แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่คุณจะมองไม่เห็นป้ายโฆษณาขนาดยักษ์ ซึ่งมีพื้นหลังสีแดงและตัวหนังสือสีขาวขนาดใหญ่เขียนชัดเจนว่า “ปีนี้ผู้ชายหลายพันคนจะเสียชีวิตจากความดื้อดึง” ผมมารู้ภายหลังว่า ป้ายโฆษณานั้นมีเป็นร้อยๆ ป้าย มุ่งสื่อสารกับชายวัยกลางคนซึ่งมักหลีกเลี่ยงการตรวจสุขภาพประจำปีและต้องเสียชีวิตด้วยโรคที่สามารถป้องกันได้
สดุดี 32 พูดถึงโรคฝ่ายวิญญาณของความบาป ซึ่งสามารถรักษาได้โดยการยอมรับอย่างตรงไปตรงมาและการกลับใจใหม่ ห้าข้อแรกบรรยายความเจ็บปวดที่ปกปิดความรู้สึกผิดและการเฉลิมฉลองอิสรภาพอันน่าชื่นชมยินดีเมื่อสารภาพความผิดต่อพระเจ้าและรับการอภัย
สดุดีบทนี้ยังกล่าวต่อไปว่าพระเจ้าปรารถนาให้เราขอความช่วยเหลือจากพระองค์ยามทุกข์ยาก (สดุดี 32:6-8) และยอมรับการทรงนำของพระองค์ “เราจะแนะนำและสอนเจ้าถึงทางที่เจ้าควรจะเดินไป เราจะให้คำปรึกษาแก่เจ้า ด้วยจับตาเจ้าอยู่” (สดุดี 32:8) แต่เราไปไม่ถึงแน่หากเราปฏิเสธและดื้อดึงไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของพระองค์และไม่กลับใจจากบาปของเรา
พระวจนะของพระเจ้าบอกกับเราว่า “อย่าเป็นเหมือนม้าหรือล่อ…ซึ่งต้องติดสายผ่าปากและบังเหียน มิฉะนั้นมันก็ไม่ไปกับเจ้า” (สดุดี 32:9) แทนที่จะเก็บความบาปไว้ พระเจ้าทรงเสนอทางเลือกให้กับเรา เมื่อเราสารภาพบาปด้วยความถ่อมใจ ความรักมั่นคงของพระองค์จะล้อมเราไว้ (สดุดี 32:10) – DCM
ศิลา ดีเลิศ เมื่อ 27/08/2013 ที่ 2:00 pm
อ.โทนี่ ได้แสดงภาพพระเยซูโดนตรึงที่กางเขนและเขาบอกว่า ถาพนี่สวยงามที่สุดในโลก เราเห็นก็นึกว่าสวยตรงไหนมีแต่ความทรมานบนกางเขงนั้นไม่สวยเอาซะเลย ตอนนั้นก็อยากรู้มากว่ามันสวยตรงไหนเลยถามพระเจ้า พระองค์ได้สำแดงผ่านการสารภาพบาปของเพื่อนในกลุ่ม ในขณะที่เขากำลังร้องไห สารภาพบาป เรากับยิ้มชื่นชมยินดีมีความสุข สันติสุข ขึ้นมาอย่างมากมายแล้วพระเจ้าก็ได้พูดว่า ในเวลาที่ใครก็ตามที่เข้ามาหาเราในสภาพใดหรือความบาปมากมายแค่ไหน พระองค์บอกว่ามันเป็นภาพที่สวยที่สุดวิเศษที่สุดสำหรับพระองค์ เช่นเดียวกันพระเจ้าได้สำแดงว่า รูปที่กางเขนนั้นสวยมากที่สุดในโลกเพราะภาพนั้น พระเยซูได้แบกความบาปทั้งสิ้นของมนุษย์ทุกๆคน มันเป็นภาพ(เดียวกัน)ที่สวยที่สุด ในขณะที่เราสารภาพเราได้รับความอาย เหมือนพระเยซูได้รับความอายบนกางเขน เท่ากับว่าเรากำลังแบกกางเขนตามพระองค์ ขอพระเจ้าทรงเปิดเผยความจริงของพระองค์ในสิ่งนี้ให้ีพี่น้องได้รู้ด้วยเถิด อาเมน