พระเจ้าผู้อยู่เหนือ...ตะปู
ผมเห็นแสงสะท้อนจากล้อตอนจะขึ้นรถ มีตะปูที่ปักอยู่ด้านข้างล้อหลัง ผมฟังดูเพื่อหาเสียงลมรั่ว ขอบคุณพระเจ้าที่ตะปูอุดรูไว้ อย่างน้อยก็ครู่หนึ่ง ผมสงสัยว่าตะปูปักอยู่ตั้งแต่เมื่อไร กี่วัน กี่สัปดาห์ นานเท่าไหร่แล้วที่ผมได้รับการปกป้องจากอันตรายที่ผมไม่รู้ว่ามีอยู่
พระบิดา พระองค์อยู่ที่ไหน
"พ่อ พ่ออยู่ไหน” ผมกำลังขับรถเข้าบ้านตอนที่ลูกสาวโทรมาหาผมด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก ผมต้องถึงบ้านตอนหกโมงเย็นเพื่อพาลูกไปซ้อมละครและผมก็ตรงเวลา แต่เสียงของลูกสาวบอกว่าลูกไม่ไว้ใจผม ผมตอบเธอว่า “พ่ออยู่นี่ ทำไมไม่เชื่อใจกันเลย”
สู้ต่อไป
พ่อตาของผมเพิ่งเข้าสู่วัย 78 ปี เมื่อครอบครัวของเรามาพบกันเพื่อให้เกียรติแก่ท่าน มีคนถามว่า “อะไรคือสิ่งสำคัญที่สุดที่ท่านเรียนรู้ในชีวิตนี้” ท่านตอบว่า “สู้ต่อไป”
เมื่อรู้ว่าใครชนะ
หัวหน้าของผมเป็นแฟนตัวยงของทีมบาสเก็ตบอลมหาวิทยาลัยที่ชนะเลิศการแข่งขันระดับประเทศในปีนี้ เพื่อนร่วมงานจึงส่งข้อความไปแสดงความยินดีกับเขา แต่หัวหน้าของผมยังไม่มีโอกาสได้ดูการแข่งขันรอบสุดท้ายนั้นเลย เขาบอกว่าเขาโมโหที่รู้ผลการแข่งขันเสียก่อน แต่ก็ยอมรับว่าอย่างน้อยเขาก็ไม่ต้องกังวลตอนที่ผลการแข่งขันสูสี เขารู้ว่าใครชนะ
สุนัขบุลล์ด็อกกับหัวรดน้ำในสวน
เกือบทุกเช้าตอนหน้าร้อน ที่สวนหลังบ้านเรามีเหตุการณ์น่าชมระหว่างหัวรดน้ำในสวนกับสุนัขบุลล์ด็อก หัวรดน้ำเริ่มทำงานราว 6.30 นาฬิกาสักพักเจ้าฟีฟี่ (ชื่อที่ครอบครัวเราเรียกมัน) สุนัขบุลล์ด็อกก็ตามมา
ไม่หนีอีกแล้ว
วันที่ 18 กรกฎาคม 1983 เรืออากาศเอกคนหนึ่งของกองทัพอากาศสหรัฐหายตัวไปจากแอลบูเคอร์คี รัฐนิวเม็กซิโกอย่างไร้ร่องรอย 35 ปีต่อมา ทางการพบตัวเขาที่รัฐแคลิฟอร์เนีย นิวยอร์กไทมส์ รายงานว่า “เขารู้สึกท้อแท้กับงาน” จึงหนีไปเสียเฉยๆ
เขาต้องหนีถึง 35 ปี ใช้เวลาครึ่งชีวิตในความหวาดระแวง ความวิตกกังวลและหวาดระแวงคงติดตามชายคนนี้ไปทุกที่
ผมยอมรับว่าผมพอจะรู้เรื่องการ “หนี” ซึ่งทางกายภาพในชีวิตผมไม่เคยต้องหนีจากสิ่งใดอย่างกะทันหันในชีวิต แต่หลายครั้งผมรู้ว่าพระเจ้าอยากให้ผมทำบางอย่าง ต้องเผชิญหรือสารภาพบางอย่าง แล้วผมไม่อยากทำผมจึงหนีในแบบของผม
ผู้เผยพระวจนะโยนาห์มีชื่อเสียงไม่ดี เพราะท่านหนีจากงานที่พระเจ้าทรงใช้ให้ไปเทศนาที่เมืองนีนะเวห์ (ยนา.1:1-3) แต่ท่านหนีพระเจ้าไม่พ้นอย่างแน่นอน คุณคงได้รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น (ข้อ 4,17) เรื่องพายุ ปลา ถูกปลากลืน และการได้ใคร่ครวญอยู่ในท้องสัตว์มหึมาซึ่งทำให้ท่านหันมาเผชิญสิ่งที่ได้ทำและร้องขอให้พระเจ้าช่วย (2:2)
โยนาห์ ไม่ใช่ผู้เผยพระวจนะที่สมบูรณ์แบบ แต่เรื่องราวที่น่าจดจำของท่านหนุนใจผม เพราะแม้ท่านจะดื้อรั้น แต่พระเจ้าก็ไม่ละทิ้งท่าน ยังทรงตอบคำอธิษฐานที่สิ้นหวังและทรงพระคุณฟื้นฟูผู้รับใช้ ผู้ไม่เต็มใจทำงานของพระองค์ (ข้อ 2) ดังที่พระองค์ทรงกระทำต่อเรา
พระผู้ช่วยให้รอดรู้จักเรา
"พ่อครับ กี่โมงแล้ว” ลูกชายถามผมจากเบาะหลัง “5:30 น.ครับ” ผมรู้ว่าเขาจะพูดอะไรต่อ “ไม่ใช่ครับ ขณะนี้เวลา 5:28 น.” แล้วผมก็เหลือบไปดูใบหน้าและรอยยิ้มกว้างของเขาที่หลอกผมสำเร็จ ผมดีใจที่รู้ว่าลูกชอบอะไร ซึ่งเป็นสิ่งที่พ่อแม่เท่านั้นที่รู้
วัตถุในกระจก
"ต้องไปเร็วกว่านี้” ดร.เอียน มัลคอล์มซึ่งรับบทโดย เจฟฟ์ โกลด์บลัมกล่าวในฉากที่น่าจดจำในภาพยนตร์จูราสสิค พาร์คปี 1993 เขากับพวกขับรถจี๊ปหนีไดโนเสาร์ไทแรนโนซอรัสที่อาละวาด เมื่อคนขับดูกระจกมองหลัง เขาเห็นเขี้ยวคมของมันอยู่เหนือคำว่า “วัตถุในกระจกอาจอยู่ใกล้กว่าที่เห็น”
ฉากนี้มีทั้งความตึงเครียดและมุกตลกร้ายบางครั้ง “สัตว์ประหลาด” จากอดีตของเรา ดูจะไม่ยอมหยุดไล่ตาม เรามองดูที่ “กระจก” ชีวิตของเราและเห็นความผิดพลาดคอยคุกคามเพื่อจะกลืนกินเราด้วยความรู้สึกผิดหรือความอับอาย
อัครทูตเปาโลเข้าใจถึงอิทธพลของอดีตที่ครอบงำเรา ท่านพยายามดำเนินชีวิตให้สมบูรณ์แบบโดยไม่รู้จักพระคริสต์อยู่หลายปี และข่มเหงคริสเตียนด้วย (ฟป.3:1-9) ความเสียใจต่ออดีตอาจทำให้ท่านชะงักไปก็ได้
แต่เปาโลค้นพบความงามและพลังในความสัมพันธ์กับพระคริสต์ ซึ่งทำให้ท่านจำต้องละทิ้งชีวิตเก่า (ข้อ 8-9) และปลดปล่อยท่านให้มองไปข้างหน้าด้วยความเชื่อ แทนที่จะมองย้อนไปด้วยความกลัวหรือเสียใจ “ข้าพเจ้าทำอย่างหนึ่ง คือลืมสิ่งที่ผ่านพ้นมาแล้วเสีย และโน้มตัวออกไปหาสิ่งที่อยู่ข้างหน้า” (ข้อ 13-14)
การไถ่ของพระคริสต์ปลดปล่อยเราที่จะมีชีวิตเพื่อพระองค์ เราไม่จำเป็นต้องให้ “วัตถุในกระจก (ของเรา)” มากำหนดทิศทางเมื่อเราก้าวไปข้างหน้า
ยอดโบสถ์คดโค้ง
ยอดโบสถ์ที่คดโค้งทำให้ผู้คนเป็นกังวล เพื่อนของเราเล่าว่า หลังพายุแรง ยอดโบสถ์แหลมที่น่าภาคภูมิใจโค้งงอลงมาจนน่าตกใจ