ผู้เขียน

ดูทั้งหมด

บทความ โดย Anne Cetas

รักคืออะไร?

เมื่อมีคนถามว่า “ความรักคืออะไร” เด็กๆ มีคำตอบที่เยี่ยมยอด โนเอลวัย 7 ขวบบอกว่า “ความรักคือ เวลาที่เราบอกคนคนหนึ่งว่าเสื้อเขาสวยดี แล้วเขาก็ใส่เสื้อตัวนั้นทุกวัน” รีเบ็กกาวัย 8 ขวบตอบว่า “ตั้งแต่คุณยายของหนูเป็นโรคไขข้ออักเสบ ท่านก้มลงขัดเล็บเท้าเองไม่ได้ คุณตาจึงช่วยขัดให้มาตลอด แม้แต่ตอนที่คุณตาป่วยเป็นโรคไข้ข้ออักเสบที่มือแล้วนั่นคือความรัก” เจสสิกาวัย 8 ขวบสรุปว่า “คุณไม่ควรพูดว่า ‘ฉันรักเธอ’ ถ้าคุณไม่ได้รักจริงๆและถ้าคุณรักจริงๆ คุณต้องพูดบ่อยๆ เพราะคนเราลืมง่าย”

ชีวิตออกแบบได้

คำแนะนำที่ผมอ่านจากหนังสือคู่มือเล่มหนึ่งฟังดูเข้าที คือจงทำเฉพาะสิ่งที่คุณทำได้ดีเพราะคุณจะได้รู้สึกพึงพอใจมากที่สุด ผู้เขียนพยายามจะช่วยให้ผู้อ่านสร้างชีวิตในแบบที่ตนเองต้องการ ผมไม่รู้ว่าคุณคิดอย่างไร แต่สำหรับผมแล้ว ถ้าจะทำเฉพาะสิ่งที่ตัวเองทำได้ดี ผมคงไม่มีอะไรให้ทำมากนัก!

สายตาแห่งนิรันดร์กาล

ผมได้รับข่าวดีหลังจากการไปตรวจวัดสายตาเมื่อเดือนที่แล้วว่า การมองเห็นในระยะไกลของผมดีขึ้น ผมคิดว่านั่นเป็นข่าวดี จนกระทั่งเพื่อนผมบอกว่า “คนเราจะมองไกลได้ดีขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น ส่วนการมองใกล้จะแย่ลง”

วันที่เลวร้ายที่สุด

ในเดือนพฤษภาคม 2011 หญิงสาวคนหนึ่งเข้าไปหลบในอ่างอาบน้ำ ระหว่างที่พายุทอร์นาโดพัดถล่มเมืองจอพ-ลิน รัฐมิสซูรี สามีของเธอใช้ตัวของเขากำบังเธอไว้จากซากปรักหักพังที่ปลิวมา เขาเสียชีวิต แต่เธอรอดเพราะความกล้าหาญของเขา เธอต้องปล้ำสู้กับคำถามว่า“ทำไม” แต่หนึ่งปีหลังจากเกิดพายุ เธอบอกว่าเธอได้รับการปลอบประโลมใจ เพราะแม้ในวันที่เลวร้ายที่สุดของเธอ เธอก็ยังเป็นที่รัก

ฉันมาจากไหน

วันหนึ่งโทบิอัส เพื่อนเชื้อสายแอฟริกันอเมริกันวัย 7 ขวบของฉัน ถามคำถามชวนคิดว่า “คนผิวดำมาจากไหนครับ ในเมื่ออาดัมกับเอวาเป็นคนผิวขาว” เมื่อฉันบอกเขาว่า เราไม่รู้ว่าทั้งสองคนผิว “สี” อะไร และถามเขาว่าทำไมจึงคิดว่าพวกเขาผิวขาว เขาบอกว่า เขามักจะเห็นในหนังสือที่เล่าเรื่องราวพระคัมภีร์ที่คริสตจักร และห้องสมุด หัวใจของฉันหล่นวูบฉันสงสัยว่าเหตุนี้ทำให้เขาคิดว่าตัวเองด้อยกว่าหรือพระเจ้าไม่ได้ทรงสร้างเขาด้วยหรือไม่

ลูกหนี้

ในช่วงที่เป็นวัยรุ่น โรเบิร์ต โรบินสัน (1735-1790) กับเพื่อนชอบสร้างปัญหาเสมอ แต่เมื่อเขาอายุ 17 ปี เขาได้ฟังคำเทศนาของจอร์จวิทฟิลด์ จากพระธรรมมัทธิว 3:7 และตระหนักว่าเขาต้องการความรอดในพระคริสต์ พระเจ้าทรงเปลี่ยนชีวิตของโรบินสันและเขาได้กลายมาเป็นนักเทศน์ เขายังได้เขียนบทเพลงชีวิตคริสเตียนหลายเพลง ซึ่งบทเพลงที่รู้จักกันดี คือ“ขอพระพรจากเบื้องบน”

เมื่อไม่นานมานี้ ขณะที่ฉันกำลังใคร่ครวญถึงพระคุณพระเจ้าที่มีต่อเราและมาถึงประโยคสุดท้ายของบทเพลงนี้ที่ร้องว่า “ข้าเป็นหนี้พระคุณพระเยซู เพราะทรงพลีชีวิตเพื่อไถ่!”บทเพลงนี้ทำให้ฉันคิดถึงถ้อยคำของอัครทูตเปาโลที่ว่า “เพราะว่าความรักของพระคริสต์ได้ครอบครองเราอยู่...เพื่อคนเหล่านั้นที่มีชีวิตอยู่จะมิได้อยู่เพื่อประโยชน์แก่ตัวเองอีกต่อไป แต่จะอยู่เพื่อพระองค์ผู้ทรงสิ้นพระชนม์ และทรงเป็นขึ้นมาเพราะเห็นแก่เขาทั้งหลาย”(2คร.5:14-15)

เราไม่สามารถทำสิ่งใดเพื่อให้ได้มาซึ่งความรักและพระคุณของพระเจ้าแต่เพราะพระองค์ทรงประทานให้เราเปล่าๆ ดังนั้น เราคงทำสิ่งใดไม่ได้นอกจากรักพระองค์เป็นการตอบแทนโดยมีชีวิตอยู่เพื่อพระองค์! เราต้องใกล้ชิดพระองค์ ฟังพระคำของพระองค์ ปรนนิบัติและเชื่อฟังพระองค์ด้วยความรักและสำนึกในพระคุณ

ในฐานะลูกหนี้ เราได้รับการทรงเรียกให้ดำเนินชีวิตในแต่ละวันเพื่อพระเยซูผู้ทรงประทานพระองค์เองเพื่อเรา - AMC

 

 

พระกรอันแข็งแรงของพระเจ้า

โจแอน เพื่อนของฉัน มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะเป็นนักเปียโน และเดินทางไปเปิดการแสดงเดี่ยวเปียโนหรือแสดงร่วมกับวงเธอเลือกเรียนเปียโนเป็นวิชาเอกตอนอยู่มหาวิทยาลัย แต่ขณะที่เรียน เธอมีอาการเส้นเอ็นอักเสบที่แขนขวาและแขนของเธอเริ่มอ่อนแรงลงเรื่อยๆ จนไม่สามารถเดี่ยวเปียโนตามที่ทางมหาวิทยาลัยกำหนดได้ ดังนั้น เธอจึงจบปริญญาตรีในสาขาประวัติศาสตร์ดนตรีและวรรณกรรมแทน

เสียงเรียก

ฉันและเพื่อนร่วมงานอีกสองสามคน เพิ่งเดินผ่านจุดตรวจรักษาความปลอดภัยของสนามบิน และกำลังเดินไปยังประตูขึ้นเครื่อง ฉันได้ยินเสียงประกาศว่า “โปรดทราบ คุณแอน ซีตาส กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่” ชื่อนี้ไม่ค่อยซ้ำกับใคร เราจึงคิดว่าน่าจะหมายถึงฉัน ฉันเองก็คิดว่าตัวเองคงจะลืมอะไรไว้ที่จุดตรวจ ฉันถามเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง ที่บอกให้ฉันไปที่โทรศัพท์สีแดง แล้วยกหูบอกชื่อและถามว่าทำไมจึงตามตัวฉัน ฉันมองหาโทรศัพท์และยกหูขึ้น แต่เจ้าหน้าที่ที่รับสายบอกว่า “ไม่นี่ครับ เราไม่ได้เรียกคุณ” ฉันบอกว่า “แต่ฉันได้ยินชื่อฉันแน่ๆ” เจ้าหน้าที่ตอบมาเป็นครั้งที่สองว่า “ไม่ครับ เราไม่ได้เรียกคุณ” ฉันเลยไม่รู้ว่าทำไมจึงมีคนเรียกชื่อฉันในวันนั้น

เด็กชายซามูเอล ถูก “เรียก” เมื่อนานมาแล้ว (1ซมอ.3:4) พระคัมภีร์บอกว่าเขา “ไม่เคยรู้จักพระเจ้าและยังไม่เคยทรงสำแดงพระดำรัสของพระเจ้าแก่เขา” (1ซมอ.3:7)  ดังนั้นปุโรหิตเอลีจึงช่วยให้เขาเข้าใจว่าใครกำลังเรียกเขาอยู่  (1ซมอ.3:8-9) พระเจ้าทรงเปิดเผยแผนการของพระองค์ที่มีต่อชีวิตของซามูเอล

พระเจ้าทรงมีแผนการณ์สำหรับเราเช่นกัน และพระองค์ตรัสเรียกเราที่ในใจว่า “บรรดาผู้ทำงานเหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก จงมาหาเราและเราจะให้ท่านทั้งหลายหายเหนื่อยเป็นสุข” (มธ.11:28) นั่นเป็นเสียงเรียกเพื่อให้เรารับของประทานคือความรอด การพักผ่อน และสันติสุขจากพระองค์ พระผู้ช่วยให้รอดกำลังเรียกเราให้มาหาพระองค์ - AMC

 

เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไป นั่นเป็นการแสดงว่าท่านยอมรับ นโยบายการใช้คุกกี้ของเรา