ผู้เขียน

ดูทั้งหมด

บทความ โดย Xochitl Dixon

แบ่งปันความหวัง

ขณะที่เอ็มม่าแบ่งปันถึงการที่พระเจ้าทรงช่วยให้เธอยอมรับอัตลักษณ์ตัวตนในฐานะลูกที่รักของพระองค์ เธอโยงข้อพระคัมภีร์เข้าในการสนทนาของเรา ฉันแทบไม่สังเกตเลยว่านักเรียนมัธยมปลายคนนี้หยุดใช้ถ้อยคำของเธอและเริ่มยกพระวจนะของพระเจ้าขึ้นมาตอนไหน เมื่อฉันชมว่าเธอเป็นเหมือนพระคัมภีร์เดินได้ เธอกลับขมวดคิ้ว เธอไม่ได้ตั้งใจจะท่องข้อพระคัมภีร์ แต่การอ่านพระคัมภีร์ทุกวันทำให้สติปัญญาที่พบในพระวจนะกลายเป็นส่วนหนึ่งของคำศัพท์ที่เอ็มม่าใช้ทุกวัน เธอชื่นชมยินดีในการสถิตอยู่ด้วยตลอดเวลาของพระเจ้าและในทุกโอกาสที่พระเจ้าประทานให้เธอได้แบ่งปันความจริงของพระองค์กับผู้อื่น แต่เอ็มม่าไม่ใช่คนหนุ่มสาวคนแรกที่พระเจ้าทรงใช้เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้อื่นในการอ่าน จดจำ และนำพระวจนะไปใช้ด้วยท่าทีแห่งการอธิษฐาน

เมื่ออัครทูตเปาโลหนุนใจทิโมธีให้ก้าวสู่การเป็นผู้นำ ท่านแสดงออกว่ามั่นใจในคนหนุ่มคนนี้ (1 ทธ.4:11-16) เปาโลบอกว่าทิโมธีได้รับการวางรากฐานในพระวจนะตั้งแต่เด็ก (2 ทธ.3:15) ทิโมธีเจอผู้ที่สงสัยเช่นเดียวกับเปาโล แต่ชายทั้งสองก็ยังดำเนินชีวิตเหมือนกับที่พวกเขาเชื่อว่าพระวจนะทุกตอนคือ “ลมหายใจของพระเจ้า” พวกเขายอมรับว่าพระวจนะ “เป็นประโยชน์ในการสอน การตักเตือนว่ากล่าว การปรับปรุงแก้ไขคนให้ดี และการอบรมในทางธรรม เพื่อคนของพระเจ้าจะพรักพร้อมที่จะกระทำการดีทุกอย่าง” (ข้อ 16-17)

เมื่อเราสะสมพระปัญญาของพระเจ้าไว้ในใจ ความจริงและความรักของพระองค์จะหลั่งไหลออกมาในคำพูดของเราอย่างเป็นธรรมชาติ เราสามารถเป็นพระคัมภีร์เดินได้ที่แบ่งปันความหวังนิรันดร์ของพระเจ้าในทุกที่ที่เราไป

อยู่เพื่อรับใช้

หลังจากเชลซีวัยสิบขวบได้รับชุดอุปกรณ์ศิลปะที่ประณีต เธอค้นพบว่าพระเจ้าทรงใช้ศิลปะเพื่อช่วยให้เธอรู้สึกดีขึ้นเมื่อเธอเศร้า และเมื่อรู้ว่ามีเด็กบางคนไม่มีอุปกรณ์ศิลปะ เธอต้องการจะช่วยพวกเขา ดังนั้นเมื่อใกล้จะถึงงานวันเกิดของเธอ เธอขอให้เพื่อนๆร่วมบริจาคอุปกรณ์ศิลปะเพื่อเด็กที่ขาดแคลนโดยไม่ต้องเอาของขวัญมาให้เธอ

ต่อมาด้วยความช่วยเหลือของครอบครัว เธอได้ก่อตั้งองค์กรการกุศลเชลซี เธอขอรับบริจาคจากผู้คนมากขึ้นเพื่อที่จะช่วยเด็กได้มากขึ้น ทั้งยังช่วยสอนเกร็ดความรู้ด้านศิลปะให้กับกลุ่มเด็กที่ได้รับบริจาค หลังจากผู้ประกาศข่าวท้องถิ่นได้สัมภาษณ์เชลซี มีคนร่วมบริจาคอุปกรณ์จากทั่วประเทศ ขณะที่องค์กรการกุศลเชลซียังคงส่งอุปกรณ์ศิลปะไปทั่วโลก เด็กสาวผู้นี้กำลังสำแดงถึงการที่พระเจ้าทรงสามารถใช้พวกเราเมื่อเราเต็มใจที่จะมีชีวิตอยู่เพื่อรับใช้ผู้อื่น

ความเห็นอกเห็นใจและเต็มใจที่จะแบ่งปันของเชลซีสะท้อนให้เห็นถึงหัวใจของผู้รับใช้ที่สัตย์ซื่อ อัครทูตเปโตรหนุนใจผู้เชื่อในพระเยซูทุกคนให้เป็นผู้รับใช้ที่สัตย์ซื่อในขณะที่พวกเขา “รักกันฉันพี่น้อง” โดยการแบ่งปันสิ่งที่มีและของประทานที่พระเจ้าทรงประทานให้แก่พวกเขา (1 ปต.4:8-11)

สิ่งเล็กๆที่เราทำด้วยความรักสามารถบันดาลใจผู้อื่นให้แบ่งปันร่วมกับเรา พระเจ้าทรงสามารถรวบรวมผู้สนับสนุนทั้งหลายให้มารับใช้เคียงข้างเรา เมื่อเราพึ่งพาในพระเจ้า เราจะมีชีวิตอยู่เพื่อรับใช้และถวายพระเกียรติที่ทรงสมควรได้รับแด่พระเจ้าของเรา

ไม่ว่าจะนมัสการที่ไหน

อาการปวดหัวรุนแรงจนร่างกายอ่อนเพลียทำให้ฉันไม่ได้ไปร่วมนมัสการกับครอบครัวคริสตจักรที่ฉันอยู่...อีกแล้ว ฉันดูเทศนาออนไลน์ด้วยความเสียใจที่ต้องขาดการนมัสการร่วมกับพี่น้อง ตอนแรกฉันรู้สึกแย่กับคำบ่น เพราะคุณภาพของภาพและเสียงที่ไม่ดีนัก แต่เมื่อเสียงเพลงนมัสการที่คุ้นเคยดังขึ้น น้ำตาฉันไหลขณะที่ร้องเพลงนั้น “โอเจ้าแห่งดวงจิตเป็นนิมิตของข้า ทุกสิ่งไร้ราคาถ้าไม่มีพระองค์ ทรงดำรงในใจทุกคืนวันมั่นคง ตื่นขึ้นหรือนอนลงพระองค์ทรงนำพา” เมื่อมุ่งมองไปที่ของประทานแห่งการทรงสถิตอยู่เสมอของพระเจ้า ฉันก็นมัสการพระองค์ขณะนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น

ขณะที่พระคัมภีร์ยืนยันความสำคัญและความจำเป็นของการนมัสการร่วมกัน (ฮบ.10:25) แต่พระเจ้าไม่ได้ถูกจำกัดไว้แค่ในอาคารคริสตจักร เมื่อพระเยซูพูดกับหญิงชาวสะมาเรียที่บ่อน้ำ พระองค์ทำสวนทางกับทุกสิ่งที่คนคาดหวังในพระเมสสิยาห์ (ยน.4:9) แทนการกล่าวโทษ พระเยซูทรงตรัสความจริงและสำแดงความรักแก่เธอที่ข้างบ่อน้ำนั้น (ข้อ 10) พระองค์สำแดงถึงการที่ทรงรู้จักประชากรของพระองค์อย่างใกล้ชิด (ข้อ 17-18) พระเยซูประกาศการเป็นพระเจ้าโดยตรัสว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์จะเรียกร้องการนมัสการที่แท้จริงจากหัวใจของคน ไม่ใช่จากสถานที่ใดที่หนึ่ง (ข้อ 23-24)

เมื่อเรามุ่งมองว่าพระเจ้าทรงเป็นผู้ใด มองสิ่งที่พระองค์กระทำ และพระสัญญาทั้งสิ้น เราจะชื่นชมยินดีในการทรงสถิตอยู่เสมอของพระองค์ขณะที่เรานมัสการพระองค์กับผู้เชื่อคนอื่นๆ ทั้งที่ห้องนั่งเล่นและทุกหนทุกแห่ง!

พระเจ้ารู้ว่าเรารู้สึก

เซียร์ร่าท่วมท้นไปด้วยความทุกข์ใจที่ลูกชายต้องต่อสู้กับการติดยาเสพติด “ฉันรู้สึกแย่” เธอบอก “เวลาอธิษฐานฉันหยุดร้องไห้ไม่ได้เลย พระเจ้าจะคิดว่าฉันไม่มีความเชื่อไหม”

“ฉันไม่รู้ว่าพระเจ้าทรงคิดอย่างไร” ฉันตอบ “แต่ฉันรู้ว่าพระองค์รับมือกับอารมณ์ที่แท้จริงได้ พระองค์รู้ว่าเรารู้สึกอย่างไร” ฉันอธิษฐานและหลั่งน้ำตากับเซียร์ร่าเมื่อเราวิงวอนขอการปลดปล่อยให้แก่ลูกชายของเธอ

พระคัมภีร์มีตัวอย่างมากมายของคนที่ปล้ำสู้กับพระเจ้าในยามที่ต้องดิ้นรนต่อสู้ ผู้เขียนสดุดี 42 แสดงถึงความปรารถนาที่จะได้สัมผัสกับสันติสุขแห่งการทรงสถิตด้วยฤทธิ์เดชของพระเจ้า ท่านรับรู้ถึงน้ำตาและความกดดันจากความทุกข์ใจที่มีความว้าวุ่นภายในคลี่คลายลงด้วยเสียงสรรเสริญด้วยความวางใจ เมื่อท่านเตือนตนเองถึงความสัตย์ซื่อของพระเจ้า ท่านให้กำลัง “จิตวิญญาณ” ของตนว่า “จงหวังใจในพระเจ้า เพราะข้าพเจ้าจะถวายสดุดีแด่พระองค์อีก ผู้ทรงเป็นความอุปถัมภ์และพระเจ้าของข้าพเจ้า​” (ข้อ 11) ท่านต่อสู้ระหว่างความจริงที่ท่านรู้เกี่ยวกับพระเจ้า และอารมณ์อันท้วมท้นที่ไม่อาจปฏิเสธได้

พระเจ้าทรงสร้างเราตามพระฉายาของพระองค์ให้มีความรู้สึก หยดน้ำตาที่ไหลเพื่อผู้อื่นแสดงถึงความรักและความเมตตา ไม่ใช่การขาดความเชื่อ เราเข้าหาพระเจ้าได้ทั้งที่แผลยังใหม่อยู่หรือกลายเป็นแผลเป็นไปแล้วเพราะพระองค์รู้ว่าเรารู้สึกเช่นไร คำอธิษฐาน ความเงียบ ไม่ว่าจะไร้เสียง มีเสียงสะอื้น หรือด้วยเสียงตะโกนอย่างมั่นใจ ล้วนแสดงว่าเราเชื่อวางใจในพระสัญญาว่าพระองค์จะทรงฟังและดูแลเรา

ตอนจบที่ยิ่งใหญ่

สามีกับลูกชายฉันไล่เปิดทีวีไปทุกช่องเพื่อจะหาหนังดูสักเรื่องและพบว่าหนังที่พวกเขาชอบเริ่มฉายไปหมดแล้ว ในขณะที่พวกเขาสนุกกับการดูฉากจบนั้นการค้นหาก็ได้กลายเป็นเกมไปแล้ว พวกเขาค้นหาหนังที่ชอบได้ถึงแปดเรื่อง ฉันถามด้วยความหงุดหงิดว่าทำไมไม่เลือกหนังที่ดูได้ตั้งแต่ต้น สามีฉันหัวเราะ “ใครบ้างล่ะที่จะไม่ชอบฉากจบดีๆ”

ฉันต้องยอมรับว่าฉันเองก็ตั้งตารอตอนจบของหนังสือหรือภาพยนตร์ที่ชอบเช่นกัน ฉันเคยแม้แต่อ่านพระคัมภีร์ข้ามๆ และสนใจเฉพาะตอนที่ชอบหรือเรื่องที่น่าอ่านและเข้าใจง่าย แต่พระวิญญาณบริสุทธิ์ใช้พระวจนะที่เชื่อถือและประยุกต์ใช้ในชีวิตได้เพื่อเปลี่ยนแปลงเรา และยืนยันว่าเรื่องราวของพระองค์จะจบดีสำหรับผู้ที่เชื่อในพระเยซู

พระคริสต์ประกาศว่าพระองค์ทรงเป็น “อัลฟา​และ​โอ​เม​กา เป็น​เบื้องต้น​และ​เป็น​เบื้อง​ปลาย เป็น​ปฐม​และ​เป็น​อวสาน” (วว.22:13) คนของพระองค์จะได้ชีวิตนิรันดร์เป็นมรดก (ข้อ 14) และเตือนผู้ที่กล้าเพิ่มเติมหรือตัด “คำ​พยากรณ์​ใน​หนังสือ​นี้” (ข้อ 18-19) ออกไป

เราอาจไม่รู้หรือไม่เข้าใจทุกเรื่องในพระคัมภีร์ แต่เรารู้ว่าพระเยซูจะเสด็จมาอีกครั้ง พระองค์จะทรงรักษาพระสัญญา พระองค์จะลบล้างความบาป แก้ไขสิ่งผิดให้ถูกต้อง สร้างสิ่งสารพัดขึ้นใหม่ และปกครองในฐานะองค์กษัตราผู้ทรงรักของเราตลอดไป นี่คือตอนจบที่ยิ่งใหญ่ซึ่งนำไปสู่การเริ่มต้นใหม่ของเรา!

เข้าถึงได้ทุกคน

จากสะพานที่มนุษย์สร้างขึ้นบนเกาะเล็กๆในทะเลแคริบเบียนที่ชื่อ อิลิวเทรานักท่องเที่ยวสามารถชื่นชมความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงระหว่างกระแสน้ำเชี่ยวสีน้ำเงินเข้มของมหาสมุทรแอตแลนติก และท้องน้ำเงียบสงบสีเขียวอมฟ้าของทะเลแคริบเบียน เมื่อกาลเวลาผ่านไป พายุได้พัดทำลายแผ่นดินเดิมที่เคยโดดเด่นด้วยซุ้มหินธรรมชาติ สะพานกระจกที่ปัจจุบันทำหน้าที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวบนอิลิวเทราเป็นที่รู้จักว่าเป็น “แผ่นดินที่แคบที่สุดในโลก”

พระคัมภีร์ได้บรรยายถึงถนนที่นำไปสู่ชีวิตนิรันดร์ว่าเป็นทางแคบและ “ผู้ที่หาพบก็มีน้อย” (มธ.7:14) ประตูก็เล็กเพราะองค์พระบุตรเป็นเพียงสะพานเดียวที่สามารถทำให้มนุษย์ที่ตกอยู่ในความบาปคืนดีกับพระเจ้าพระบิดาโดยฤทธิ์อำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ (ข้อ 13-14; ดู ยน.10:7-9; 16:13) อย่างไรก็ตาม พระคัมภีร์ยังบอกอีกว่าผู้เชื่อทุกคนจากทุกชาติและทุกชนชั้นสามารถเข้าสู่สวรรค์ และจะก้มกราบกษัตริย์เหนือกษัตริย์และนมัสการพระองค์ร่วมกันรอบพระบัลลังก์ของพระองค์ (วว.5:9) เป็นภาพอันมหัศจรรย์ของความแตกต่างและการรวมเป็นหนึ่งของประชากรของพระเจ้าที่มีความหลากหลายอันงดงาม

แม้ว่าเราต้องถูกแยกจากพระเจ้าเพราะความบาปของเรา แต่มนุษย์ทุกคนที่พระเจ้าทรงสร้างได้รับเชิญให้เข้าสู่ชีวิตนิรันดร์บนสวรรค์ โดยการเดินบนทางแคบแห่งการคืนดีผ่านทางความสัมพันธ์ส่วนตัวกับองค์พระคริสต์ การสละพระชนม์บนไม้กางเขน การฟื้นขึ้นจากความตาย และการเสด็จสู่สวรรค์เป็นข่าวดีที่ทุกคนเข้าถึงได้ และมีค่าควรที่เราจะแบ่งปันกับผู้อื่นในวันนี้และทุกๆวัน

ชีวิตล้ำค่าในพระคริสต์

ฉันน้ำตาไหลอาบแก้มตอนที่ลนลานหาแหวนแต่งงานและแหวนครบรอบแต่งงานที่หายไป หลังจากหนึ่งชั่วโมงของการยกเบาะโซฟาและค้นทุกซอกหลืบในบ้าน อลันก็พูดขึ้นว่า “ผมเสียใจ แต่เราจะหาแหวนมาแทน”

“ขอบคุณค่ะ” ฉันตอบ “แต่พวกมันมีคุณค่าทางใจมากกว่ามูลค่าทางวัตถุ ไม่มีอะไรจะมาแทนได้” ฉันอธิษฐานในขณะที่ยังคงค้นหาเครื่องประดับต่อ “พระองค์เจ้าข้า โปรดช่วยให้ฉันหามันพบด้วยเถิด”

ต่อมาในขณะที่ล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อกันหนาวที่สวมเมื่อตอนต้นสัปดาห์ ฉันก็เจออัญมณีล้ำค่า “ขอบคุณพระเยซู!” ฉันอุทาน ขณะที่ฉันกับสามีกำลังยินดี ฉันก็สวมแหวนและระลึกถึงคำอุปมาของหญิงที่ทำเหรียญหาย (ลก.15:8-10) เช่นเดียวกับหญิงที่หาเหรียญเงินที่หายไป ฉันได้รู้ถึงคุณค่าของสิ่งที่สูญหายพวกเราทั้งคู่ไม่มีใครผิดที่ต้องการตามหาของมีค่าของเรา พระเยซูทรงใช้เรื่องนั้นเพื่อเน้นถึงความปรารถนาที่จะทรงช่วยมนุษย์ทุกคนที่พระองค์ทรงสร้างคนบาปคนเดียวที่กลับใจนั้นส่งผลให้เกิดความปรีดีในสวรรค์

การได้เป็นผู้ที่อธิษฐานเผื่อผู้อื่นอย่างร้อนรนเหมือนตอนที่เราอธิษฐานขอให้เจอของล้ำค่าที่หายไปนั้น ถือเป็นของขวัญอันยิ่งใหญ่ นับเป็นสิทธิพิเศษที่ได้เฉลิมฉลองเมื่อมีคนกลับใจและยอมมอบชีวิตของพวกเขาแด่พระคริสต์ หากเราวางใจในพระเยซู เราสามารถขอบพระคุณสำหรับประสบการณ์แห่งความยินดีที่ได้เป็นที่รักของพระองค์ผู้ไม่เคยล้มเลิกที่จะตามหาเรา เพราะพระองค์ทรงถือว่าเรามีคุณค่ามากพอ

โกหกด้วยความจริง

ฉันวางพระคัมภีร์บนธรรมาสน์และมองไปยังใบหน้าที่ตั้งใจรอให้ฉันเริ่มพูด ฉันอธิษฐานและเตรียมตัวมาแล้ว แต่ทำไมจึงพูดไม่ออก

เธอมันไร้ค่า ไม่มีใครฟังเธอหรอกโดยเฉพาะถ้าพวกเขารู้อดีตของเธอ และพระเจ้าไม่มีวันจะใช้เธอ คำพูดเหล่านี้เสียดแทงเข้ามาในใจและความคิดของฉัน โดยมาในหลายรูปแบบ จุดชนวนสงครามแห่งคำโกหกในชีวิตที่ฉันเชื่ออย่างง่ายดายมานานนับสิบปี แม้จะรู้ว่าคำพูดเหล่านั้นไม่จริง แต่ฉันก็ไม่สามารถหนีจากความไม่มั่นคงและความกลัวนี้ได้ ฉันจึงเปิดพระคัมภีร์

ฉันเปิดสุภาษิต 30:5 หายใจเข้าและออกช้าๆก่อนอ่านออกเสียง “พระวจนะทุกคำของพระเจ้านั้นพิสูจน์เห็นจริงแล้ว พระองค์ทรงเป็นโล่แก่บรรดาผู้ลี้ภัยอยู่ในพระองค์” ฉันหลับตาลงขณะที่สันติสุขท่วมท้นเข้ามา และฉันจึงเริ่มเป็นพยานกับที่ประชุม

พวกเราหลายคนเคยมีประสบการณ์กับคำพูดหรือความคิดแง่ลบที่ผู้อื่นมีต่อเราซึ่งมีอำนาจทำให้เราอ่อนแรง แต่พระวจนะของพระเจ้านั้น “พิสูจน์เห็นจริงแล้ว” สมบูรณ์และเที่ยงแท้ เมื่อเราถูกล่อลวงให้เชื่อความคิดที่ทำลายจิตวิญญาณในเรื่องของคุณค่าและเป้าหมายที่เรามีในฐานะบุตรของพระเจ้า ความจริงที่คงทนและไม่ผิดพลาดของพระเจ้าจะปกป้องความคิดและจิตใจของเรา เราสามารถพูดตามผู้เขียนพระธรรมสดุดีได้ว่า “เมื่อข้าพระองค์คิดถึงกฎหมายของพระองค์แต่โบราณกาล ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์ได้รับความเล้าโลมใจ” (สดด.119:52)

ให้เราต่อสู้คำโกหกที่เรารับมาทั้งในเรื่องที่เกี่ยวกับพระเจ้า ตัวเราและผู้อื่น โดยการแทนที่คำพูดในแง่ลบนั้นด้วยพระวจนะ

มรดกแห่งความกรุณา

มาร์ธาทำงานเป็นผู้ช่วยครูที่โรงเรียนประถมมากว่าสามสิบปี ทุกปีเธอจะเก็บเงินเพื่อซื้อเสื้อโค้ท ผ้าพันคอ และถุงมือใหม่ๆให้เด็กที่ขาดแคลน หลังจากที่เธอพ่ายแพ้ให้กับโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว พวกเราได้จัดการนมัสการเพื่อเฉลิมฉลองและระลึกถึงชีวิตของเธอ แทนการมอบดอกไม้ ผู้คนต่างบริจาคเสื้อโค้ทใหม่หลายร้อยตัวเพื่อมอบให้กับเด็กนักเรียนที่เธอรักและรับใช้มาหลายสิบปี หลายคนได้แบ่งปันเรื่องราวและวิธีมากมายที่มาร์ธาหนุนใจคนอื่นด้วยคำพูดที่เมตตาและการกระทำที่สำแดงความห่วงใย เพื่อนครูต่างยกย่องและระลึกถึงเธอด้วยการจัดระดมทุนเพื่อบริจาคเสื้อโค้ทติดต่อกันถึงสามปีหลังจากเธอเสียชีวิต มรดกแห่งความกรุณาของเธอยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นๆรับใช้ผู้ยากไร้ด้วยใจกว้างขวาง

ในพระธรรมกิจการบทที่ 9 อัครทูตลูกาได้เล่าเรื่องราวของโดรคัส หญิงผู้ “กระทำการอันเป็นคุณประโยชน์และให้ทานมามากแล้ว” (ข้อ 36) หลังจากที่เธอป่วยและเสียชีวิต บรรดาผู้โศกเศร้าได้ขอให้เปโตรมาเยี่ยม กลุ่มหญิงม่ายได้พาเปโตรไปดูชีวิตการรับใช้ของโดรคัส (ข้อ 39) ด้วยความรักอันอัศจรรย์ของพระเจ้า เปโตรได้ทำให้โดรคัสกลับมีชีวิตอีกครั้ง ข่าวการฟื้นจากความตายของโดรคัสได้แพร่ออกไป และ “คนเป็นอันมากพากันมาเชื่อถือองค์พระผู้เป็นเจ้า” (ข้อ 42) แต่เป็นเพราะความทุ่มเท และลงมือปฏิบัติรับใช้ผู้อื่นของโดรคัสที่สามารถแตะต้องจิตใจผู้คนในชุมชนของเธอ และเผยให้เห็นพลังแห่งความมีน้ำใจที่เปี่ยมด้วยความรัก

เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไป นั่นเป็นการแสดงว่าท่านยอมรับ นโยบายการใช้คุกกี้ของเรา