นักบำบัดต้นไม้
บางคนเรียกเขาว่า “นักบำบัดต้นไม้” ในความเป็นจริง โทนี่ ริเนาโด้เป็นเจ้าหน้าที่ขยายพันธุ์ต้นไม้ของมูลนิธิศุภนิมิตออสเตรเลีย เขาเป็นมิชชันนารีและนักปฐพีวิทยาที่ทุ่มเทความพยายามในการประกาศเรื่องราวของพระเยซูโดยต้องต่อสู้กับการทำลายป่าในเขตรอยต่อซาเฮลของแอฟริกาซึ่งอยู่ทางใต้ของทะเลทรายซาฮาร่า
เขาตระหนักว่า “พุ่มไม้” ที่แคระแกรนนั้นจริงๆแล้วเป็นต้นไม้ที่มีศักยภาพ ริเนาโด้จึงเริ่มดูแลตัดแต่งและรดน้ำ งานของเขาได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับเกษตรกรนับแสนที่จะฟื้นฟูสภาพป่าและปรับปรุงดินที่เสื่อมสภาพ ตัวอย่างเช่น เกษตรกรในประเทศไนเจอร์สามารถเพิ่มผลผลิตและรายได้สองเท่า และเลี้ยงดูประชากรเพิ่มขึ้น 2.5 ล้านคนต่อปี
ในยอห์น 15 พระเยซูองค์พระผู้สร้างการเกษตร ทรงพูดถึงกลวิธีในด้านการเกษตรที่คล้ายคลึงเมื่อตรัสว่า “เราเป็นเถาองุ่นแท้ และพระบิดาของเราทรงเป็นผู้ดูแลรักษา แขนงทุกแขนงที่ไม่ออกผล พระองค์ก็ทรงตัดทิ้งเสีย และแขนงทุกแขนงที่ออกผล พระองค์ก็ทรงลิดเพื่อให้ออกผลมากขึ้น” (ข้อ 1-2)
หากปราศจากการดูแลของพระเจ้าในแต่ละวัน วิญญาณของเราก็เหี่ยวเฉาและไม่สามารถเกิดผล เมื่อเรายินดีในกฎบัญญัติของพระเจ้าและใคร่ครวญในบัญญัตินั้นทั้งวันและคืน เราจะเป็น “เช่นต้นไม้ที่ปลูกไว้ริมธารน้ำ” (สดด.1:3) ใบของเราจะ “ไม่เหี่ยวแห้ง” และ “การทุกอย่างซึ่ง(เรา)กระทำก็จำเริญขึ้น” (ข้อ 3) ให้เรารับการตัดแต่งและหยั่งรากในพระองค์ เราจะเขียวชอุ่ม ได้รับการฟื้นฟูและเกิดผล
พระเจ้าทรงได้ยินทุกสิ่ง
หนึ่งในความล่าช้าที่สุดของการส่งไปรษณีย์ที่มีบันทึกไว้ใช้เวลายาวนานถึง 89 ปี ในปี 2008 เจ้าของบ้านในประเทศอังกฤษได้รับบัตรเชิญงานเลี้ยงซึ่งถูกส่งมาให้กับเจ้าของบ้านคนก่อนตั้งแต่ปี 1919 บัตรเชิญถูกส่งตรงจากไปรษณีย์ของราชวงศ์มาถึงตู้จดหมาย แต่สาเหตุของความล่าช้ายังคงเป็นปริศนา
แม้แต่ความพยายามในการสื่อสารที่ดีที่สุดของมนุษย์ยังทำให้เราผิดหวังได้ในบางครั้ง แต่พระคัมภีร์บอกเราอย่างชัดเจนว่าพระเจ้าไม่เคยพลาดที่จะได้ยินประชากรผู้สัตย์ซื่อของพระองค์ ใน 1 พงศ์กษัตริย์ 18 เอลียาห์แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างที่น่าตื่นตะลึงระหว่างพระบาอัลกับพระเยโฮวาห์ ในการเผชิญหน้าเพื่อสำแดงว่าใครคือพระเจ้าผู้เที่ยงแท้ หลังจากผู้เผยพระวจนะของพระบาอัลสวดอ้อนวอนหลายชั่วโมง เอลียาห์เยาะเย้ยพวกเขาว่า “ร้องให้ดังๆซี เพราะท่านเป็นพระเจ้าองค์หนึ่ง ท่านกำลังติดธุระอยู่ หรือท่านกำลังไปทุ่ง หรือท่านไปเที่ยว หรือชะรอยท่านกำลังหลับอยู่และจะต้องปลุก” (ข้อ 27) แล้วเอลียาห์ก็อธิษฐานขอให้พระเยโฮวาห์ทรงตอบเพื่อประชากรของพระองค์จะกลับมีความเชื่อ และฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าได้สำแดงให้เห็นอย่างชัดเจน
ขณะที่คำอธิษฐานของเราอาจจะไม่ได้รับคำตอบทันทีเหมือนของเอลียาห์ แต่เรามั่นใจได้ว่าพระเจ้าทรงได้ยิน (สดด.34:17) พระคัมภีร์ย้ำเตือนเราว่าพระองค์ให้ความสำคัญกับคำอธิษฐานของเรามากจนใส่มันไว้ใน “ขันทองคำ” ต่อหน้าพระพักตร์พระองค์เหมือนเครื่องหอม (วว.5:8) พระเจ้าจะทรงตอบทุกคำอธิษฐานตามพระปัญญาและวิธีที่สมบูรณ์แบบของพระองค์ ไม่มีจดหมายฉบับใดหายในแผ่นดินสวรรค์
แค่ทาโก้ชิ้นเดียว
แอชตันและออสติน ซามูเอลสันเรียนจบจากวิทยาลัยคริสเตียนพร้อมด้วยความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะรับใช้พระเยซู แต่ทั้งคู่ไม่รู้สึกว่าทรงเรียกให้รับใช้แบบดั้งเดิมในคริสตจักร แล้วถ้าเป็นพันธกิจในโลกล่ะ ใช่เลย พวกเขาผสมผสานภาระใจที่จะยุติความหิวโหยของเด็กๆเข้ากับทักษะในการบริหารจัดการที่พระเจ้าประทานให้ และในปี 2014 พวกเขาเปิดร้านอาหารที่ให้บริการทาโก้ แต่นี่ไม่ใช่ร้านอาหารทั่วๆไป ซามูเอลสันบริหารร้านด้วยปรัชญาซื้อหนึ่งให้หนึ่งจากอาหารทุกจานที่มีคนซื้อ พวกเขาจะบริจาคเงินเพื่อจัดหาอาหารที่มีส่วนผสมพิเศษเพื่อให้มีสารอาหารที่จำเป็นสำหรับเด็กที่ขาดสารอาหาร จนถึงปัจจุบันพวกเขาบริจาคไปแล้วมากกว่าหกสิบประเทศ เป้าหมายของพวกเขาคือมีส่วนที่จะช่วยยุติความหิวโหยของเด็กๆโดยเริ่มจากทาโก้ทีละชิ้น
คำตรัสของพระเยซูในมัทธิวบทที่ 10 นั้นไม่คลุมเครือ แต่ชัดเจนอย่างน่าประหลาดใจว่า การอุทิศตนพิสูจน์ได้จากการกระทำ ไม่ใช่คำพูด (ข้อ 37-42) หนึ่งในการกระทำนั้นคือการให้กับ “คนเล็กน้อย” สำหรับซามูเอลสัน เป้าหมายของพวกเขาคือให้กับเด็ก แต่สังเกตให้ดีว่าวลี “คนเล็กน้อย” นี้ไม่ได้บ่งบอกอายุ พระเยซูทรงเรียกเราที่จะให้กับใครก็ตามที่เป็น “คนเล็กน้อย” ในมุมมองของโลก คนยากจน คนป่วย นักโทษ ผู้ลี้ภัย ผู้ซึ่งด้อยโอกาสไม่ว่าทางใดก็ตาม แล้วเราจะให้อะไรน่ะหรือ พระเยซูตรัสว่า “น้ำเย็นสักถ้วยหนึ่ง” (ข้อ 42) หากสิ่งที่เล็กและธรรมดาอย่างน้ำเย็นถ้วยหนึ่งยังมีความสำคัญ ทาโก้ชิ้นหนึ่งก็เข้าข่ายอย่างแน่นอน