เมื่อหลายปีก่อน ผมเคยให้นักเรียนชั้นประถมปีที่ 5 เขียนคำถามที่จะถามพระเยซูหากพระองค์มาปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขา และได้ให้ผู้ใหญ่เขียนด้วย ผลลัพธ์แตกต่างกันอย่างน่าตกใจ คำถามของเด็กมีตั้งแต่น่าเอ็นดูไปจนถึงน่าตี เช่น “พวกเราจะต้องสวมเสื้อคลุม นั่งล้อมวงร้องเพลงในสวรรค์ทั้งวันหรือ? ลูกหมาของผมจะได้ไปสวรรค์ไหม? ปลาวาฬได้เข้าไปในเรือของโนอาห์หรือเปล่า? คุณตาของผมที่อยู่บนสวรรค์กับพระองค์สบายดีไหม?” แต่คำถามเกือบทั้งหมดนั้น ผู้ถามมั่นใจว่าสวรรค์มีอยู่จริงและพระเจ้าทรงกระทำสิ่งอัศจรรย์ได้

ในทางตรงกันข้าม คำถามของผู้ใหญ่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง เช่น “ทำไมเรื่องแย่ๆ จึงเกิดกับคนดี? จะรู้ได้อย่างไรว่าพระองค์ฟังคำอธิษฐานของผม? ทำไมทางไปสวรรค์จึงมีทางเดียว? พระเจ้าแห่งความรักปล่อยให้เรื่องเลวร้ายนี้เกิดขึ้นกับฉันได้อย่างไร?”

ส่วนใหญ่เด็กๆ ใช้ชีวิตโดยไม่กังวลใจหรือทุกข์อย่างที่ผู้ใหญ่เป็น ความเชื่อของพวกเขาทำให้พวกเขาวางใจในพระเจ้าอย่างไร้ข้อสงสัย ในขณะที่พวกผู้ใหญ่อย่างเรามักจะหลงวนเวียนอยู่ในการทดลองและความเศร้าโศกเด็กๆ กลับได้ใช้ชีวิตตามมุมมองการดำเนินชีวิตของผู้เขียนพระธรรมสดุดีคือมุมมองนิรันดร์ที่เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า (สดุดี 8:1-2)

พระเจ้าเป็นผู้ที่เราไว้วางใจได้ และพระองค์ปรารถนาให้เราเชื่อวางใจในพระองค์แบบเดียวกับเด็กๆ (มัทธิว 18:3) – RK