ผมไม่ทราบว่าความสิ้นหวังในเรื่องใด ที่เกาะกุมจิตใจอาสาฟ ผู้เขียนสดุดี 77 แต่ผมเคยได้ยิน และเคยคร่ำครวญแบบเดียวกันตลอด 12 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ผมสูญเสียลูกสาว ผู้ที่เคยสูญเสียบุคคลที่รักเช่นเดียวกับผม ได้แบ่งปันความรู้สึกเสียใจดังนี้
ร้องทูลพระเจ้า (สดุดี 77:1) ชูมือวิงวอนไม่อ่อนล้า (สดุดี 77: 2) สถานการณ์เลวร้ายทำให้จิตใจที่คิดถึงพระเจ้าอ่อนระอา (สดุดี 77:3) ทุกข์มากจนพูดไม่ออก (สดุดี 77:4) กลัวถูกทอดทิ้ง (สดุดี 77:7) กลัวพระสัญญาไม่เป็นจริงกลัวพระเจ้าไม่เมตตา (สดุดี 77:8)
แต่อาสาฟเปลี่ยนความคิด ในสดุดี 77:10 เมื่อเขาระลึกถึงพระราชกิจอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า คิดถึงความรักของพระเจ้า ระลึกถึงสิ่งที่พระองค์ได้ทรงกระทำ การอัศจรรย์ในกาลก่อน ความรักมั่นคงและกรุณาที่ปลอบโยน สิ่งที่เตือนให้ระลึกถึงความอัศจรรย์และยิ่งใหญ่ของพระเจ้า อีกทั้งพระกำลังและการไถ่ของพระองค์
ความสิ้นหวังเกิดขึ้นจริงในชีวิต และไม่ได้หาทางออกได้ง่ายๆ แต่หากเราระลึกถึงพระสิริ ฤทธิ์เดช ราชอำนาจ และความรักของพระเจ้า ความสิ้นหวังจะค่อยๆหายไป เราสามารถทบทวนพระราชกิจของพระเจ้าได้อย่างอาสาฟ โดยเฉพาะความรอดที่พระเจ้าประทานให้เราทางพระเยซู เราจะสามารถหวนกลับไปยังจุดที่เราเคยพักพิงในความรักยิ่งใหญ่ของพระเจ้าได้
Admin เมื่อ 28/01/2015 ที่ 8:07 am
เพลงประกอบมานาฯ เสียงวันนี้ “We Thank – เพียว เอกพันธ์”
sarika wongkunalai เมื่อ 13/01/2015 ที่ 7:48 am
ดีมากเลยค่ะ ขอพระเจ้าอวยพรพี่น้องที่มีส่วนในพันธกิจนี้นะค่ะ มานาประจำวันนี้เหมาะกับพี่น้องทีไม่มีเวลา เร่งรีบ เนื่องจากสังคมได้เปลี่ยนไป ยุคนี้เป็นยุคแห่งการเร่งรีบ พันธกิจมานาประจำวันจึงเหมาะสมและเป็นกำลังให้กับพี่น้องอย่างมากมาย
narada phochai เมื่อ 13/01/2015 ที่ 1:25 am
ต้องการที่จะแบ่งป้นพระคำของพระเจ้าคะ
Admin เมื่อ 14/01/2015 ที่ 7:44 am
comment ได้ที่ใต้บทความมานาฯ เลยนะคะ เพื่อผู้อื่นจะได้ร่วมรับพระพรค่ะ