น้ำตาลหนึ่งช้อน
แมรี่ ป็อบปิน อยู่ที่ไหนเมื่อเราอยากเจอเธอ? ฟังดูเหมือนกับฉันกำลังหวนคิดถึง วันเก่าๆในหนังสนุกๆที่ไม่อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง มีตัวละครเป็นพี่เลี้ยงเด็กชื่อแมรี่ ป๊อบปิน แต่แท้จริงแล้วสิ่งที่ฉันต้องการคือคนที่มองการณ์ไกลและมองโลกในแง่ดีบนพื้นฐานของความเป็นจริง ฉันต้องการคนที่ร่าเริงแจ่มใส มีความคิดสร้างสรรค์ที่สามารถชี้ให้เราเห็นแง่บวกของสิ่งที่เรากำลังเห็นเป็นแง่ลบ คนที่สามารถเตือนเราได้ว่า “น้ำตาลหนึ่งช้อนช่วยให้กลืนยาได้ง่าย”
เลือกชีวิต
อะไรคือน้ำพระทัยพระเจ้าสำหรับชีวิตฉัน? คำถามนี้ตามหลอกหลอนตลอดมาตั้งแต่เด็ก แล้วถ้าฉันหาไม่พบ หรือถ้าฉันไม่รู้ล่ะ น้ำพระทัยของพระเจ้าเป็นเหมือนเข็มในกองฟาง ถูกซ่อนไว้ อาจดูเหมือนใช่ มีอยู่มากมายแต่ไม่ใช่ของแท้
น้ำดื่มบรรจุขวด
ที่สหรัฐอเมริกา เราอยู่ในกระแสนิยมของการบริโภคน้ำดื่มบรรจุขวดมาหลายปี แม้คนส่วนใหญ่จะสามารถหาน้ำสะอาดดื่มได้ฟรี จากก๊อกและเครื่องกดน้ำ แต่พวกเขาก็ยังคง ซื้อน้ำบรรจุขวด การเลือกที่จะจ่ายเงินซื้อสิ่ง ที่ฉันสามารถหาได้โดยไม่เสียสตางค์นั้นฟังดู ไม่เข้าท่าสำหรับฉัน แต่บางคนก็เชื่อว่าสินค้า ที่พวกเขาเสียเงินซื้อย่อมดีกว่าอะไรก็ตามที่ พวกเขาได้มาฟรี
ท่ามกลางความวุ่นวาย
ทุกสิ่งที่ฉันเห็น ทำให้ฉันเชื่อว่า คำกล่าวที่ว่า “ความเป็นระเบียบไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ” เป็นความจริง เมื่อมองดูห้องทำงานของตัวเอง ฉันตะลึงที่ไม่นานก็รกและ ต้องใช้เวลานานมาก กว่าจะจัดให้เข้าที่ได้ ความเป็นระเบียบต้องอาศัยการลงมือ และไม่สามารถเกิดขึ้นเองได้ตามธรรมชาติ
จ๊ะเอ๋!
การแกล้งให้ตกใจกลัว เป็นการเล่นอย่างแรกๆที่พ่อแม่มักเล่นกับลูก พ่อจะเอามือปิดหน้า แล้วเปิดออกอย่างรวดเร็วและพูดว่า “จ๊ะเอ๋!” เด็กน้อยจะหัวเราะคิกคักกับการเล่นแบบนี้
จงพิจารณาดอกไม้ที่ทุ่งนา
ฉันชอบธรรมชาติและชอบสรรเสริญพระเจ้าผู้สร้างสรรพสิ่ง แต่บางครั้งฉันก็รู้สึกผิดที่ชื่นชมมันมากเกินไป แล้วฉันก็นึกได้ว่าพระเยซูทรงใช้ธรรมชาติเป็นสื่อในการสอน พระองค์ทรงตรัสถึงดอกไม้เพื่อหนุนใจไม่ให้วิตกกังวล ว่า “จงพิจารณาดอกไม้ที่ทุ่งนา” จากนั้นทรงย้ำว่าแม้ดอกไม้จะไม่ทำงาน แต่พระเจ้ายังทรงตกแต่งมันอย่างสวยงาม บทสรุปของพระองค์ก็คือ ถ้าพระเจ้าทรงตกแต่งสิ่งที่คงอยู่ชั่วคราวให้มีสง่าราศีได้ถึงเพียงนี้ พระองค์ย่อมจะทรงตกแต่งเรามากยิ่งกว่านั้น (มัทธิว 6:28-34)
ฝึกฟัง
มีคนพูดว่า “พระเจ้าให้เรามีหูสองข้าง แต่มีปากเดียวเพราะมีจุดประสงค์บางอย่าง”ความสามารถในการฟังเป็นทักษะชีวิตที่สำคัญผู้ให้คำปรึกษาบอกให้เราฟังซึ่งกันและกัน ผู้นำฝ่ายวิญญาณบอกให้เราฟังพระเจ้า แต่แทบจะไม่มีใครบอกให้เรา “ฟังเสียงของตัวเอง” ฉันไม่ได้กำลังกล่าวเป็นนัยว่า เรามีเสียงภายในที่พูดถูกเสมอ หรือกำลังบอกว่า เราควรฟังเสียงตัวเอง แทนที่จะฟังเสียงพระเจ้าและคนอื่นๆ แต่ฉันกำลังบอกว่าเราจำเป็นต้องฟังสิ่งที่ตนเองพูดเพื่อจะรู้ว่าคนอื่นรู้สึกอย่างไรกับคำพูดของเรา
ตัดสินใจแก้ไข
นับตั้งแต่ปี 1975 เป็นต้นมา ฉันไม่เคยตั้งรายการสิ่งที่อยากทำ เมื่อปีใหม่มาถึงเพราะฉันยังทำรายการของปีก่อนไม่สำเร็จเลยเช่น เขียนบันทึกสั้นๆ อย่างน้อยวันละหนึ่งเรื่องในสมุดบันทึกประจำวัน ตั้งใจอ่านพระคัมภีร์และอธิษฐานทุกวัน จัดตารางเวลาให้ดี จัดห้องนอนให้สะอาด (ซึ่งเป็นรายการตั้งแต่ก่อนที่ฉันจะมีบ้านทั้งหลังให้ดูแล)
ดีกว่าที่คิดไว้
การหยุดชะงักเกิดขึ้นได้เสมอ ทุกอย่างมักไม่ค่อยจะเป็นไปตามที่เราวางแผนไว้ในแต่ละวัน