“ถ้าลูกหาดาวดวงนั้นเจอ ลูกก็หาทางกลับบ้านได้เสมอ” นั่นคือคำพูดของพ่อขณะสอนให้ผมมองหาดาวเหนือตอนผมเป็นเด็ก พ่อเคยรับใช้กองทัพในช่วงสงคราม และมีบางช่วงเวลาที่ชีวิตของพ่อขึ้นอยู่กับความสามารถในการ นำทางจากท้องฟ้าในยามค่ำคืน พ่อจึงต้องแน่ใจว่าผมรู้ชื่อและตำแหน่งของกลุ่มดาวต่างๆ แต่การสามารถหาดาวเหนือได้นั้นสำคัญที่สุด การรู้ตำแหน่งของดาวดวงนั้นหมายความว่าผมจะสามารถจับทิศทางได้ไม่ว่าผมอยู่ที่ไหนและไปยังที่ที่ผมต้องการจะไปได้

พระคัมภีร์กล่าวถึงดวงดาวอีกดวงที่มีความสำคัญยิ่งในชีวิต “โหราจารย์จากทิศตะวันออก” ซึ่งเป็นผู้รู้ (จากพื้นที่ของประเทศอิหร่านและอิรักรวมกันในปัจจุบัน)ที่เฝ้าดูหมายสำคัญบนท้องฟ้าแห่งการมาประสูติขององค์ผู้ซึ่งเป็นกษัตริย์ของพระเจ้าเพื่อประชากรของพระองค์ พวกเขาเดินทางมาที่กรุงเยรูซาเล็มแล้วถามว่า “กุมารผู้ที่บังเกิดมาเป็นกษัตริย์ของชนชาติยิวนั้นอยู่ที่ไหน เราได้เห็นดาวของท่านปรากฏขึ้น เราจึงมาหวังจะนมัสการท่าน” (มธ.2:1-2)

นักดาราศาสตร์ไม่รู้ถึงสาเหตุที่ทำให้ดาวแห่งเบธเลเฮมปรากฏขึ้น แต่พระคัมภีร์เปิดเผยว่า พระเจ้าทรงสร้างดาวดวงนี้ขึ้นเพื่อชี้ให้โลกได้เห็นพระเยซูผู้ทรงเป็น “ดาวประจำรุ่งอันสุกใส” (วว.22:16) พระคริสต์เสด็จมาเพื่อช่วยเราให้รอดจากบาปและนำเรากลับไปหาพระเจ้า จงติดตามพระองค์ไป แล้วคุณจะพบทางกลับบ้าน