ผู้เขียน

ดูทั้งหมด

บทความ โดย Lawrence Darmani

ทรัพย์สมบัติในสวรรค์

การเดินสายไฟอย่างด้อยคุณภาพทำให้ไฟไหม้บ้านหลังใหม่ของเราเป็นจุณ เพลิงลุกลามเผาบ้านของเราเพียงชั่วโมงเดียว จนเหลือเพียงซากปรักหักพัง มีอีกครั้งที่เรากลับมาจากคริสตจักรในวันอาทิตย์ และพบว่าบ้านของเราถูกงัด และข้าวของถูกขโมย

เรารู้ได้

ขณะกำลังนั่งรถไฟไปนัดสำคัญครั้งหนึ่ง ผมเริ่มสงสัยว่าผมขึ้นรถไฟถูกขบวนหรือไม่ ผมไม่เคยไปเส้นทางนั้นมาก่อนและไม่ได้เอ่ยปากถามใคร ในที่สุด เพราะสงสัยและไม่มั่นใจ ผมจึงลงจากรถที่สถานีถัดไป แต่กลับได้รู้ว่าผมขึ้นถูกขบวนแล้ว

บทเรียนในการทนทุกข์

ภาพระยะใกล้บนจอยักษ์คมชัดจนเรามองเห็นบาดแผลลึกที่ร่างกายของชายคนนั้น ทหารทุบตีเขา ฝูงชนโกรธแค้นหัวเราะเยาะชายผู้นั้นที่ใบหน้าเต็มด้วยเลือด ภาพบนจอกลางแจ้ง เหมือนเกิดขึ้นจริงจนผมแทบรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวด แต่นี่เป็นเพียงภาพยนตร์เรื่องการทนทุกข์ของพระเยซูคริสต์เพื่อเรา

กลิ่นหอมกับหนังสือ

ทุกครั้งที่ผมเข้าใกล้พุ่มกุหลาบหรือช่อดอกไม้ ผมอดไม่ได้ที่จะโน้มดอกไม้มาสูดดมกลิ่นหอมของมัน กลิ่นหอมหวานทำให้ใจของผมสดชื่นและกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกดีๆ ในจดหมายถึงคริสเตียนในเมืองโครินธ์ อัครทูตเปาโลกล่าวว่า เพราะเราเป็นของพระคริสต์ พระเจ้าจึง “โปรดประทานกลิ่นหอมแห่งความรู้ของพระองค์ ให้ปรากฏด้วยตัวเราทุกแห่ง” (2 โครินธ์ 2:14) โดยพระกำลังของพระองค์ เราจึงดำเนินชีวิตที่มีชัยชนะได้โดยละทิ้งความเห็นแก่ตัวแล้วรับเอาความรักและพระเมตตาของพระองค์เข้ามาแทน และประกาศความรอดอันประเสริฐของพระองค์ เพื่อเราจะเป็นกลิ่นอันหอมหวานสำหรับพระเจ้า

อย่าช้า

หลายปีก่อนผมคุยกับญาติห่างๆ ว่าเราจำเป็นต้องรู้จักพระผู้ช่วยให้รอด ไม่นานมานี้เมื่อเขามาหา ผมหนุนใจให้เขาต้อนรับพระคริสต์ เขาตอบทันทีว่า “ผมอยากรับเชื่อและไปโบสถ์ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ ผมอยู่ท่ามกลางคนนับถือศาสนาอื่น ผมคงแสดงออกถึงความเชื่อได้ยาก จนกว่าจะได้ย้ายที่อยู่” เขาใช้การข่มเหง การเย้ยหยันและความกดดันจากเพื่อนเป็นข้ออ้างที่จะเลื่อนการตัดสินใจออกไป

เมื่อเรื่องร้ายเกิดขึ้น

พระคำที่หลายคนชอบใช้เมื่อเจอเรื่องร้ายคือ “เรารู้ว่า พระเจ้าทรงช่วยคนที่รักพระองค์ให้เกิดผลอันดีในทุกสิ่ง คือคนทั้งปวงที่พระองค์ได้ทรงเรียกตามพระประสงค์ของพระองค์” (โรม. 8:28) แต่ก็ยากที่จะเชื่อในยามนั้น ผมเคยนั่งเป็นเพื่อนชายที่สูญเสียลูกชายสามคนติดต่อกัน เขาคร่ำครวญว่า “เรื่องเศร้านี้จะเกิดผลดีกับผมได้ยังไง” ผมไม่มีคำตอบได้แต่นั่งเงียบๆ และโศกเศร้ากับเขา หลายเดือนต่อมา เขาขอบคุณพระเจ้าว่า “ความเสียใจทำให้ผมได้เข้าใกล้พระเจ้ามากขึ้น”

สิทธิพิเศษของครอบครัว

ตอนที่ผมอยู่โรงเรียนประถมในกานา ผมต้องอาศัยอยู่กับครอบครัวหนึ่งที่รักและเป็นห่วงเป็นใย โดยต้องอยู่ไกลจากพ่อแม่ วันหนึ่ง เด็กทุกคนมารวมกันเพื่อประชุมครอบครัวครั้งพิเศษ ช่วงแรกเราต้องเล่าประสบการณ์ของแต่ละคน จากนั้น เมื่อถึงช่วงที่ “ลูกแท้ๆ” เท่านั้นที่อยู่ได้ ผมจึงถูกเชิญออกอย่างสุภาพตอนนั้นเองที่ผมตระหนักถึงความเป็นจริงว่า ผมไม่ใช่ “ลูกของบ้านนี้” แม้พวกเขาจะรักผม ผมก็ต้องออกจากห้องเพราะผมแค่ไปอาศัยกับเขา ผมไม่ใช่ครอบครัวตามกฎหมาย

หัวใจที่อุทิศถวาย

นักธุรกิจคริสเตียนที่ประสบความสำเร็จคนหนึ่งเล่าให้เราฟังว่า จิตใจเขาต่อสู้เรื่องท่าทีต่อความร่ำรวย เขาออกตัวว่า “ความรวยทำให้ผมกลัว” พร้อมอ้างอิงถึงข้อพระคัมภีร์ ที่รบกวนจิตใจเขา เช่น ลูกา18:25 “เพราะว่าตัวอูฐจะลอดรูเข็ม ก็ง่ายกว่าคนมั่งมีจะเข้าในแผ่นดินของพระเจ้า” หรือลูกา16:19-32 เรื่องเศรษฐีกับลาซารัสที่สุดท้ายแล้วเศรษฐีก็ตกนรก และคำอุปมาเรื่องเศรษฐีโง่ในลูกา 12:16-21 นักธุรกิจคนนั้นกล่าวว่า “แต่ผมก็ได้เรียนรู้บทเรียนจากข้อสรุปของซาโลมอนเรื่องความมั่งคั่งว่าทุกสิ่งก็ ‘อนิจจัง’” (ปัญญาจารย์ 2:11) เขาตั้งใจจะไม่ให้เงินทองมาขัดขวางความทุ่มเทต่อพระเจ้า แต่จะรับใช้พระองค์ด้วยทรัพย์สินของเขาและช่วยเหลือคนขัดสน

ใจใหม่

ต้นทศวรรษที่ 1970 ในกานา มีโปสเตอร์ชื่อว่า “ใจของมนุษย์” ติดตามผนังและป้ายประกาศในที่สาธารณะ ภาพหนึ่งเป็นภาพสัตว์เลื้อยคลานทุกประเภท ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสิ่งชั่วร้ายและน่ารังเกียจ อัดแน่นอยู่ในภาพวาดรูปหัวใจที่มีศีรษะเป็นชายสีหน้าไม่มีความสุข อีกภาพหนึ่งเป็นภาพใจที่สะอาดและสงบและใบหน้าชายที่มีความสุข คำบรรยายใต้ภาพเขียนว่า “สภาพจิตใจของคุณเป็นอย่างไร”

เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไป นั่นเป็นการแสดงว่าท่านยอมรับ นโยบายการใช้คุกกี้ของเรา