ผู้เขียน

ดูทั้งหมด

บทความ โดย Bill Crowder

เป็นพยาน

สมัยเป็นวัยรุ่น ผมเห็นอุบัติเหตุทางรถยนต์กับตา เป็นประสบการณ์ที่สะเทือนความรู้สึกของผมอย่างยิ่ง เนื่องจากผมเป็นคนเดียวที่เห็นเหตุการณ์ ตลอดหลายเดือนหลังจากนั้นจึงต้องเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก ให้กับทนายและตัวแทนประกันภัยฟัง เขาไม่ได้บอกให้ผมอธิบายความเสียหายด้วยหลักฟิสิกส์หรือใช้หลักการแพทย์อธิบายว่าจิตใจของผมได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง แต่ขอให้เล่าว่าผมเห็นอะไรเท่านั้น

ทางแห่งปัญญา

อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์อาจเคยกล่าวไว้ว่า “มีอยู่สองสิ่งที่ไม่สิ้นสุด นั่นคือจักรวาลและความโง่เขลาของมนุษย์ แต่ผมไม่แน่ใจเท่าใดนักว่าจักรวาลเป็นเช่นนั้น” น่าเศร้าที่หลายครั้งดูเหมือนเราทำตัวเองให้ตกอยู่ในสถานการณ์โง่เขลาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความเสียหายที่เกิดจากความโง่เขลาและปัญหาที่ตามมาก็ดูจะมีมากมายไม่สิ้นสุด

พระเมตตาไม่สิ้นสุด

ขณะที่ผมเดินเล่นอยู่ในท่าอากาศยานชิคาโกโอแฮร์ ผมก็สะดุดตากับบางอย่าง คือหมวกของคนที่กำลังรีบวิ่งไปตกบนทางเดิน สิ่งที่สะดุดใจผมคือข้อความบนหมวกที่เขียนว่า “ปฏิเสธทุกสิ่ง” ผมสงสัยว่าหมายความว่าอะไรอย่ายอมรับว่าผิด หรือให้ปฏิเสธความสุขสบายและความฟุ้งเฟ้อในชีวิต ผมงุนงงกับความลึกลับของคำง่ายๆนี้ที่ว่า “ปฏิเสธทุกสิ่ง”

เกือบพอใจ?

ขณะที่ผมก้าวเข้าไปในลานจอดรถของร้านอาหารหลังจากรับประทานอาหารเที่ยงผมเห็นรถกระบะคันหนึ่งขับเข้ามาในลานด้วยความเร็วสูง ผมเฝ้ามองท่าทีอันไม่แยแสของคนขับ ผมสังเกตเห็นข้อความที่ติดอยู่บนทะเบียนรถด้านหน้าซึ่งเขียนว่า “เกือบพอใจแล้ว” หลังจากครุ่นคิดถึงข้อความนี้ และความหมายที่ต้องการจะสื่อ ผมก็สรุปว่าแนวคิด “เกือบพอใจแล้ว” ไม่มีอยู่จริง มีเพียงเราพอใจหรือไม่พอใจเท่านั้น

ห่วงใยอย่างท่วมท้น

ไม่นานมานี้ ผมเขียนบทความเกี่ยวกับมาร์ลีนภรรยาของผม และโรคน้ำในหูไม่เท่ากันของเธอ เมื่อบทความนั้นถูกตีพิมพ์ออกไป ผมไม่ได้เตรียมตัวรับกระแสตอบรับอย่างท่วมท้นจากผู้อ่าน ซึ่งส่งกำลังใจ ความช่วยเหลือ คำแนะนำและที่มีมามากที่สุดคือ ความห่วงใยที่มีต่อสุขภาพของเธอ ข้อความเหล่านี้ส่งมาจากทั่วทุกมุมโลก จากทุกสาขาอาชีพและมีมากเสียจนเราไม่สามารถตอบทุกข้อความที่ส่งมาได้ ผมตื้นตันที่ได้เห็นพระกายของพระคริสต์ตอบสนองต่อสิ่งที่มาร์ลีนต้องเผชิญ เรารู้สึกและยังคงรู้สึกซาบซึ้งใจจนถึงทุกวันนี้

ของประทานแห่งความสว่าง

เซอร์ คริสโตเฟอร์ เร็นออกแบบและสร้างคริสตจักรกว่า 50 แห่งในกรุงลอนดอนช่วงปลายศตวรรษที่ 17 แบบที่เขาเขียนมีลักษณะเด่นสองประการคือ หลังคามียอดแหลมสูงและมั่นคงแข็งแรง แต่ลักษณะประการที่สองลึกซึ้งยิ่งกว่า คือ หน้าต่างของโบสถ์ทุกบานจะต้องเป็นกระจกใส ซึ่งตรงข้ามกับกระจกที่มีลวดลายและสีสันสวยงาม ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมของคริสตจักรในยุคนั้น เหตุผลหนึ่งมาจากคำพูดของเขาที่ว่า “ของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่พระเจ้าประทานให้กับมนุษย์คือความสว่าง” ในความคิดของเร็น การยอมให้แสงสว่างทอดลงมายังผู้คนที่กำลังนมัสการคือการเฉลิมฉลองของขวัญนั้น

ความสุขจากความผิดหวัง

ตอนที่ผมเรียนอยู่ที่โรงเรียนพระคริสตธรรมผมไปทดสอบทักษะทางดนตรีเพื่อจะได้ร่วมทีมดนตรีของโรงเรียนที่เดินทางไปในที่ต่างๆ ผมตื่นเต้นเมื่อคิดว่าจะได้เป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจ แต่แล้วผมก็ต้องเศร้า เมื่อไม่ผ่านการทดสอบ ท่ามกลางความผิดหวัง ผมได้แต่วางใจว่าพระประสงค์ของพระเจ้ายิ่งใหญ่กว่าความปรารถนาของผม

อีก 80% ที่เหลือ

ไม่นานมานี้ ผมเห็นป้ายโฆษณาอันหนึ่งเขียนว่า 80% ของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนโลกอยู่ในท้องทะเล ตัวเลขที่น่าตกใจนี้กว่าจะได้มาไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะสิ่งมีชีวิตมักอยู่ในที่ที่เรามองไม่เห็น

หลายหัวดีกว่าหัวเดียว

คำอธิบายหนังสือชื่อ ปัญญาของกลุ่มชน (The Wisdom of Crowds) บนอินเตอร์เน็ตบอกว่า “ในหนังสือที่น่าทึ่งเล่มนี้ เจมส์ ซุโรวิคกี้ นักเขียนคอลัมน์ธุรกิจของหนังสือนิวยอร์คเกอร์ได้ค้นพบแนวคิดง่ายๆ ว่า คนกลุ่มใหญ่จะฉลาดกว่าคนที่ฉลาดที่สุดเพียงหนึ่งคน ไม่ว่าคนนั้นจะปราดเปรื่องเพียงใด คนกลุ่มใหญ่จะแก้ปัญหาได้ดีกว่า สร้างสรรค์สิ่งใหม่ได้ดีกว่า ตัดสินใจฉลาดกว่า และอาจมองอนาคตได้ดีกว่า”

เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไป นั่นเป็นการแสดงว่าท่านยอมรับ นโยบายการใช้คุกกี้ของเรา