Month: มิถุนายน 2021

ความห่วงใยของพระบิดา

โป๊ก! ฉันเงยหน้าขึ้นและเอียงหูไปตามเสียง เมื่อมองเห็นรอยเปื้อนตรงหน้าต่าง ฉันชะโงกออกไปมองที่ระเบียงและเห็นร่างของนกที่ยังคงหายใจอยู่ ฉันสงสารมันมากและอยากช่วยเจ้านกน้อยที่บอบบาง

ในมัทธิว 10 พระเยซูทรงอธิบายถึงความห่วงใยของพระบิดาที่มีต่อนกกระจาบ เพื่อหนุนใจบรรดาสาวกขณะที่พระองค์เตือนพวกเขาถึงเหตุร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้น พระองค์ทรงสอนทั้งสิบสองคนในขณะที่ “ประทานอำนาจให้เขาขับผีร้ายออกได้ และให้รักษาโรคและความเจ็บไข้ทุกอย่างให้หายได้” (ข้อ 1) สำหรับสาวกการมีอำนาจเช่นนี้อาจดูยิ่งใหญ่ แต่หลายคนจะต่อต้านพวกเขา ทั้งพวกผู้ปกครอง ครอบครัวของพวกเขา และคนชั่วที่จ้องจะทำร้าย (ข้อ 16-28)

จากนั้นในข้อ 29-31 พระเยซูทรงบอกพวกเขาว่าอย่ากลัวในสิ่งที่พวกเขาเผชิญเพราะพวกเขาจะอยู่ในการดูแลของพระเจ้าเสมอ พระองค์ตรัสว่า “นกกระจาบสองตัวเขาขายบาทหนึ่งมิใช่หรือ แต่ถ้าพระบิดาของท่านไม่ทรงเห็นชอบ นกนั้นแม้สักตัวเดียวจะตกลงถึงดินก็ไม่ได้...เหตุฉะนั้นอย่ากลัวเลยท่านทั้งหลายก็ประเสริฐกว่านกกระจาบหลายตัว​”

ฉันคอยดูนกตัวนั้นตลอดทั้งวัน ทุกครั้งที่ดูก็เห็นว่ามันยังไม่ตายแต่ไม่ขยับเขยื้อน พอตกเย็นมันก็หายไป ฉันอธิษฐานขอให้มันรอด แน่นอนว่าถ้าขนาดฉันยังห่วงใยนกตัวนั้นมากถึงเพียงนี้ พระเจ้าก็ทรงห่วงใยมากยิ่งกว่าลองนึกดูสิว่าพระองค์ทรงห่วงใยคุณและฉันมากแค่ไหน!

ฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า

หมอหลายคนบอกรีเบคก้าและรัสเซลว่าพวกเขาจะไม่สามารถมีลูกได้ แต่พระเจ้าไม่ทรงคิดเช่นนั้น สิบปีต่อมารีเบคก้าตั้งครรภ์ การตั้งครรภ์เป็นได้ด้วยดี และเมื่อรีเบคก้าเริ่มเจ็บท้องทั้งคู่รีบไปโรงพยาบาลด้วยความตื่นเต้นรีเบคก้าเจ็บท้องอยู่หลายชั่วโมงและเจ็บมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ร่างกายของเธอก็ยังไม่พร้อมสำหรับการคลอด ในที่สุดหมอตัดสินใจจะทำการผ่าคลอด รีเบคก้าร้องไห้ด้วยความกลัว หมอปลอบเธออย่างใจเย็นบอกว่า “หมอจะทำให้ดีที่สุด แต่เราจะอธิษฐานกับพระเจ้า เพราะพระองค์ทรงทำได้มากกว่าเรา” หมออธิษฐานกับรีเบคก้าและสิบห้านาทีต่อมา บรูซทารกเพศชายร่างกายแข็งแรงก็ได้ลืมตามาดูโลก

หมอคนนั้นเข้าใจเรื่องการพึ่งพาในพระเจ้าและฤทธิ์อำนาจของพระองค์ เธอตระหนักว่าแม้ตนเองจะผ่านการฝึกและมีทักษะที่จะทำการผ่าตัดได้ แต่เธอก็ยังต้องการสติปัญญา กำลัง และความช่วยเหลือจากพระเจ้า (สดด.121:1-2)

เป็นเรื่องน่ายินดีที่ได้ยินว่าคนที่มีความเชี่ยวชาญอย่างมาก หรือใครก็ตามได้ตระหนักว่าพวกเขาต้องการพระเจ้า เพราะจริงๆแล้วเราทุกคนต้องการพระองค์ พระองค์คือพระเจ้าและเราไม่ใช่ พระองค์ผู้เดียวสามารถ “กระทำสารพัดมากยิ่งกว่าที่เราจะทูลขอหรือคิดได้” (อฟ.3:20) ให้เราถ่อมใจลงเพื่อเรียนรู้จากพระองค์และเชื่อวางใจโดยการอธิษฐาน “เพราะพระองค์ทรงทำได้มากกว่า” ที่เราจะสามารถทำได้

แผ่นดินของพระเจ้า

แม่ของผมอุทิศทุ่มเทให้กับหลายสิ่งหลายอย่างในตลอดชีวิตของท่าน แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงอยู่ตลอดมาคือความปรารถนาที่จะเห็นเด็กเล็กๆได้รู้จักพระเยซู ผมเคยเห็นแม่แสดงความไม่เห็นด้วยต่อหน้าคนอื่นสองหรือสามครั้ง เวลาที่มีคนพยายามลดงบประมาณพันธกิจของเด็กเพื่อจะเอาไปใช้จ่ายในสิ่งที่พวกเขารู้สึกว่า “จำเป็น” มากกว่า “แม่ถอยออกมาแค่ช่วงฤดูร้อนตอนท้องพี่ชายของลูก ครั้งนั้นแค่ครั้งเดียว” แม่เล่า ผมคำนวณดูจึงได้รู้ว่าแม่ทำงานกับเด็กๆในคริสตจักรมาห้าสิบห้าปีแล้ว

พระธรรมมาระโก 10 ได้บันทึกหนึ่งในเรื่องราวที่น่าประทับใจไว้ในพระกิตติคุณที่คนมักเรียกว่าเรื่อง “พระเยซูกับเด็กเล็กๆ” ประชาชนกำลังพาเด็กเล็กๆมาหาพระเยซูเพื่อให้พระองค์ทรงถูกต้องตัวและอวยพรพวกเขา แต่พวกสาวกพยายามห้ามไว้ มาระโกบันทึกว่าพระเยซู “ไม่พอพระทัย” และตำหนิสาวกของพระองค์ว่า “จงยอมให้เด็กเล็กๆเข้ามาหาเรา อย่าห้ามเขาเลย เพราะว่าแผ่นดินของพระเจ้าเป็นของคนเช่นเด็กอย่างนั้น​” (ข้อ 14)

ชาร์ลส์ ดิกเค่น เขียนไว้ว่า “ผมรักเด็กเล็กๆเหล่านี้ และมันไม่ใช่เรื่องธรรมดาเลยที่เด็กไร้เดียงสาเหล่านี้รักเรา” และไม่ใช่เรื่องธรรมดาเลยที่เราซึ่งเป็นผู้ใหญ่จะต้องทำทุกทางเพื่อให้เด็กเล็กๆเหล่านี้ไม่ถูกขัดขวางจากความรักบริสุทธิ์ของพระเยซู

ทรงรู้จักชื่อของคุณ

สามปีหลังจากที่ไม่ได้ไปคริสตจักรที่เราเคยไปเป็นประจำ ฉันและสามีกลับมาร่วมสามัคคีธรรมกับพวกเขาอีกครั้ง แต่พวกเขาจะปฏิบัติต่อเราอย่างไร พวกเขาจะยินดีต้อนรับเราไหม จะรักเราไหม จะยกโทษที่เราจากไปไหม เราได้คำตอบในเช้าวันอาทิตย์ที่สดใส ขณะเดินเข้าทางประตูบานใหญ่ของคริสตจักร เราได้ยินชื่อของเราซ้ำๆ “แพท! แดน! ดีใจเหลือเกินที่ได้เจอคุณ!” เป็นจริงตามที่นักเขียนหนังสือสำหรับเด็ก เคท ดิคามิลโล เขียนไว้ในหนังสือที่โด่งดังเล่มหนึ่งว่า “ท่านผู้อ่าน ในโลกอันน่าเศร้านี้ ไม่มีสิ่งใดหวานหูไปกว่าเสียงของคนที่คุณรักเรียกชื่อคุณ”

คำยืนยันนี้เป็นจริงสำหรับชนชาติอิสราเอล เราเลือกเปลี่ยนไปคริสตจักรอื่นแต่ชนอิสราเอลหันหลังให้พระเจ้า กระนั้นพระเจ้าก็ยังทรงต้อนรับพวกเขากลับมา พระองค์ส่งผู้เผยพระวจนะอิสยาห์มายืนยันกับพวกเขาว่า “อย่ากลัวเลยเพราะเราได้ไถ่เจ้าแล้ว เราได้เรียกเจ้าตามชื่อ เจ้าเป็นของเรา” (อสย.43:1)

ในโลกนี้ เราอาจรู้สึกว่าไม่มีใครมองเห็น ชื่นชม หรือรู้จักเรา แต่จงมั่นใจว่าพระเจ้าทรงรู้จักชื่อของเราทุกคน ทรงสัญญาว่า “​เจ้าประเสริฐในสายตาของเรา และได้รับเกียรติ” (ข้อ 4) “เมื่อเจ้าลุยข้ามน้ำเราจะอยู่กับเจ้า เมื่อข้ามแม่น้ำน้ำจะไม่ท่วมเจ้า” (ข้อ 2) คำสัญญานี้ไม่ใช่เพื่อชาวอิสราเอลเท่านั้น พระเยซูทรงมอบชีวิตของพระองค์เป็นค่าไถ่เรา พระองค์ทรงรู้จักชื่อของเรา เพราะอะไรน่ะหรือ ก็เพราะเราเป็นของพระองค์โดยความรัก

สิ่งมหัศจรรย์ที่มองไม่เห็น

ในช่วงบั้นปลายชีวิต ความคิดอ่านของคุณนายกู๊ดริชเริ่มไม่ค่อยแม่นยำรวมถึงความทรงจำเรื่องชีวิตที่ท้าทายและเปี่ยมไปด้วยพระคุณ ขณะนั่งอยู่ข้างหน้าต่างมองออกไปยังผืนน้ำของอ่าวแกรนด์ทราเวอร์ในมิชิแกน เธอเอื้อมมือไปหยิบกระดาษมาเขียนข้อความที่ภายหลังไม่นานเธอก็จำไม่ได้ว่าเป็นคนเขียน “ฉันนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวโปรด และหัวใจล่องลอยอยู่ในอากาศ คลื่นสะท้อนแสงอาทิตย์บนผืนน้ำเบื้องล่างซัดสาดไปยังที่ที่ฉันไม่อาจรู้ แต่ขอบพระคุณพระบิดาที่รักผู้สถิตอยู่เบื้องบน สำหรับของขวัญอันเหลือคณานับและความรักที่ไม่มีวันตายของพระองค์! น่าอัศจรรย์ใจเหลือเกินที่ฉันรักพระองค์ผู้ที่ฉันมองไม่เห็นมากขนาดนี้”

เปโตรรู้จักความอัศจรรย์ใจนั้น ท่านเคยเห็นพระเยซูด้วยตาตนเอง แต่คนที่อ่านจดหมายของท่านไม่เคยเห็น “พระองค์ผู้ที่ท่านทั้งหลายยังไม่ได้เห็น...ท่านยังเชื่อและชื่นชมด้วยความปีติยินดีเป็นล้นพ้นเหลือที่จะกล่าวได้” (1 ปต.1:8) เรารักพระเยซูไม่ใช่เพราะเราถูกสั่งให้รัก แต่เป็นเพราะพระวิญญาณทรงช่วยเหลือ (ข้อ 11) เราจึงเริ่มมองเห็นว่าพระองค์ทรงรักเรามากแค่ไหน

ไม่ใช่เพียงเพราะเราได้ยินว่าพระองค์ทรงห่วงใยเรา แต่เป็นเพราะเราได้มีประสบการณ์ตามพระสัญญาว่าพระคริสต์จะทรงทำให้ความอัศจรรย์แห่งการสถิตอยู่ด้วยและพระวิญญาณของพระองค์เป็นจริงสำหรับเราในทุกช่วงชีวิต

พระเยซูคือผู้ใด?

พระเยซูคือผู้ใด?

 

 

พระเยซูทรงสิ้นพระชนม์และฟื้นขึ้นจากความตาย และโลกนี้ได้เปลี่ยนไปตลอดกาล

แต่เพราะเหตุใดพระองค์จึงสิ้นพระชนม์ และการเป็นขึ้นของพระองค์หมายถึงอะไร? โลกเปลี่ยนไปแบบไหน? การสิ้นพระชนม์และการเป็นขึ้นจากตายของพระองค์มีผลต่อชีวิตของเราในทุกวันนี้อย่างไร?

เมื่อเราคิดถึงความตายของใครสักคนหนึ่ง เราไม่อาจยกย่องถึงความสำคัญของการจากไปนั้นได้ นอกเสียจากเราจะรู้ว่ากำลังพูดถึงใครอยู่ เราจะสัมผัสได้อย่างแท้จริงถึงความหมายในการจากไปของอับราฮัม ลินคอล์น ก็ต่อเมื่อเรารู้ว่าท่านเป็นใคร เช่นเดียวกับแม่ชีเทเรซ่า และบุคคลสำคัญอื่นๆในประวัติศาสตร์ ชีวิตของพวกเขาเปลี่ยนแปลงโลก และความตายของพวกเขาก็เช่นกัน

จากมุมมองทางประวัติศาสตร์ ไม่มีมนุษย์คนใดที่ชีวิตของเขาเปลี่ยนแปลงโลกได้เหมือนกับพระเยซูอีกแล้ว มีผู้คนเขียนถึงชีวประวัติของพระองค์มากที่สุดในโลก (ลินคอล์นเป็นอันดับสอง) โดยแท้จริงแล้ว หนังสือชีวประวัติฉบับดั้งเดิมสี่เล่มในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ (มัทธิว มาระโก ลูกา และยอห์น) เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้พระคริสตธรรมคัมภีร์เป็นหนังสือที่ขายดีที่สุดในทุกปี

ไม่มีคำสอนของผู้ใดที่มีอิทธิพลต่อวัฒนธรรม การเมือง ศีลธรรม ความยุติธรรม ปรัชญา และลักษณะของมนุษย์ได้ลึกซึ้งเท่ากับคำสอนของพระเยซูคริสต์ คำเทศนาของพระองค์ เช่นเรื่องพระมหาบัญญัติและความสำคัญของความเมตตาและการยกโทษ ได้สร้างรากฐานอันมั่นคงให้กับคนหลายพันล้านทั่วโลก ที่จริง แล้ว พระเยซูยังคงตั้งมาตรฐานที่โลกสมัยใหม่ของเราไม่สามารถประพฤติปฏิบัติได้ เรารักศัตรูของเราแค่ไหน? เราอธิษฐานเผื่อผู้ที่ข่มเหงเราหรือไม่?

และเมื่อเราใคร่ครวญจากคำกล่าวอ้างของพระองค์เองนั้น เราคิดว่าพระองค์ทรงเป็นผู้ใด? พระองค์เสด็จมาเพื่อสำแดงพระเจ้าให้แก่เรา พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าพระบุตรผู้เป็นอยู่นับตั้งแต่ปฐมกาล โดยทางพระองค์ พระบิดาได้ทรงสร้างจักรวาลทั้งสิ้น รวมถึงมนุษย์ผู้ที่พระเยซูทรงเลือกที่จะเข้าส่วนด้วย หากเราเชื่อในคำกล่าวอ้างเหล่านี้ ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพระเยซูทรงเป็นมนุษย์ผู้มีความสำคัญมากที่สุดที่เคยมีชีวิตอยู่ในโลกนี้

เมื่อเราตระหนักว่า พระบุตรผู้ซึ่งโดยทางพระองค์นั้นมนุษย์ได้ถูกสร้างขึ้นได้ทรงมาตายอย่างคนธรรมดาคนหนึ่ง เราจะเริ่มเห็นความหมายที่ลึกซึ้งของเหตุการณ์นี้ ในความเป็นจริง ทันทีที่เราเข้าใจว่าพระเยซูทรงเป็นผู้ใด เราจะไม่ประหลาดใจเลยที่พระองค์ทรงเป็นขึ้นจากความตาย แต่สิ่งที่น่าอัศจรรย์ใจที่สุดคือ พระองค์ทรงยอมตาย! องค์พระผู้สร้างจะถูกคร่าชีวิตโดยสิ่งที่ทรงสร้างได้อย่างไร?…

พระธรรมโยบ

ฟัง Podcast

เรียนรู้การวางใจพระเจ้าท่ามกลางความยากลำบาก และความอยุติธรรมจากพระธรรมโยบ โดย อ.วาระ มีชูธน

พระธรรมปัญญาจารย์

ฟัง Podcast

ใช้ชีวิตให้เป็นและมีความหมายผ่านพระธรรมปัญญาจารย์ โดย อ.วาระ มีชูธน

พระธรรมสุภาษิต

ฟัง Podcast

สร้างชีวิตที่ดีด้วยสติปัญญาของพระเจ้า โดย อ.วาระ มีชูธน

เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไป นั่นเป็นการแสดงว่าท่านยอมรับ นโยบายการใช้คุกกี้ของเรา