ผู้เขียน

ดูทั้งหมด

บทความ โดย Randy Kilgore

การเบี่ยงเบนที่แยบยล

ครั้งแรกที่ผมและภรรยาร่วมกันเขียนหนังสือเล่มหนึ่ง เราได้รู้ซึ้งว่าการผัดวันประกันพรุ่งเป็นปัญหาใหญ่ หน้าที่ของภรรยาผมคือการเรียบเรียงงานของผมและคอยจัดการให้ผมทำงานตามแผนที่วางไว้ ดูเหมือนว่าหน้าที่ของผมคือทำให้เธอประสาทเสีย ส่วนมากแล้ว ทักษะการจัดการและความอดทนของเธอจะมีมากกว่าความดึงดันไม่ทำงานตามเวลาที่กำหนดไว้ของผม

รอคอยพระเจ้า

ผมกับผู้โดยสารกลุ่มหนึ่งนั่งรถเวียนในสนามบินเพื่อไปต่อเครื่อง คนขับได้รับคำสั่งให้ “หยุดรถอยู่กับที่” ซึ่งดูเหมือนจะทำให้เราตกเครื่องและผู้โดยสารคนหนึ่งทนไม่ได้ เขาระเบิดอารมณ์ใส่คนขับและบอกว่าไม่ต้องสนใจคำสั่งไม่เช่นนั้นจะ “โดนฟ้องร้อง” ตอนนั้นเองที่เจ้าหน้าที่สายการบินคนหนึ่งวิ่งมาพร้อมกระเป๋าเอกสาร เจ้าหน้าที่มองผู้โดยสารที่โกรธกริ้วพร้อมกับชูกระเป๋าขึ้นอย่างมีชัย เขาหอบและพูดว่า “คุณลืมกระเป๋าไว้ ผมได้ยินคุณพูดว่าการประชุมของคุณสำคัญมาก ผมเลยคิดว่าคุณคงจำเป็นต้องใช้”

ที่ประกอบเอง

ที่บ้านของเรา คำว่า “ต้องประกอบเองบางส่วน” เป็นต้นเหตุแห่งความหงุดหงิด (ของผม) และความขบขัน (ของครอบครัว) ตอนที่เราเพิ่งแต่งงาน ผมพยายามทำงานซ่อมง่ายๆ แต่กลับกลายเป็นหายนะ ผมซ่อมฝักบัวจนใช้งานได้ดี ถ้าไม่นับว่ามีน้ำรั่วระหว่างกำแพง พอมีลูก ผมก็ยังผิดพลาดด้วยการบอกภรรยาว่า "ผมไม่ต้องการคู่มือคำแนะนำ" เวลาประกอบของเล่น "ธรรมดา" พวกนี้ แต่ผมคิดผิด

ทูตแห่งความรัก

ผมเป็นอนุศาสก บางครั้งจะมีคนมาขอให้ช่วยเหลือฝ่ายวิญญาณ ผมยินดีใช้เวลากับทุกคนที่มาขอความช่วยเหลือ แต่ผมมักพบว่าตัวเองได้เรียนรู้มากกว่าที่จะเป็นผู้สอน โดยเฉพาะเมื่อคริสเตียนใหม่ที่ตรงไปตรงมาคนหนึ่งบอกกับผมอย่างท้อใจว่า “ผมคิดว่าผมไม่ควรอ่านพระคัมภีร์ ยิ่งอ่านพบว่าพระเจ้าทรงต้องการอะไรจากผม ผมก็ยิ่งตัดสินคนอื่นที่ไม่ทำตามที่พระคัมภีร์บอก”

ช่างตีเหล็ก กับพระราชา

อเล็กซานเดอร์ แมคเคย์มิชชันนารีชาวสก๊อตเดินทางไปรับใช้ในดินแดนซึ่งปัจจุบันคือประเทศอูกันดา งานแรกที่เขาทำคือก่อตั้งโรงตีเหล็กท่ามกลางชนเผ่าของพระราชามูเทซา คนในหมู่บ้านมามุงดูชายแปลกหน้าซึ่งใช้มือทำงาน และต่างแปลกใจเพราะทุกคน “รู้” ว่างานแบบนั้นเป็นงานของผู้หญิง ในสมัยนั้น ชายชาวอูกันดาไม่ทำงานที่ใช้มือ พวกเขามีหน้าที่จู่โจมหมู่บ้านอื่นเพื่อจับเชลย แล้วขายให้กับคนนอก แต่จู่ๆ ก็มีชายต่างชาติมาตีเหล็กผลิตอุปกรณ์ทำไร่นา

รักสุดใจ

หลายปีก่อน ห้องทำงานในเมืองบอสตันของผมมองออกไปเห็นสุสานกรานารีที่วีรบุรุษชาวอเมริกันหลายคนถูกฝังอยู่ ที่นั่นมีป้ายหินสลักชื่อจอห์น แฮนคอคและซามูเอล อดัมส์ ที่ลงนามในคำประกาศอิสรภาพ ถัดไปอีกนิดมีป้ายหินของพอล รีเวียร์

อกตัญญูอย่างง่ายดาย

เสียงที่ปัดน้ำฝนปัดอย่างรุนแรงเพื่อกวาดสายฝนที่กระหน่ำใส่กระจกหน้ารถ ทำให้ผมยิ่งรู้สึกหงุดหงิด ผมกำลังปรับตัวให้ชินกับการขับรถมือสองที่เพิ่งซื้อมา รถคันนี้เป็นรถเก่าที่ขับมาแล้วกว่า 120,000 กม.และไม่มีถุงลมนิรภัยด้านข้างสำหรับเด็ก

ไม่ถูกคุมขังอีก

ชายวัยกลางคนมาหาผม หลังจากผมนำการประชุมเชิงปฏิบัติการในที่ทำงานของเขาและถามว่า “ผมเป็นคริสเตียนมาเกือบทั้งชีวิต แต่ผมผิดหวังกับตัวเองอยู่เสมอ ทำไมผมถึงทำแต่สิ่งที่ผมหวังว่าผมจะไม่ทำและไม่เคยทำสิ่งที่ผมรู้ว่าควรจะทำเลย พระเจ้ายังไม่เบื่อผมหรือ” ชายสองคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ก็ดูจะรอฟังคำตอบเช่นกัน

พระนามบริสุทธิ์

บ่ายวันหนึ่งผมคุยกับเพื่อนที่ผมนับถือเป็นพี่เลี้ยงฝ่ายวิญญาณ เรื่องการใช้พระนามพระเจ้าอย่างไม่สมควร ตามที่พระบัญญัติข้อที่สามบอกว่า “อย่าออกพระนามพระเจ้าของเจ้าอย่างไม่สมควร” (อพยพ 20:7) เราอาจคิดว่าหมายถึงการนำพระนามไปใช้สบถหรือพูดพล่อยๆ แต่พี่เลี้ยงของผมได้สอนผมเรื่องความเชื่อที่แท้จริง เขาให้คิดดูว่ามีทางไหนอีกบ้างที่เราดูหมิ่นพระนามของพระเจ้า

เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไป นั่นเป็นการแสดงว่าท่านยอมรับ นโยบายการใช้คุกกี้ของเรา