หน้ากากพระพร
เมื่อมีการผ่อนคลายข้อกำหนดของการสวมหน้ากากอนามัยในช่วงการแพร่ระบาดลง ฉันมีปัญหาที่มักจะลืมเก็บหน้ากากไว้ใกล้มือสำหรับในที่ที่ยังต้องใช้อยู่ เช่น ที่โรงเรียนของลูกสาว วันหนึ่งเมื่อฉันต้องใช้หน้ากาก ฉันพบเพียงอันเดียวในรถ ซึ่งเป็นอันที่ฉันเลี่ยงไม่สวมเพราะมีคำว่า พระพร เขียนคาดไว้ด้านหน้า
ฉันชอบสวมหน้ากากที่ไม่มีข้อความ และเชื่อว่าคำนั้นบนหน้ากากที่ฉันเจอมีการใช้กันมากเกินไป แต่ฉันไม่มีทางเลือกจึงสวมหน้ากากอย่างไม่เต็มใจ และเมื่อฉันเกือบจะแสดงความรำคาญต่อพนักงานต้อนรับคนใหม่ที่โรงเรียน ฉันยั้งตัวเองไว้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะคำพูดบนหน้ากากของฉัน ฉันไม่ต้องการดูเหมือนเป็นคนหน้าซื่อใจคด เดินไปทั่วโดยมีคำว่า พระพร เขียนหวัดๆไว้ที่ปาก ขณะเดียวกันก็แสดงความไม่อดกลั้นใจต่อคนที่พยายามทำงานกับระบบที่ซับซ้อน
แม้ตัวหนังสือบนหน้ากากเตือนฉันให้นึกถึงการเป็นพยานเพื่อพระคริสต์ แต่ถ้อยคำในพระคัมภีร์ที่อยู่ในใจของฉันควรเป็นเครื่องเตือนใจที่แท้จริงให้อดกลั้นใจต่อผู้อื่น ตามที่เปาโลเขียนถึงชาวโครินธ์ว่า “ท่านปรากฏเป็นหนังสือของพระคริสต์...ได้เขียนไว้มิใช่ด้วยน้ำหมึก แต่ด้วยพระวิญญาณของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์ และมิได้เขียนไว้ที่แผ่นศิลา แต่เขียนไว้ที่แผ่นดวงใจมนุษย์” (2คร.3:3) พระวิญญาณบริสุทธิ์ผู้ “ประทานชีวิต” (ข้อ 6) ทรงช่วยให้เราดำเนินชีวิตด้วย “ความรัก ความปลาบปลื้มใจ สันติสุข” และใช่แล้ว “ความอดกลั้นใจ” (กท.5:22) เราได้รับ พระพร อย่างแท้จริงจากการทรงสถิตของพระองค์ภายในเรา!
รู้จักพระเจ้า
เมื่อไปเยือนไอร์แลนด์ ฉันรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับการประดับตกแต่งไปทั่วด้วยใบแชมร็อกซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติ พืชไม้ดอกที่มีกลีบใบสีเขียวเล็กๆสามกลีบพบเห็นได้ในร้านค้าทุกแห่ง บนข้าวของทุกอย่าง เสื้อผ้า หมวก เครื่องประดับและอื่นๆ!
ยิ่งกว่าการเป็นพืชไม้ดอกที่แพร่หลายทั่วไอร์แลนด์ ใบแชมร็อกนั้นได้รับการยอมรับมาหลายยุคสมัยว่าเป็นรูปแบบง่ายๆในการอธิบายถึงตรีเอกานุภาพ ซึ่งเป็นหลักข้อเชื่อสำคัญของคริสเตียนในประวัติศาสตร์ ที่ว่าพระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าองค์เดียว ผู้ทรงดำรงอยู่ชั่วนิรันดร์โดยทรงปรากฏในสามบุคคลที่แยกจากกัน คือพระเจ้าพระบิดา พระเจ้าพระบุตรและพระเจ้าพระวิญญาณบริสุทธิ์ ขณะที่คำอธิบายทั้งหมดของมนุษย์เกี่ยวกับตรีเอกานุภาพนั้นไม่สมบูรณ์ แต่ใบแชมร็อกก็เป็นสัญลักษณ์ที่ช่วยให้เข้าใจ เพราะมันเป็นพืชใบหนึ่งสายพันธุ์ที่เกิดจากลำต้นเดียวกัน โดยมีกลีบใบแยกจากกันสามกลีบ
คำว่า ตรีเอกานุภาพ ไม่มีในพระคัมภีร์ แต่เป็นการสรุปความจริงทางศาสนศาสตร์ที่เราเห็นอย่างชัดเจนในพระวจนะตอนต่างๆเมื่อมีบุคคลทั้งสามในตรีเอกานุภาพปรากฏในเวลาเดียวกัน ขณะที่พระเยซูพระบุตรของพระเจ้ารับบัพติศมา จะเห็นพระเจ้าพระวิญญาณเสด็จลงมาจากฟ้าสวรรค์ “ดุจนกพิราบ” แล้วได้ยินพระสุรเสียงของพระเจ้าพระบิดาว่า “ท่านเป็นบุตรที่รักของเรา” (มก.1:10-11)
ชาวไอริชที่เชื่อในพระเยซูใช้ใบแชมร็อกเพราะต้องการช่วยให้ผู้คนรู้จักพระเจ้า เมื่อเราเข้าใจความงดงามของตรีเอกานุภาพอย่างถ่องแท้มากขึ้น ก็จะช่วยให้เรารู้จักพระเจ้าและนมัสการพระองค์ได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น “ด้วยจิตวิญญาณและความจริง” (ยน.4:24)
มหากาพย์ของพระเจ้า
นิตยสารไลฟ์ฉบับประจำวันที่ 12 กรกฎาคม ค.ศ.1968 ได้ลงภาพปกอันน่าสะเทือนใจของเด็กๆที่อดอยากในสาธารณรัฐไบอาฟรา (แยกตัวจากไนจีเรียในระหว่างสงครามกลางเมือง) เด็กชายคนหนึ่งรู้สึกทุกข์ใจ เขายื่นนิตยสารฉบับนั้นแก่ศิษยาภิบาลแล้วถามว่า “พระเจ้ารู้เรื่องนี้ไหมครับ” ศิษยาภิบาลตอบ “ฉันรู้ว่าเธอไม่เข้าใจ แต่พระเจ้ารู้เรื่องนั้นแน่นอน” เด็กชายจากไปโดยประกาศว่าเขาไม่สนใจพระเจ้าแบบนี้
คำถามเหล่านี้ไม่เพียงรบกวนจิตใจเด็กๆเท่านั้น แต่เราทุกคนด้วย นอกเหนือจากคำยืนยันถึงความรู้อันล้ำลึกของพระเจ้านั้น ผมหวังว่าเด็กชายคนนั้นจะเคยได้ยินถึงเรื่องราวมหากาพย์ที่พระเจ้ายังทรงเขียนขึ้นอยู่อย่างต่อเนื่อง แม้ในสถานที่ที่เป็นเหมือนกับอดีตสาธารณรัฐไบอาฟราแห่งนี้
พระเยซูได้เปิดเผยเรื่องราวนี้แก่ผู้ติดตามของพระองค์ ซึ่งคิดว่าพระองค์จะทรงปกป้องพวกเขาจากความทุกข์ยาก พระคริสต์กลับตรัสว่า “ในโลกนี้ท่านจะประสบความทุกข์ยาก” แต่สิ่งที่พระเยซูประทานให้คือพระสัญญาของพระองค์ที่ว่าความชั่วร้ายเหล่านี้ไม่ใช่จุดจบ แท้ที่จริงพระองค์ “ได้ชนะโลกแล้ว” (ยน.16:33) และในบทสรุปสุดท้ายของพระเจ้า ความอยุติธรรมทั้งสิ้นจะถูกทำลายล้าง ความทุกข์ยากทั้งปวงจะได้รับการเยียวยา
พระธรรมปฐมกาลถึงวิวรณ์เล่าเรื่องราวที่พระเจ้าทำลายความชั่วร้ายทั้งปวงที่เกินจะจินตนาการได้ ทรงเปลี่ยนทุกสิ่งที่ผิดพลาดให้ถูกต้อง เรื่องราวนี้บรรยายถึงพระองค์ผู้เปี่ยมด้วยความรักผู้ซึ่งทรงสนพระทัยในเราอย่างไม่ต้องสงสัย พระเยซูบอกเหล่าสาวกว่า “เราได้บอกเรื่องนี้แก่ท่าน เพื่อท่านจะได้มีสันติสุขในเรา” (ข้อ 33) วันนี้ขอให้เราพักสงบในสันติสุขและการทรงสถิตของพระองค์