คุณพ่อวัยหนุ่มกำลังจนปัญญา ขณะที่ลูกชายวัยเตาะแตะร้องเสียงดังว่า “ไอติม ไอติม” ความงอแงกลางห้างสรรพสินค้าที่คนแน่นเริ่มเป็นที่สนใจของลูกค้าในบริเวณนั้น “ได้ แต่เราต้องทำอะไรให้คุณแม่ก่อน ตกลงไหม” ผู้เป็นพ่อกล่าว “ไม่เอา ไม่เอา ผมจะกินไอติม” แล้วผู้หญิงร่างเล็กแต่งตัวดีสวมรองเท้าเข้ากับกระเป๋าถือก็เดินเข้ามาหาสองพ่อลูก “เขาชอบใช้อารมณ์” ผู้เป็นพ่อกล่าว หญิงคนนั้นยิ้มและตอบว่า “แต่ฉันว่าอารมณ์กำลังใช้เขามากกว่า อย่าลืมนะคะว่าเขายังเล็กมาก คุณต้องอดทนและดูแลเขาใกล้ชิด” สถานการณ์ไม่ได้คลี่คลายอย่างน่าอัศจรรย์ แค่เพียงการหยุดพักสักครู่ที่จำเป็นสำหรับพ่อลูกคู่นี้ในเวลานั้น

คำพูดของสตรีที่มีปัญญาผู้นี้ดังก้องอยู่ในสดุดี 103 ดาวิดกล่าวถึงพระเจ้าผู้ทรง “พระกรุณาและมีพระคุณ ทรงกริ้วช้าและอุดมด้วยความรักมั่นคง” (ข้อ 8) แล้วยกภาพของบิดาในโลกที่ยังรู้จัก “สงสารบุตรของตน” ยิ่งกว่านั้นสักเท่าใด “พระเจ้าทรงสงสารบรรดาคนที่ยำเกรงพระองค์ฉันนั้น” (ข้อ 13) พระเจ้าพระบิดาทรง “ทราบโครงร่างของเรา ทรงระลึกว่าเราเป็นแต่ผงคลี” (ข้อ 14) ทรงทราบว่าเรายังเล็กและบอบบาง

เรามักจะล้มเหลวและถูกโถมทับโดยสิ่งที่โลกกว้างใหญ่ใบนี้หยิบยื่นให้ เป็นความมั่นใจอันน่าอัศจรรย์ที่ได้รู้ว่า พระบิดาของเราทรงอดทน อยู่กับเราเสมอ และอุดมด้วยความรัก – JB