Month: มกราคม 2021

พระเจ้าผู้เปี่ยมด้วยความรักเมตตา

ในคืนฤดูหนาวที่เย็นยะเยือก ใครบางคนขว้างหินก้อนใหญ่ใส่หน้าต่างห้องนอนเด็กชาวยิวคนหนึ่ง บนหน้าต่างประดับด้วยดาวดาวิดและรูปเชิงเทียนเมโนราห์เพื่อฉลองเทศกาลฮานุกกะห์ ซึ่งเป็นเทศกาลแห่งแสงสว่างของชาวยิว ในเมืองบิลลิงส์ รัฐมอนทาน่าที่เด็กอาศัยอยู่นั้น ประชากรหลายพันคนซึ่งส่วนใหญ่เชื่อในพระเยซูจะตอบสนองต่อการกระทำที่แสดงถึงความเกลียดชังด้วยความรักเมตตา พวกเขาเลือกที่จะมีส่วนร่วมในความเจ็บปวดและความกลัวของเพื่อนบ้านชาวยิว ด้วยการติดรูปเชิงเทียนเมโนราห์บนหน้าต่างของพวกเขา

ในฐานะผู้เชื่อในพระเยซู เราได้รับความรักเมตตาที่ยิ่งใหญ่เช่นกัน องค์พระผู้ช่วยทรงถ่อมพระองค์ลงมาอยู่ท่ามกลางเรา (ยน.1:14) และทรงรับสภาพเดียวกับเรา เพื่อพวกเราพระองค์ “ผู้ทรงสภาพของพระเจ้า...ได้กลับทรงสละและทรงรับสภาพทาส” (ฟป.2:6-7) ทรงรู้สึกเหมือนที่เรารู้สึก ทรงร้องไห้เหมือนที่เราร้องไห้ ทรงยอมตายบนไม้กางเขน สละชีวิตของพระองค์เพื่อช่วยเรา

ไม่มีความทุกข์ลำบากใดที่อยู่เหนือความห่วงใยของพระผู้ช่วยให้รอดของเรา ถ้ามีใคร “โยนก้อนหิน” ใส่ชีวิตของเรา พระองค์จะทรงปลอบประโลม ถ้าเราผิดหวัง พระองค์จะเดินร่วมกับเราผ่านความสิ้นหวัง “ถึงแม้พระเจ้านั้นสูงยิ่ง พระองค์ก็ทรงเห็นแก่คนต่ำต้อย แต่พระองค์ทรงทราบคนโอหังได้แต่ไกล”(สดด.138:6) เมื่อเรามีปัญหา พระองค์ปกป้องเรา ทรงกางพระหัตถ์ออกต่อสู้ทั้ง “ความพิโรธของศัตรู[ของเรา]” (ข้อ 7) และความกลัวที่ลึกที่สุดของเราเอง ขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับความรักเมตตาของพระองค์

ตามชอบพระทัยพระเจ้า

เมื่อนายธนาคารอาวุโสของเอเชียถูกถามว่า คำถามที่พวกเขาชอบมากที่สุดในการสัมภาษณ์คืออะไร หนึ่งในนั้นตอบว่า “คุณนิยามความสำเร็จและบรรลุมันอย่างไร” ผู้บริหารสูงสุดของธนาคารซิตี้แบงก์สิงคโปร์อธิบายว่า “ผมชอบที่จะเข้าใจถึงแรงจูงใจสู่ความสำเร็จ เพราะมันทำให้ผมได้รู้จักแก่นแท้ของบุคคล (ที่ผมสัมภาษณ์)และค่านิยมของเขา”

แล้วสำหรับพระเจ้าล่ะ พระองค์ทรงมองหาอะไร เราอ่าน “บทสัมภาษณ์” ใน 1 ซามูเอล 16:1-13 ผู้เผยพระวจนะซามูเอลได้รับภารกิจจากพระเจ้าให้เฟ้นหาและเจิมตั้งกษัตริย์ของอิสราเอล และพระเจ้าทรงประทานข้อกำหนดไว้ว่า “มนุษย์ดูที่รูปร่างภายนอกแต่พระเจ้าทอดพระเนตรจิตใจ” (1 ซมอ.16:7) ตัวเลือกทั้งเจ็ดคนถูกสัมภาษณ์และถูกปฏิเสธ (ข้อ 8-10) ตัวเลือกที่แปด ดาวิดลูกชายคนสุดท้องของเจสซี ผู้ดูเหมือนมีคุณสมบัติน้อยที่สุดที่จะประสบความสำเร็จได้รับเลือก ท่านมีคุณสมบัติที่เข้าเกณฑ์สำคัญที่พระเจ้าทรงมองหา “เราได้พบดาวิดบุตรของเจสซี เป็นคนที่เราชอบใจ เป็นผู้ที่จะทำให้ความประสงค์ของเราสำเร็จทุกประการ” (กจ.13:22)

ในขณะที่การพิจารณาทักษะและคุณสมบัติของแต่ละบุคคลเป็นเรื่องสำคัญ แต่ต้องไม่ละเลยประเด็นที่มีน้ำหนักกว่าในเรื่องคุณลักษณะชีวิต คือความซื่อสัตย์ จริงใจ ซื่อตรงมีคุณธรรม และถ่อมใจ สิ่งเหล่านี้มีนัยสำคัญสำหรับเราเมื่อเราต้องการจะเป็นผู้รับใช้ที่ดีและสัตย์ซื่อของพระเจ้า เราต้องแสวงหาที่จะเติบโตในทักษะและความรู้ และที่สำคัญยิ่งกว่าคือการเป็นบุคคลตามชอบพระทัยของพระเจ้า

ทำลายวงจร

เดวิดถูกพ่อตีครั้งแรกในวันเกิดครบรอบเจ็ดขวบ หลังจากเขาทำกระจกหน้าต่างแตกโดยไม่ตั้งใจ “พ่อเตะและชกผม” เดวิดเล่า “หลังจากนั้น พ่อมาขอโทษผม พ่อติดเหล้าและมันเป็นวงจรที่ผมจะทำให้ดีที่สุดเพื่อจบมันเดี๋ยวนี้”

แต่ก็ต้องใช้เวลานานกว่าเดวิดจะไปถึงจุดนั้นได้ ช่วงชีวิตวัยรุ่นและวัยหนุ่มของเขาส่วนใหญ่หมดไปในคุกหรือถูกคุมความประพฤติ และเข้าๆออกๆศูนย์บำบัดยาเสพติด เมื่อความฝันของเขากำลังจะเลือนหาย เขาพบความหวังผ่านการมีความสัมพันธ์กับพระเยซูในศูนย์บำบัดที่ยึดพระคริสต์เป็นศูนย์กลาง

“ชีวิตของผมเคยเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง” เดวิดพูด “แต่ตอนนี้ผมผลักดันตัวเองไปอีกทิศทางหนึ่ง เมื่อผมตื่นขึ้นในตอนเช้าสิ่งแรกที่ทำคือ ผมบอกพระเจ้าว่าผมยอมมอบความปรารถนาทั้งหมดของผมไว้กับพระองค์”

เมื่อเรามาหาพระเจ้าด้วยชีวิตที่แตกสลาย ไม่ว่าจะถูกคนอื่นทำร้ายหรือเกิดจากตัวเราเอง พระเจ้าทรงรับเอาหัวใจที่แตกสลายของเรา และจะทรงสร้างเราขึ้นใหม่ “ถ้าผู้ใดอยู่ในพระคริสต์ ...สิ่งสารพัดที่เก่าๆก็ล่วงไป นี่แน่ะกลายเป็นสิ่งใหม่ทั้งนั้น” (2 คร.5:17) ความรักและชีวิตที่มาจากพระเยซูคริสต์สามารถทำลายวงจรในอดีตและมอบอนาคตใหม่ให้กับเรา (ข้อ 14-15) และยังไม่จบเพียงเท่านี้! เราพบความหวังและกำลังที่พระเจ้าทรงเคยกระทำและจะทรงกระทำต่อไปในชีวิตของเราได้ในตลอดและทุกช่วงเวลาของชีวิตเรา

เริ่มต้นถูก ชีวิตเปลี่ยน

เริ่มต้นวันนี้

เริ่มต้นกับพระเจ้าอย่างถูกต้อง..วันนี้!

เริ่มต้นถูก ชีวิตเปลี่ยน!

เริ่มต้นปี 2021 กับพระเจ้าอย่างถูกต้อง

มานาประจำวันมีหนังสือที่จะช่วยให้คุณเริ่มต้นใหม่กับพระเจ้าได้อย่างถูกต้อง และดำเนินชีวิตทุกวันด้วยสันติสุขอย่างแท้จริง

เงยหน้าขึ้นมอง

เมฆลอยต่ำบดบังเส้นขอบฟ้าและจำกัดทัศนวิสัยเหลือเพียงไม่กี่ร้อยหลา แต่ละนาทีผ่านไปอย่างเชื่องช้า ส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของผมอย่างเห็นได้ชัด แต่แล้วเมื่อถึงช่วงบ่ายหมู่เมฆเริ่มกระจายตัวออก และผมเริ่มมองเห็นยอดเขาไพค์ที่สวยงาม ซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ที่มีชื่อเสียงของเมืองขนาบข้างไปด้วยแนวเทือกเขา รอยยิ้มเริ่มปรากฏบนใบหน้าของผม ผมตระหนักได้ว่ามุมมองทางกายภาพที่เราเห็นด้วยตา สามารถส่งผลกระทบต่อมุมมองทางจิตวิญญาณของเรา และเตือนให้ผมคิดถึงบทเพลงสดุดีที่ร้องว่า “ข้าพเจ้าเงยหน้าดูภูเขา” (สดด.121:1) บางครั้งเราแค่ต้องมองให้สูงขึ้นอีกนิด!

ผู้เขียนสดุดีครุ่นคิดว่าความช่วยเหลือของท่านมาจากไหน บางทีอาจเป็นเพราะว่ายอดเขารอบๆอิสราเอลเต็มไปด้วยแท่นบูชาที่ใช้กราบไหว้เทพเจ้าของชนต่างชาติและมักเต็มไปด้วยโจรผู้ร้าย หรืออาจเป็นไปได้ว่าผู้เขียนสดุดีมองข้ามเนินเขาไปยังภูเขาศิโยนที่พระวิหารตั้งอยู่ และระลึกได้ว่าพระผู้สร้างฟ้าสวรรค์และโลกคือพระเจ้าผู้ทรงทำพันธสัญญากับท่าน (ข้อ 2) ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด เราจะต้องมองขึ้นสูงเมื่อเรานมัสการ เราจะต้องมองให้สูงกว่าสถานการณ์ ปัญหาและอุปสรรคของเรา และสูงกว่าคำสัญญาที่ว่างเปล่าของพระเทียมเท็จในโลกปัจจุบัน เมื่อนั้นเราจะสามารถมองเห็นองค์พระผู้สร้างและพระผู้ไถ่ ผู้ทรงเรียกเราตามชื่อของเรา พระองค์คือผู้ที่จะ “ทรงอารักขาการเข้าออกของท่านตั้งแต่กาลบัดนี้สืบไปเป็นนิตย์” (ข้อ 8)

มงกุฎกระดาษ

หลังมื้ออาหารในช่วงเทศกาลที่บ้านของฉัน ทุกคนแกะของที่ระลึกซึ่งเต็มไปด้วยขนม ของเล่น และกระดาษสีโปรยปราย แต่ยังมีของอีกชิ้นหนึ่งในกล่อง คือมงกุฎกระดาษสำหรับแต่ละคน เราหักห้ามใจไม่ได้ที่จะใส่มัน และเรายิ้มให้กันขณะนั่งล้อมวงรอบโต๊ะ ในชั่วขณะหนึ่งเราทุกคนเป็นราชาและราชินี แม้ว่าอาณาจักรของเราจะเป็นเพียงห้องทานอาหารซึ่งเกลื่อนไปด้วยสิ่งที่หลงเหลือจากมื้ออาหารของเรา

เรื่องนี้จุดประกายความทรงจำถึงพระสัญญาในพระคัมภีร์ที่ฉันไม่ค่อยได้คิดถึง ในชีวิตหลังความตายผู้เชื่อทุกคนจะได้ครอบครองร่วมกับพระเยซู เปาโลพูดถึงเรื่องนี้ใน 1 โครินธ์บทที่ 6 ท่านถามว่า “ท่านไม่รู้หรือว่าธรรมิกชนจะพิพากษาโลก” (ข้อ 2) เปาโลอ้างถึงสิทธิพิเศษในอนาคตนี้เพราะท่านต้องการหนุนใจผู้เชื่อให้ยุติข้อพิพาทอย่างสันติในโลกนี้ พวกเขาฟ้องร้องกันและกัน ซึ่งพลอยทำลายความน่าเชื่อถือของผู้เชื่อคนอื่นในชุมชนไปด้วย

เราจะแก้ไขความขัดแย้งได้ดีขึ้นเมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์ประทานการควบคุมตนเอง ความสุภาพอ่อนโยน และความอดทนแก่เรา เมื่อถึงเวลาที่พระเยซูเสด็จกลับมาและทรงทำงานของพระวิญญาณให้สมบูรณ์ในชีวิตของเรา (1 ยน.3:2-3) เราจะพร้อมสำหรับบทบาทสุดท้ายของเราในฐานะ “ราชอาณาจักรและเป็นปุโรหิตของพระเจ้าของเราและ...ครอบครองแผ่นดินโลก” (วว.5:10) ให้เรายึดมั่นในพระสัญญานี้ที่เปล่งประกายอยู่ในพระวจนะเหมือนเพชรที่ประดับบนมงกุฎทองคำ

ขุดมันออกไป

เมื่อพี่ชายและพี่สะใภ้ของรีเบคก้าเริ่มมีปัญหาในชีวิตแต่งงาน รีเบคก้าอธิษฐานอย่างจริงจังให้พวกเขาคืนดีกัน แต่พวกเขาก็หย่าร้างกัน พี่สะใภ้พาลูกๆย้ายไปอยู่รัฐอื่นโดยผู้เป็นพ่อไม่คัดค้าน รีเบคก้าไม่ได้พบหลานสาวที่รักอีกเลยหลายปีต่อมาเธอบอกว่า “เพราะว่าฉันพยายามจัดการกับความเศร้าด้วยตัวเอง ฉันจึงปล่อยให้เกิดรากขมขื่นในใจ และมันเริ่มแพร่ไปสู่ครอบครัวและเพื่อนๆของฉัน”

ในพระธรรมนางรูธบอกเราถึงเรื่องราวของหญิงชื่อนาโอมี ผู้ดิ้นรนต่อสู้ด้วยหัวใจเศร้าหมองจนกลายเป็นความขมขื่น สามีของเธอตายในดินแดนต่างชาติและสิบปีต่อมาลูกชายทั้งสองคนก็เสียชีวิต เธอถูกทิ้งให้สิ้นไร้ไม้ตอกอยู่กับลูกสะใภ้สองคน รูธกับโอรปาห์ (1:3-5) เมื่อนาโอมีกับรูธกลับมายังบ้านเกิดของนาโอมี ทุกคนในเมืองตื่นเต้นที่ได้พบพวกเธอ แต่นาโอมีบอกกับเพื่อนๆของเธอว่า “องค์ผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ได้ทรงกระทำกับฉันอย่างขมขื่น...พระเจ้าทรงให้ฉันทุกข์ใจ” (ข้อ 20-21) เธอบอกให้พวกเขาเรียกเธอว่า “มารา” ซึ่งแปลว่าขมขื่น

ใครบ้างไม่เคยพบกับความผิดหวังและถูกล่อลวงให้ขมขื่น บางคนอาจพูดสิ่งที่ทำร้ายจิตใจ ไม่ได้ในสิ่งที่คาดหวัง หรือการเรียกร้องของคนอื่นทำให้เราขุ่นเคืิองใจ เมื่อเรายอมรับกับตัวเองและกับพระเจ้าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นลึกๆในใจเรา พระเจ้าเป็นเจ้าของสวนผู้อ่อนโยนจะทรงช่วยขุดเอารากขมขื่นของเราออกไป ไม่ว่ามันจะยังเล็กอยู่หรือฝังรากมาหลายปี และทรงสามารถทดแทนด้วยวิญญาณที่หวานชื่นและเบิกบาน

พระเจ้าผู้ไม่มีตัวตน

“บางครั้งฉันรู้สึกเหมือนไร้ตัวตน แต่ฉันก็อยากให้พระเจ้าใช้ฉันเหมือนกัน” ผมได้คุยกับแอนขณะที่เธอเก็บกวาดห้องออกกำลังกายในโรงแรมที่ผมไปใช้บริการ จากการสนทนาผมค้นพบเรื่องราวอันน่าอัศจรรย์ของเธอ

“ฉันเคยติดยาและขายตัวอยู่ข้างถนน” เธอเล่า “แต่ฉันรู้ว่าพระเจ้าต้องการให้ฉันเลิกยาและเดินไปกับพระองค์ วันหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน ฉันคุกเข่าลงที่พระบาทของพระเยซู และพระองค์ทรงปลดปล่อยฉันให้เป็นอิสระ”

ผมขอบคุณแอนที่แบ่งปันเรื่องราวที่พระเจ้าได้ทรงกระทำเพื่อเธอและยืนยันว่าเธอไม่ได้ไร้ตัวตน พระเจ้าทรงใช้เธอในการสนทนานี้ด้วยวิธีที่งดงาม เพื่อเตือนผมถึงฤทธานุภาพในการเปลี่ยนแปลงชีวิตของพระองค์

พระเจ้าทรงรักที่จะใช้บุคคลที่มักถูกมองข้าม อัครทูตอันดรูว์ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักดีเท่ากับเปโตรพี่ชายของเขา แต่พระคัมภีร์บันทึกว่า “แล้วอันดรูว์ก็ไปหาซีโมน[เปโตร]พี่ชายของตนก่อน และบอกเขาว่า ‘เราได้พบพระเมสสิยาห์แล้ว’...อันดรูว์จึงพาซีโมนไปเฝ้าพระเยซู” (ยน.1:41-42)

เปโตรได้พบพระเยซูผ่านอันดรูว์ เมื่ออันดรูว์ซึ่งเป็นศิษย์คนหนึ่งของยอห์นผู้ให้บัพติศมาได้รู้จักพระเยซูผ่านยอห์น เขาติดตามและเชื่อในพระองค์ และเขาบอกกับพี่ชายของเขาทันที ความสัตย์ซื่ออย่างเงียบๆของอันดรูว์ได้สร้างผลกระทบที่เขย่าโลกนี้

พระเจ้าทรงให้คุณค่าการรับใช้ที่สัตย์ซื่อมากกว่าชื่อเสียง พระองค์ทรงใช้เราได้อย่างทรงพลานุภาพในทุกที่ที่เราอยู่ แม้กระทั่งในยามที่ไม่มีใครเห็น

เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไป นั่นเป็นการแสดงว่าท่านยอมรับ นโยบายการใช้คุกกี้ของเรา