ปู่ของผม พ่อของผมและพี่น้องของท่านต่างเป็นผู้ชายเข้มแข็งที่ไม่ชอบให้ใคร “ยัดเยียดความเชื่อ” ให้ เมื่อพ่อของผมได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งขั้นรุนแรงและลุกลามผมเป็นกังวลมาก และฉวยทุกโอกาสที่จะพูดกับพ่อเรื่องความรักของพระเยซู ซึ่งพ่อก็จะจบบทสนทนาอย่างสุภาพแต่หนักแน่นว่า “พ่อรู้มากพอแล้ว”

ผมสัญญากับพ่อว่าจะไม่พูดเรื่องนี้อีก และให้แผ่นพับชุดหนึ่งที่พูดเรื่องการให้อภัยของพระเจ้า ไว้ให้พ่อได้อ่านในเวลาที่อยากอ่าน ผมฝากพ่อไว้กับพระเจ้าและอธิษฐาน เพื่อนคนหนึ่งอธิษฐานทูลขอพระเจ้าให้พ่อผมมีชีวิตอยู่นานพอที่จะรู้จักพระเยซู

บ่ายวันหนึ่งผมได้รับโทรศัพท์แจ้งว่าพ่อจากไปแล้ว ตอนที่พี่ชายมารับผมที่สนามบิน เขาบอกว่า “พ่อฝากมาบอกว่า ท่านขอให้พระเยซูยกโทษบาปให้แล้ว” “เมื่อไร?” มาร์คตอบว่า“เช้าวันที่พ่อเสีย” พระเจ้าทรงโปรดสำแดง “พระเมตตา” ต่อท่านดังเช่นที่ได้ทรงสำแดงต่อเรา (1 ทิโมธี 1:16)

บางครั้งเราพูดเรื่องพระกิตติคุณ บางครั้งก็เล่าคำพยานส่วนตัว บางครั้งเราดำเนินชีวิตที่เป็นแบบอย่างเหมือนพระคริสต์ และอธิษฐานอยู่เสมอเรารู้ว่า ท้ายสุดแล้ว ความรอดเป็นงานของพระเจ้าและไม่ใช่สิ่งที่เราทำแทนคนอื่นได้ พระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าผู้เมตตา และไม่ว่าผลของการอธิษฐานของเราจะเป็นอย่างไร เราวางใจพระองค์ได้เสมอ – RK