ผลิบานถูกที่
"วัชพืชคือต้นอะไรก็ตามที่ขึ้นในที่ที่เราไม่ต้องการให้ขึ้น” พ่อผมพูดพลางส่งจอบให้ ผมอยากปล่อยต้นข้าวโพดที่ “ขึ้นโดยสมัครใจ” ท่ามกลางต้นถั่วไว้ แต่พ่อซึ่งเติบโตมาในฟาร์มแนะให้ผมถอนออก ข้าวโพดต้นนั้นไม่ช่วยอะไร มีแต่จะเบียดและแย่งอาหารต้นถั่ว
เส้นรอยแยก
ผู้อพยพที่ทะลักเข้ามาในชุมชนของเรา ทำให้คริสตจักรในพื้นที่เติบโตขึ้น การเติบโตนั้นนำมาซึ่งความท้าทาย สมาชิกคริสตจักรต้องเรียนรู้การต้อนรับคนใหม่ที่ปรับตัวกับวัฒนธรรมที่ไม่คุ้น ภาษาใหม่ และรูปแบบการนมัสการที่แตกต่าง การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ อาจก่อให้เกิดสถานการณ์ที่น่าอึดอัด
การเข้าใจผิดและความไม่ลงรอยกันเกิดขึ้นทุกที่ที่มีคน คริสตจักรก็ไม่เว้น หากเราไม่จัดการกับความแตกต่างอย่างเหมาะสม ก็อาจนำไปสู่ความแตกแยก
คริสตจักรในยุคแรกในเยรูซาเล็มกำลังเติบโต จนกระทั่งเมื่อเกิดการโต้เถียงเพราะการแบ่งแยกทางวัฒนธรรม ชาวยิวพูดกรีก (พวกนิยมกรีก) ตำหนิชาวยิวที่พูดอารเมค “ในการแจกทานทุกๆ วันนั้น เขาเว้นไม่ได้แจกให้พวกแม่ม่ายชาวกรีก” (กจ.6:1) พวกอัครทูตจึงกล่าวว่า “จงเลือกเจ็ดคนในพวกท่านทีมีชื่อเสียงดีประกอบด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และสติปัญญา” (ข้อ 3) ทั้งเจ็ดคนที่ได้รับเลือกมีชื่อภาษากรีก (ข้อ 5) เขาเป็นพวกนิยมกรีก เป็นสมาชิกกลุ่มที่ถูกละเลย พวกเขาเข้าใจปัญหาดีที่สุด พวกอัครทูตจึงอธิษฐานและวางมือบนเขาและคริสตจักรได้เจริญขึ้น (ข้อ 6-7)
การเติบโตนำความท้าทายมา ส่วนหนึ่งเป็นเพราะต้องมีการปฏิสัมพันธ์ข้ามธรรมเนียมประเพณีมากขึ้น แต่เมื่อเราแสวงหาการทรงนำของพระวิญญาณบริสุทธิ์ เราจะพบทางออกที่สร้างสรรค์ คือสิ่งที่น่าจะเป็นปัญหากลับกลายเป็นโอกาสเพื่อให้เติบโตมากขึ้น
ผู้เชี่ยวชาญพูดอะไร
เจฟ จาโคบี้ นักเขียนคอลัมน์ของนิตยสารบอสตั้นโกลบ เขียนถึง “ความสามารถเกินคาดของผู้เชี่ยวชาญที่เข้าใจบางเรื่องผิดอย่างร้ายแรง” เมื่อย้อนดูประวัติศาสตร์ก็รู้ว่าเจฟพูดถูก เช่น โธมัส เอดิสันนักประดิษฐ์ผู้ยิ่งใหญ่เคยบอกว่า ภาพยนตร์ที่มีเสียงพูดจะไม่มีวันมาแทนที่ภาพยนตร์เงียบ และเฮนรี่ ฟอร์ดพูดไว้ว่า “มนุษย์เราฉลาดขึ้นมากจนไม่น่าจะเกิดสงครามได้อีก” ยังมี “ผู้เชี่ยวชาญ” อีกมากมายที่ทายอนาคตผิด แม้แต่อัจฉริยะก็ยังมีข้อจำกัด
นี่มันอะไรกัน?
แอนดรูว์ ชีทเทิลทำโทรศัพท์หายที่ชายหาด เขาคิดว่าคงไม่ได้คืนแน่ แต่หนึ่งสัปดาห์ให้หลัง เขาได้รับโทรศัพท์จากชาวประมงแจ้งว่า พบโทรศัพท์ของเขาอยู่ในท้องปลาค็อด ซึ่งเมื่อโทรศัพท์แห้งแล้วยังใช้งานได้
บ้านในวันคริสต์มาส
ในวันคริสต์มาสปีหนึ่ง ผมต้องไปทำงานในที่ซึ่งไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก ขณะออกจากที่ทำงานอย่างเหนื่อยล้าเพื่อกลับห้องพัก ผมเดินต้านกระแสลมเย็นที่พัดมาจากทะเลดำอันอ้างว้าง ผมคิดถึงบ้าน
เด็กที่ทรงพลัง
ครั้งแรกที่เห็นเขา ฉันก็ร้องไห้ เขาดูเป็นเด็กทารกสมบูรณ์ที่หลับสนิท แต่เรารู้ว่าเขาจะไม่ตื่นแล้ว จนกว่าจะได้อยู่ในอ้อมกอดของพระเยซู เขาดิ้นรนอยู่นานหลายเดือนที่จะมีชีวิตอยู่ แต่แล้วผู้เป็นแม่ก็อีเมล์มาบอกข่าวสะเทือนใจนี้แก่เราว่า “ท่ามกลางความเจ็บปวดที่คร่ำครวญอยู่ภายใน พระเจ้าได้บรรจงสร้างผลงานความรักของพระองค์ไว้ในใจเราผ่านชีวิตน้อยๆ ชีวิตของเขามีพลังจริงๆ!”
พี่ชายถึงน้องชาย
ตอนเป็นเด็กผมกับน้องชายที่อายุห่างกันไม่ถึงปีมักจะ “แข่งกัน” (เราต่อสู้กัน!) พ่อมีพี่น้องผู้ชายจึงเข้าใจ แต่แม่ไม่ค่อยเข้าใจนัก
หล่อหลอมจากวิกฤติ
มาร์ครำลึกถึงเหตุการณ์หนึ่งในวัยเด็ก ที่พ่อเรียกทุกคนในบ้านมาพร้อมกัน รถของพวกเขาเสียและเงินของครอบครัวกำลังจะหมดลงในตอนสิ้นเดือน พ่อจึงอธิษฐานและบอกให้ทุกคนรอคอยคำตอบจากพระเจ้า
งูกับสามล้อ
เป็นเวลาหลายปีที่ผมเล่าเรื่องซ้ำๆ เกี่ยวกับสมัยที่ผมและน้องชายยังอยู่ที่กานาและเพิ่งหัดเดิน เท่าที่จำได้ น้องของผมจอดรถสามล้อทับงูเห่าตัวเล็ก เนื่องจากสามล้อมีน้ำหนักมาก มันจึงติดอยู่ใต้ล้อหน้า