งดงาม
นึกภาพวัยรุ่นหญิงสองคน คนแรกสุขภาพดีแข็งแรง อีกคนไม่เคยรู้จักการได้ไปไหนมาไหนด้วยตัวเอง เธอต้องนั่งรถเข็นและไม่เพียงเจอความท้าทายทางอารมณ์เช่นคนทั่วไปเท่านั้น แต่ยังต้องพบความลำบากและเจ็บปวดทางร่างกายอยู่เสมอ
เราไม่รู้เลย
อาสาสมัครจากคริสตจักรท้องถิ่นใช้เวลาในตอนเย็นอันหนาวเหน็บแจกอาหารในที่อยู่อาศัยสำหรับคนรายได้น้อย หญิงคนหนึ่งที่ได้รับอาหารแสดงความดีใจอย่างที่สุด เธอเปิดให้ดูตู้กับข้าวที่ว่างเปล่าและบอกว่าพวกเขาคือคำตอบคำอธิษฐานของเธอ
ไม่มีวันหมด
เมื่อผมถามเพื่อนที่กำลังจะเกษียณถึงสิ่งที่เธอกลัวในชีวิตช่วงต่อไป เธอบอกว่า “ฉันต้องการแน่ใจว่าฉันจะไม่ขาดเงิน” วันถัดมา เมื่อผมกำลังพูดคุยกับที่ปรึกษาด้านการเงิน เขาแนะนำวิธีที่ผมจะหลีกเลี่ยงจากการขาดเงิน ที่จริงแล้วเราทุกคนต้องการความมั่นคงคือการได้รู้ว่าเราจะมีสิ่งต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับชีวิตที่เหลือของเรา
การตัดสินใจของอีวี
อีวีเป็นเด็กสาววัยมัธยมปลายชาวอเมริกันคนหนึ่งในคณะนักร้องประสานเสียง 25 คนที่เดินทางไปประเทศจาไมก้าเพื่อร้องเพลง เป็นพยาน และนำความรักของพระเจ้าไปยังผู้คนต่างเชื้อชาติและวัฒนธรรม มีวันหนึ่งในการเดินทางครั้งนั้นที่อีวีประทับใจไม่รู้ลืมและเต็มไปด้วยความชื่นชมยินดี
พระเจ้าตรัส
ไม่นานมานี้ ลูกเขยของผมอธิบายให้เเม็กกี้หลานสาวผมฟังว่า เราคุย กับพระเจ้าได้และพระเจ้าทรงสื่อสารกับเรา เมื่อเขาบอกแม็กกี้ว่าบางครั้งพระเจ้าพูดกับเราผ่านพระคัมภีร์ เธอตอบอย่างไม่ลังเลว่า “แต่พระเจ้าไม่เคยพูด...กับหนู หนูไม่เคยได้ยินพระเจ้าคุยกับหนู”
ใครดูคุณอยู่
ไม่ว่านักกีฬาโอลิมปิคปี 2016 จะไปที่ไหนในเมืองริโอเดจาเนโร ก็จะได้เห็นพระเยซู รูปปั้นสูง 30 เมตรชื่อคริสโต รีเดนเทอร์ (พระคริสต์พระผู้ไถ่) ตั้งตระหง่านบนยอดเขาสูง 700 เมตรเหนือเมืองนี้ในประเทศบราซิล รูปปั้นพระเยซูทรงกางแขนกว้างขนาดมหึมานี้มองเห็นได้จากเกือบทุกที่ในเมืองทั้งกลางวันและกลางคืน
ทางที่ง่าย
เส้นทางชีวิตมักยากลำบาก หากเราคาดหวังว่าพระเจ้าจะประทานทางราบเรียบให้ทุกครั้งเมื่อหนทางยากลำบาก เราอาจอยากหันหลังให้พระองค์
กินน้ำกินท่า
ตอนผมเป็นเด็ก ครอบครัวผมเดินทางจากโอไฮโอไปเยี่ยมตากับยายที่เวสท์ เวอร์จิเนียทุกเดือน ทุกครั้งที่ไปถึงบ้านสวน ยายจะออกมาต้อนรับพวกเราด้วยคำว่า “เข้ามานั่งกินน้ำกินท่ากันก่อน” ซึ่งหมายถึงให้ทำตัวตามสบาย นั่งพักสักครู่และพูดคุย “ถามไถ่ทุกข์สุข” กัน
เรียกชื่อ
เมื่อผมพบนักศึกษากลุ่มใหม่ในชั้นเรียนเป็นครั้งแรก ผมก็รู้จักชื่อของพวกเขาแล้ว ผมใช้เวลาจดจำชื่อและใบหน้าในทะเบียนนักศึกษาดั งนั้นเมื่อพวกเขาเดินเข้ามาในห้อง ผมจึงเอ่ยทักได้ว่า “สวัสดีเจสสิกา" หรือ “ยินดีต้อนรับเทรเวอร์” ผมทำอย่างนี้เพราะรู้ว่าการที่มีคนรู้จักและเรียกชื่อเรานั้น มีความหมายเพียงใด