ในปี 2014 นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียใช้ตุ๊กตาสุนัขแสดงให้เห็นว่าสัตว์ก็มีความหึงหวง ศาสตราจารย์คริสทีน แฮร์ริสบอกให้เจ้าของสุนัขแสดงความรักกับตุ๊กตาต่อหน้าสัตว์เลี้ยงของตน ผลคือสุนัขสามในสี่ตอบสนองด้วยความอิจฉาอย่างชัดเจน บางตัวพยายามเรียกร้องความสนใจด้วยการแตะหรือดุนเบาๆ บางตัวพยายามเข้าไปแทรกระหว่างเจ้าของกับตุ๊กตา บางตัวถึงขั้นเข้าไปงับตุ๊กตาคู่แข่ง

การหึงหวงของสุนัขอาจเป็นเรื่องน่าเอ็นดู แต่ถ้าเป็นมนุษย์อาจส่งผลไม่น่าชื่นชมนัก เช่นที่โมเสสกับเปาโลบอกเราว่า ยังมีความหวงแหนอีกประเภทหนึ่งคือ ความหวงแหนที่สะท้อนพระทัยของพระเจ้าอย่างงดงาม

เปาโลเขียนถึงคริสตจักรในเมืองโครินธ์ว่า “ข้าพเจ้าหวงแหนท่านอย่างที่พระเจ้าทรงหวงแหน” (2 โครินธ์ 11:2) ท่านไม่ต้องการให้พวกเขา “ถูกล่อลวงให้หลงไปจากความสัตย์ซื่อ และความบริสุทธิ์ต่อพระคริสต์” (2 โครินธ์ 11:3) ความหวงแหนเช่นนี้สะท้อนพระทัยพระเจ้า ผู้ตรัสกับโมเสสในบัญญัติสิบประการว่า “เราคือพระเจ้าของเจ้า เป็นพระเจ้าที่หวงแหน” (อพยพ 20:5)

ความหวงแหนของพระเจ้าไม่เหมือนความรักที่เห็นแก่ตัวของเรา ทรงมีพระทัยกระตือรือร้นที่จะปกป้องผู้ที่พระองค์ทรงสร้างและไถ่ไว้ ทรงสร้างและไถ่เราเพื่อให้เราได้รู้จักและมีความสุขกับพระองค์ตลอดไป ไม่มีอะไรดีไปกว่าพระเจ้าผู้ทรงสนพระทัยและหวงแหนความสุขของเราอย่างมาก