พร้อมเปลี่ยนแปลง?
การรู้จักบังคับตนอาจเป็นเรื่องที่ทำได้ยากที่สุดเรื่องหนึ่ง กี่ครั้งแล้วที่เราต้องพ่ายแพ้ต่อนิสัยไม่ดีของตัวเอง ทัศนคติที่แย่ หรือแนวความคิดผิดๆ เราสัญญาว่าจะปรับปรุงตัว เราขอให้คนอื่นช่วยเตือนเรา แต่ลึกๆ ในใจเราก็รู้ว่า เราไม่มีความตั้งใจหรือความสามารถที่จะเปลี่ยนแปลง เราพูดได้ วางแผนได้ อ่านหนังสือที่สอนวิธีแก้ปัญหาได้ แต่การเอาชนะและควบคุมตัวเองยังคงเป็นเรื่องที่ยากเย็นสำหรับเรา
ไม่ยอมแพ้!
โยป ซูตะเมลค์ได้ชื่อว่านักปั่นจักรยานที่ประสบความสำเร็จที่สุดของเนเธอร์แลนด์ นั่นเป็นเพราะเขาไม่เคยยอมแพ้ เขาร่วมการแข่งขันตูร์เดอฟรองซ์ 16 ครั้ง ได้ที่สองถึงห้าครั้งก่อนจะชนะในปี 1980 นี่คือความอดทนนาน
สิ่งที่เราควรใส่ใจ
เปาโลก็เจอแรงกดดันมาไม่น้อย คริสเตียนชาวยิวบางคนเชื่อว่า คนต่างชาติต้องเข้าสุหนัตจึงจะรอด (กาลาเทีย 1:7; 6:12-15) แต่เปาโลยืนหยัดในความเชื่อของท่าน โดยสั่งสอนว่าความรอดมาจากพระคุณทางความเชื่อเท่านั้น ไม่ต้องทำสิ่งใดเพิ่มอีก เหตุนี้ทำให้เปาโลถูกกล่าวหาว่าตั้งตัวเองเป็นอัครทูต และพระกิตติคุณของท่านไม่เคยมีอัครทูตคนใดรับรอง (กาลาเทีย 2:1-10)
แต่แม้จะมีแรงกดดัน เปาโลก็ชัดเจนว่าท่านรับใช้พระคริสต์ เป้าหมายของท่านไม่ใช่การได้แสวงหาการยอมรับจากมนุษย์ แต่จากพระเจ้า (กาลาเทีย 1:10)
เราเองก็เป็นผู้รับใช้ของพระคริสต์ เรารับใช้พระเจ้า ไม่ว่าคนอื่นจะให้เกียรติหรือรังเกียจ ใส่ร้ายหรือสรรเสริญ วันหนึ่ง “เราทุกคนจะต้องทูลเรื่องราวของตัวเองต่อพระเจ้า” (โรม 14:12) ไม่ได้หมายความว่าเราไม่ต้องสนใจคนอื่น แต่สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเราคือการทำให้พระเจ้าพอพระทัย เราอยากได้ยินพระผู้ช่วยให้รอดตรัสว่า “ดีแล้ว เจ้าเป็นทาสดีและสัตย์ซื่อ” (มัทธิว 25:23)
ทรงฝึกมือข้าพระองค์
เมื่อเดวิด วู้ด อดีตนักกีฬาเอ็นบีเอเล่นในทีมโตเกรอ เดอ บาสโกเนีย ผมอยู่ด้วยในนัดชิงชนะเลิศสแปนิชบาสเก็ตบอลคัพ ก่อนการแข่งครั้งหนึ่ง เขาอ่านสดุดี 144:1 “สาธุการแด่พระเจ้า พระศิลาของข้าพเจ้า ผู้ทรงฝึกมือของข้าพเจ้าให้ทำสงคราม และนิ้วมือของข้าพเจ้าให้ทำศึก” เขาบอกผมว่า “เหมือนพระเจ้าเขียนข้อนี้มาเพื่อผม พระองค์ทรงฝึกมือให้คว้าลูกและฝึกนิ้วของผมให้ชู้ต” เดวิดรู้สึกว่าพระเจ้าทรงเรียกให้เขาเล่นบาสเก็ตบอลและได้เรียนรู้ว่าพระเจ้าทรงรับเราอย่างที่เราเป็นและช่วยให้เราทำสิ่งที่พระองค์ทรงเรียกให้ทำได้
เราอาจรู้สึกและสรุปง่ายๆ ว่าเราไม่มีอะไรให้พระเจ้าใช้ได้เลย เมื่อพระเจ้าปรากฏต่อโมเสสและให้ท่านไปบอกชนอิสราเอลว่า จะทรงปลดปล่อยพวกเขาจากอียิปต์ (อพยพ 3:16-17) ท่านรู้สึกว่าไม่มีความสามารถ จึงทูลพระเจ้าว่า “ข้าพระองค์มิใช่คนช่างพูด...เป็นคนพูดไม่คล่องแคล่ว” (อพยพ 4:10) ท่านอาจพูดไม่เก่งหรือกลัว แต่พระเจ้าทรงแทนที่ความขาดแคลนนั้นด้วยความเพียงพอจากพระองค์ พระเจ้าตรัสว่า “ไปเถิดเราจะอยู่ที่ปากของเจ้า และจะสอนคำซึ่งควรจะพูด” (อพยพ 4:12)
พระเจ้าทรงต้องการเพียงให้เราเดินตามแผนการของพระองค์ พระองค์จะทรงทำส่วนที่เหลือ คุณจึงเป็นพระพรแก่ผู้อื่นได้ในพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ของพระองค์