เมื่อศิษยาภิบาลบ็อบได้รับบาดเจ็บซึ่งส่งผลต่อเสียงของเขา เขาตกอยู่ในภาวะวิกฤติและซึมเศร้าเป็นเวลาสิบห้าปี เขาสงสัยว่าศิษยาภิบาลที่พูดไม่ได้จะทำอะไรได้ เขาต่อสู้กับคำถามนี้ ระบายความทุกข์ระทมและความสับสนต่อพระเจ้า เขาเล่าว่า “ผมรู้เพียงอย่างเดียวที่ต้องทำ นั่นคือทำตามพระคำของพระเจ้า” เมื่อเขาใช้เวลาอ่านพระคัมภีร์ ความรักที่เขามีต่อพระเจ้าเพิ่มมากขึ้น “ผมทุ่มเทชีวิตกับการซึมซับและใคร่ครวญพระวจนะ เพราะความเชื่อเกิดขึ้นได้ก็เพราะการได้ยิน คือได้ยินพระคำของพระเจ้า”
เราพบประโยคที่บอกว่า “ความเชื่อเกิดขึ้นได้ก็เพราะการได้ยิน” ในจดหมายของเปาโลถึงชาวกรุงโรม ท่านปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะให้คนร่วมเชื้อสายยิวกับท่านเชื่อในพระคริสต์และได้รับความรอด (รม.10:9) พวกเขาจะเชื่อได้อย่างไร โดยทางความเชื่อที่ “เกิดขึ้นได้ก็เพราะการได้ยิน…เพราะการประกาศพระคริสต์” (ข้อ 17)

ศิษยาภิบาลบ็อบพยายามทำความเข้าใจและเชื่อในคำสอนของพระคริสต์โดยเฉพาะในขณะที่เขาอ่านพระคัมภีร์ เขาสามารถพูดได้เพียงวันละหนึ่งชั่วโมงและรู้สึกเจ็บตลอดเวลาที่พูด แต่เขาก็ได้พบกับสันติสุขและความพึงพอใจที่มาจากพระเจ้าอย่างต่อเนื่องผ่านทางการใคร่ครวญพระวจนะ เราเองก็สามารถเชื่อวางใจได้ว่าพระเยซูจะทรงสำแดงพระองค์เองแก่เราในความทุกข์ยากของเรา พระองค์จะทรงเพิ่มพูนความเชื่อของเราเมื่อเราได้ยินพระวจนะของพระองค์ไม่ว่าเราจะกำลังเผชิญกับปัญหาใด