ระหว่างรอเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย ชินยี่วัยยี่สิบปีตัดสินใจที่จะอุทิศช่วงเวลาก่อนเปิดภาคเรียนสามเดือนเพื่อร่วมรับใช้กับองค์กรที่ทำงานกับเยาวชนดูเหมือนเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก เพราะการระบาดของโควิด 19 ทำให้ไม่สามารถพบปะพูดคุยกันหน้าต่อหน้า แต่ไม่นานชินยี่ก็หาวิธีได้ “เราไม่สามารถเจอกับนักเรียนที่ถนน ในห้างสรรพสินค้า หรือศูนย์อาหารที่เราเคยพบกันได้ในภาวะปกติ” เธอแบ่งปัน “แต่เรายังคงติดต่อกับนักเรียนที่เป็นคริสเตียนผ่านระบบซูมเพื่ออธิษฐานเผื่อซึ่งกันและกัน และพูดคุยกับนักเรียนที่ไม่เป็นคริสเตียนทางโทรศัพท์”

ชินยี่ได้ทำสิ่งที่อัครทูตเปาโลหนุนใจให้ทิโมธีทำ “จงทำหน้าที่ของผู้ประกาศข่าวประเสริฐ” (2ทธ.4:5) เปาโลเตือนว่าผู้คนจะมองหาครูที่สอนในสิ่งที่พวกเขา ชอบฟัง แต่ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจำเป็นต้องได้ยิน (ข้อ 3-4) เปาโลกำชับทิโมธีให้มีความกล้าและเตรียมพร้อมทั้ง “ขณะที่มีโอกาสและไม่มีโอกาส” เขาจะต้อง “ชักชวนด้วยเหตุผล เตือนสติ และตักเตือนให้อดทนอยู่เสมอในการสั่งสอน” (ข้อ 2)

แม้ว่าเราไม่ได้รับการทรงเรียกให้เป็นผู้ประกาศหรือผู้เทศนากันทุกคน แต่เราทุกคนสามารถมีส่วนในการแบ่งปันความเชื่อของเราแก่ผู้คนที่อยู่รอบข้างได้ ผู้ที่ไม่เชื่อกำลังพินาศหากปราศจากพระคริสต์ ผู้เชื่อต้องการการเสริมกำลังและการหนุนใจ โดยการทรงช่วยเหลือของพระเจ้า ขอให้เราประกาศข่าวดีของพระองค์ในทุกที่และทุกเวลาที่เรามีโอกาส