ตอนที่ฮาเวียร์ลูกชายของฉันซึ่งตอนนี้โตเป็นผู้ใหญ่แล้วยังอยู่อนุบาล เขากางแขนออกกว้างและพูดว่า “ผมรักแม่มากขนาดนี้” ฉันยืดแขนที่ยาวกว่าออกและพูดว่า “แม่รักลูกมากขนาดนี้” เขายืนกำหมัดเท้าเอวและพูดว่า “ผมรักแม่ก่อน” ฉันส่ายหน้า “แม่รักลูกก่อนตั้งแต่พระเจ้าส่งลูกมาอยู่ในท้องของแม่” ดวงตาของฮาเวียร์เบิกกว้าง “แม่ชนะ” ฉันตอบว่า “เราชนะทั้งคู่ เพราะพระเยซูทรงรักเราทั้งคู่ก่อน”

ขณะที่ฮาเวียร์เตรียมพร้อมสำหรับลูกคนแรกของเขาที่กำลังจะถือกำเนิดนั้น ฉันอธิษฐานที่เขาจะมีความสุขกับการแข่งกันแสดงความรักกับลูกชายของเขาขณะที่พวกเขาสร้างความทรงจำที่ดี แต่ในระหว่างที่เตรียมตัวเป็นคุณย่า ฉันรู้สึกอัศจรรย์ใจที่ฉันรักหลานชายมากตั้งแต่วินาทีที่ฮาเวียร์และภรรยาของเขาบอกว่ากำลังจะมีลูก

อัครสาวกยอห์นยืนยันว่า ความรักที่พระเยซูทรงมีต่อเราทำให้เราสามารถรักตอบพระองค์และรักผู้อื่นได้ (1ยน.4:19) การรู้ว่าพระองค์ทรงรักเราทำให้เรารู้สึกมั่นคงปลอดภัย และทำให้ความสัมพันธ์ส่วนตัวของเรากับพระองค์ลึกซึ้งยิ่งขึ้น (ข้อ 15-17) เมื่อเราตระหนักถึงความรักอันลึกซึ้งที่พระองค์ทรงมีต่อเรา (ข้อ 19) เราก็จะสามารถเติบโตขึ้นในการรักพระองค์และแสดงความรักออกมาในความสัมพันธ์อื่นๆ (ข้อ 20) พระเยซูไม่เพียงทรงให้กำลังเราที่จะรักผู้อื่น แต่พระองค์ยังทรงสั่งให้เรารักด้วย “พระบัญญัตินี้เราทั้งหลายก็ได้มาจากพระองค์ คือว่าให้คนที่รักพระเจ้านั้นรักพี่น้องของตนด้วย” (ข้อ 21) เมื่อใดที่มีการพูดถึงเรื่องความรัก พระเจ้าจะทรงชนะเสมอ ไม่ว่าเราจะพยายามมากแค่ไหน เราก็ไม่สามารถชนะพระเจ้าได้ในเรื่องความรัก