ขณะรอขึ้นเครื่องที่บริเวณประตูทางออกในสนามบินชางงีประเทศสิงคโปร์ ผมเห็นครอบครัวหนึ่งมีพ่อแม่และลูกชายกำลังมองหาที่นั่ง ทันใดนั้นเด็กน้อยก็ร้องเพลง “พระทรงบังเกิดโลกจงยินดี” เขาอายุแค่ 6 ขวบ ผมจึงรู้สึกทึ่งที่เขาจำเนื้อเพลงทั้งหมดได้

สิ่งที่ทำให้ผมติดใจยิ่งกว่า คือสีหน้าของเขา รอยยิ้มสดใส สอดคล้องกับถ้อยคำที่เขากำลังร้องบอกทุกคนถึงความชื่นชมยินดีเมื่อพระคริสต์เสด็จมา

ความชื่นบานนี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะเด็กๆ หรือจำกัดเฉพาะช่วงคริสต์มาสเท่านั้นความชื่นชมยินดีที่หลั่งไหลออกมาจากการได้รู้ว่าพระคริสต์ทรงสถิตกับเรา เป็นคำสอนสุดท้ายข้อหนึ่งที่ทรงสอนสาวกในคืนก่อนวันสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน พระองค์เล่าถึงความรักอันยิ่งใหญ่ที่ทรงมีต่อพวกเขาคือทรงรักพวกเขาดังที่พระบิดาทรงรักพระองค์ (ยน.15:9) หลังจากเล่าถึงสัมพันธภาพนิรันดร์นี้แล้ว พระเยซูตรัสว่า “นี่คือสิ่งที่เราได้บอกแก่ท่านทั้งหลายแล้วเพื่อให้ความยินดีของเราดำรงอยู่ในท่านและให้ความยินดีของท่านเต็มเปี่ยม” (ยน.15:11)

เป็นคำสัญญาที่ประเสริฐยิ่งนัก โดยทางพระเยซูคริสต์ ใจของเราจึงเต็มล้นไปด้วยความชื่นบานที่แท้จริง!