สิทธิพิเศษในการเป็นผู้ดูแล
ในระหว่างที่ไปพักร้อน ฉันกับสามีเดินไปตามชายหาดและสังเกตเห็นผืนทรายที่ล้อมรั้วชั่วคราวไว้เป็นพื้นที่สี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ ชายหนุ่มคนหนึ่งอธิบายว่าเขากับทีมอาสาสมัครทำงานตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อจะปกป้องรังไข่ของเต่าทะเลทุกรัง เมื่อลูกเต่าโผล่ออกจากรัง ทั้งมนุษย์และสัตว์ที่อยู่ที่นั่นจะเป็นอันตรายต่อลูกเต่าและลดโอกาสในการอยู่รอดของพวกมัน เขาบอกว่า “แม้เราพยายามถึงขนาดนี้ นักวิทยาศาสตร์ยังคาดการณ์ว่ามีลูกเต่าที่ฟักออกมาเพียงหนึ่งในห้าพันตัวที่จะเติบโตไปจนเป็นตัวเต็มวัย” แต่ตัวเลขที่แสดงความหวังอันริบหรี่นี้ไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มคนนี้ท้อแท้ ความร้อนรนที่จะทุ่มเทเพื่อช่วยเหลือลูกเต่านี้ ทำให้ฉันรู้สึกอยากที่จะให้ความสำคัญและปกป้องเต่าทะเลมากขึ้น ตอนนี้ฉันสวมจี้รูปเต่าทะเลที่เตือนฉันถึงความรับผิดชอบที่พระเจ้ามอบให้ฉันดูแลสัตว์ทั้งหลายที่พระองค์ทรงสร้าง
เมื่อพระเจ้าทรงสร้างโลก พระองค์ได้จัดเตรียมที่อยู่ให้สัตว์แต่ละชนิดได้อาศัยและเติบโตอย่างสมบูรณ์ (ปฐมกาล 1:20-25) เมื่อพระเจ้าทรงสร้างผู้ที่ผดุงพระฉายของพระองค์นั้น พระองค์มีพระประสงค์ให้เรา “ครอบครองฝูงปลาในทะเล ฝูงนกในอากาศและฝูงสัตว์ ให้ปกครองแผ่นดินทั่วไป และสัตว์ต่างๆที่เลื้อยคลานบนแผ่นดิน” (ข้อ 26) พระองค์ทรงช่วยให้เรารับใช้พระองค์ในฐานะผู้ดูแลที่มีความรับผิดชอบ โดยใช้สิทธิอำนาจที่พระเจ้าประทานให้ในการดูแลสิ่งทรงสร้างอันมากมายมหาศาล
เมื่อคำอธิษฐานเขย่าแผ่นดินโลก
ดร. แกรี่ กรีนเบิร์กได้ถ่ายภาพขยายเม็ดทรายจากชายหาดทั่วโลก ที่มักจะเปิดเผยให้เห็นสีสันสดใสและน่าประหลาดใจจากแร่ธาตุ เปลือกหอย และเศษปะการังที่อยู่ภายใน
เขาค้นพบว่าทรายมีอะไรมากกว่าที่ตามองเห็น ในสาขาวิชาการศึกษาเม็ดทราย การวิเคราะห์ปริมาณแร่ธาตุในทรายด้วยกล้องจุลทรรศน์สามารถบอกเราได้มากเกี่ยวกับการกัดเซาะ กระแสน้ำชายฝั่ง และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อแนวชายฝั่ง แม้แต่เม็ดทรายเล็กๆยังให้ข้อมูลที่มีค่าอย่างยิ่ง!
คำอธิษฐานหนึ่งก็เหมือนกับเม็ดทรายเม็ดหนึ่งที่มีความสำคัญ พระคัมภีร์กล่าวถึงบทบาทอันทรงพลังของคำอธิษฐานในอาณาจักรของพระเจ้าที่กำลังจะมาถึง ในวิวรณ์ 8 ยอห์นเห็นทูตสวรรค์ยืนอยู่ที่แท่นบูชาต่อหน้าพระบัลลังก์ของพระเจ้า ถือกระถางไฟทองคำที่บรรจุ “คำอธิษฐานของธรรมิกชนทั้งปวง...แล้วทูตสวรรค์องค์นั้นก็นำกระถางไปบรรจุไฟจากแท่นจนเต็ม และโยนกระถางนั้นลงบนแผ่นดินโลก ทำให้มีเสียงฟ้าร้อง เสียงต่างๆ ฟ้าแลบและแผ่นดินไหว” (ข้อ 3,5)
ทันทีหลังจากที่ทูตสวรรค์ขว้างกระถางไฟที่เต็มไปด้วยไฟและคำอธิษฐาน ทูตสวรรค์เจ็ดองค์ที่ถือแตรทั้งเจ็ดนั้นก็ “เตรียมพร้อมที่จะเป่า” (ข้อ 6) เพื่อประกาศวาระสุดท้ายของแผ่นดินโลกเก่าและการเสด็จกลับมาของพระคริสต์
บางครั้งเราอาจไม่รู้สึกว่าคำอธิษฐานของเรามีค่าถึงขนาดนั้น แต่พระเจ้าไม่เคยมองข้ามเลย พระองค์ให้คุณค่าอย่างมากจนคำอธิษฐานมีบทบาทต่อการมาถึงของอาณาจักรของพระองค์ สิ่งที่เราคิดว่าเป็นคำอธิษฐานที่เล็กน้อยที่สุดสำหรับเรา กลับมีน้ำหนักในการเขย่าโลกสำหรับพระองค์!
คำตักเตือนที่ให้ชีวิต
“น่าเสียดายที่เราต้องพูดกันค่อนข้างแรง” เชลลี่กล่าว “ฉันไม่คิดว่าเราสองคนชอบการพูดคุยแบบนั้น แต่ฉันรู้สึกจริงๆว่าจะต้องพูดถึงทัศนคติและการกระทำของเธอเพื่อเธอจะไม่ทำร้ายคนรอบข้างอยู่เรื่อยไป” เชลลี่กำลังพูดถึงหญิงสาวที่เธอเป็นพี่เลี้ยงให้อยู่ แม้การสนทนาจะน่าอึดอัดแต่ก็เกิดผลและกลับทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาแน่นแฟ้นขึ้น เพียงไม่กี่สัปดาห์ต่อมา หญิงทั้งสองคนได้นำในการอธิษฐานของทั้งคริสตจักรในหัวข้อความถ่อมใจ
แม้ในความสัมพันธ์ที่นอกเหนือจากการเป็นพี่เลี้ยงน้องเลี้ยง เราก็จะเผชิญกับการสนทนาที่น่าลำบากใจหลายครั้งกับพี่น้องในพระคริสต์ ในพระธรรมสุภาษิตซึ่งเป็นหนังสือที่เต็มด้วยสติปัญญาที่ใช้ได้ทุกยุคสมัยนั้น ความถ่อมใจในการให้และรับการแก้ไขเป็นหัวข้อสำคัญที่ถูกพูดถึงซ้ำๆ ยิ่งกว่านั้นการวิจารณ์เชิงสร้างสรรค์ยังเรียกว่าการ “ให้ชีวิต” และนำไปสู่สติปัญญาที่แท้จริง (สภษ.15:31) สุภาษิต 15:5 กล่าวว่าคนโง่ดูหมิ่นคำเตือนสติ แต่ผู้ที่สนใจคำทักท้วงเป็นผู้หยั่งรู้ หรือกล่าวให้ชัดเจนคือ “บุคคลผู้เกลียดคำเตือนสติจะตายเปล่า” (ข้อ 10) ดังที่เชลลี่ได้มีประสบการณ์ด้วยตนเองแล้วว่า ความจริงที่กล่าวออกมาด้วยความรักสามารถนำชีวิตใหม่มาสู่ความสัมพันธ์ได้
มีใครในชีวิตของคุณบ้างที่ควรได้รับถ้อยคำตักเตือนแห่งความรักและการแก้ไขที่ให้ชีวิต หรือบางทีคุณอาจเพิ่งได้รับคำตักเตือนที่มีเหตุมีผลและคุณถูกล่อลวงให้ตอบโต้ด้วยความโกรธหรือการเมินเฉย การเพิกเฉยต่อคำเตือนสติก็ดูหมิ่นตนเอง แต่บุคคลผู้สนใจการทักท้วงก็ได้ความเข้าใจ (ข้อ 32) ให้เราทูลขอพระเจ้าเพื่อช่วยเรามอบและรับคำตักเตือนด้วยความถ่อมใจในวันนี้
สู้ไปด้วยกัน
เคลลี่กำลังต่อสู้กับโรคมะเร็งสมองในตอนที่เกิดวิกฤตการณ์โควิด 19 เมื่อของเหลวเพิ่มปริมาณขึ้นรอบๆหัวใจและปอด เธอจึงต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลอีกครั้ง ครอบครัวไม่สามารถไปเยี่ยมเธอได้เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโควิด เดฟสามีของเธอจึงตัดสินใจว่าจะต้องทำอะไรบางอย่าง
เดฟได้รวบรวมญาติและเพื่อนสนิทมาพร้อมหน้ากัน โดยขอให้พวกเขาทำป้ายข้อความขนาดใหญ่ แล้วพวกเขาก็มา ทั้ง 20 คนยืนโดยสวมหน้ากากอยู่ข้างถนนนอกโรงพยาบาลพร้อมถือป้ายต่างๆที่เขียนว่า “สุดยอดคุณแม่!” “รักนะ” “เราจะอยู่เคียงข้างกัน” ด้วยความช่วยเหลือของพยาบาล เคลลี่จึงได้มาที่หน้าต่างของชั้นสี่ “เราเห็นเพียงหน้ากากและมือที่โบกมา” สามีของเธอโพสต์ไว้ในโซเชียลมีเดีย “แต่ก็เป็นหน้ากากและมือที่งดงาม”
ช่วงท้ายชีวิตของอัครทูตเปาโล ท่านรู้สึกโดดเดี่ยวขณะถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำที่กรุงโรม ท่านเขียนถึงทิโมธีว่า “ท่านจงพยายามมาให้ถึงก่อนฤดูหนาว” (2 ทธ.4:21) แต่เปาโลไม่ได้อยู่ลำพังเสียทีเดียว ท่านกล่าวว่า “แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประทับอยู่ใกล้ข้าพเจ้า และได้ทรงประทานกำลังให้ข้าพเจ้า” (ข้อ 17) และยังเห็นได้ชัดว่าท่านได้รับการติดต่อที่ช่วยหนุนใจจากผู้เชื่อคนอื่นด้วย ท่านบอกกับทิโมธีว่า “ยูบูลัส ปูเดนส์ ลีนัส คลาวเดีย และพี่น้องทั้งหลายฝากความคิดถึงมายังท่านด้วย” (ข้อ 21)
เราถูกสร้างมาเพื่อชุมชน และเรารู้สึกเช่นนั้นได้ดีที่สุดเมื่อเราอยู่ในวิกฤตคุณจะทำอะไรได้บ้างให้กับคนที่อาจรู้สึกโดดเดี่ยวในวันนี้