แมรี่ชอบการนัดพบกลุ่มกลางสัปดาห์ ที่เธอและเพื่อนมาร่วมกันอธิษฐาน นมัสการและถกคำถามจากการเทศนาอาทิตย์ที่แล้ว สัปดาห์นี้พวกเขาจะคุยกันเรื่องความแตกต่างระหว่างการ “ไป” คริสตจักรและการ “เป็น” คริสตจักรในโลกที่เจ็บปวด เธอตื่นเต้นที่จะได้พบเพื่อนและถกกันอย่างออกรส
แต่ตอนที่เธอหยิบกุญแจรถ ก็มีคนมากดกริ่งที่ประตูบ้าน ซู เพื่อนบ้านของเธอบอกว่า “ขอโทษที่มารบกวนนะคะ แต่ว่าเช้านี้คุณว่างไหม” แมรี่กำลังจะตอบว่าเธอต้องออกไปข้างนอก แต่ซูพูดต่อว่า “ฉันต้องเอารถไปซ่อม ปกติฉันจะเดินหรือขี่จักรยานกลับบ้าน แต่ตอนนี้ฉันเจ็บหลังอยู่ จะเดินหรือขี่จักรยานก็ไม่ได้” แมรี่ลังเลครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มและตอบว่า “ว่างค่ะ”
แมรี่และเพื่อนบ้านคนนี้เพียงแต่เคยเห็นหน้ากัน แต่ขณะขับรถมาส่งเธอที่บ้าน แมรี่ได้รู้ว่า สามีของซูกำลังต่อสู้กับโรคสมองเสื่อมและการเป็นคนดูแลนั้นหนักหนาสาหัสแค่ไหน เธอรับฟัง เห็นอกเห็นใจและสัญญาว่าจะอธิษฐานเผื่อ เธอเสนอตัวช่วยเหลือในทุกรูปแบบ
เช้าวันนั้นแมรี่ไม่ได้ไปโบสถ์เพื่อพูดคุยเรื่องการประกาศ แต่เธอได้แสดงความรักของพระเยซูแก่เพื่อนบ้านที่กำลังลำบาก
วิภาพร จินานุวัฒนา เมื่อ 20/08/2015 ที่ 9:17 am
ขอบคุณสำหรับพระคำของพระเจ้า
ขอพระเจ้าอวยพรทีมงานมานาทุกท่านได้รับพรครบบริบูรณ์
ปล.มานาเล่มต่อไปดิฉันขอให้ท่านช่วยส่งเป็นเล่มใหญ่ เพราะอายุ60แล้วและการใช้สายตาด้อยลง
นิรนาม เมื่อ 20/08/2015 ที่ 8:25 am
ขอบคุณพระเจ้าช่องทางที่จะพบพระเจ้าครับ
TT เมื่อ 20/08/2015 ที่ 4:45 am
ความเชื่อ ไม่สามารถจับต้องได้ แต่เห็นได้จากการกระทำ
ขอบคุณพระเจ้า ขอใจอย่างพระเยซูเกิดขึ้นในใจ ของเราด้วย
ขอบคุณมานามากค่ะ