช่เพื่อให้เรารู้สึกอึดอัด แต่เพื่อบอกเราว่าพระเจ้าทรงเป็นอย่างไร

เราควรรักศัตรู เพราะพระบิดาผู้เมตตาทรงให้ดวงอาทิตย์ส่องสว่างแก่ทั้งคนดีและคนชั่ว เราสะสมสมบัติในสวรรค์ เพราะพระบิดาทรงอยู่ที่นั่นและจะให้รางวัลเราอย่างงาม เราดำเนินชีวิตโดยไม่กลัวหรือกังวล เพราะพระเจ้าผู้ทรงตกแต่งดอกไม้และต้นหญ้าในทุ่งนาสัญญาว่า จะดูแลเรา เราอธิษฐานเพราะพ่อในโลกยังให้ขนมปังหรือปลากับลูก พระบิดาในสวรรค์จะยิ่งให้สิ่งดีแก่ผู้ที่ทูลขอ

พระเยซูประทานคำเทศนาบนภูเขา (มธ.5-7) ไม่เพียงเพื่ออธิบายพระลักษณะของพระเจ้าที่เราควรพยายามเป็นเหมือนพระองค์ แต่ยังมีไว้เพื่อแสดงว่าในชีวิตนี้ไม่มีใครที่จะเป็นเช่นนั้นได้

ต่อหน้าพระเจ้า เราทุกคนอยู่ระดับเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นฆาตกรและคนเอาแต่ใจ คนล่วงประเวณีและคนลามก ขโมยและคนโลภ เราทุกคนสิ้นหวังและนั่นเป็นสภาพเดียวที่เหมาะสมกับมนุษย์ที่ต้องการรู้จักพระเจ้า การเสื่อมจากพระลักษณะอันสมบูรณ์แบบทำให้เราไม่มีทางไปนอกจากจะอยู่ในตาข่ายแห่งพระคุณอันสมบูรณ์ที่รองรับอยู่เท่านั้น