แบ่งปันถ้วยแห่งการชูใจ
เพื่อนฉันส่งเครื่องปั้นดินเผาที่ทำเองมาให้ เมื่อเปิดกล่องพบว่าของมีค่าชิ้นนั้นแตกระหว่างขนส่ง ถ้วยใบหนึ่งแตกออกเป็น 2-3 ชิ้นและมีผงดินร่วงอยู่ หลังจากที่สามีฉันซ่อมถ้วยใบนั้นด้วยกาวแล้ว ฉันจึงนำถ้วยมีตำหนิใบนั้นไปวางในตู้โชว์ได้อย่างสวยงาม
ไม่มีสิ่งใดไร้ประโยชน์
ในปีที่สามที่ฉันต้องต่อสู้กับความท้อใจและซึมเศร้าเพราะเคลื่อนไหวได้จำกัดและความเจ็บปวดเรื้อรัง ฉันบอกกับเพื่อนว่า “ร่างกายของฉันกำลังจะพัง ฉันรู้สึกไม่มีค่าพอที่จะทำอะไรให้พระเจ้าหรือให้ใครได้”
ความเมตตา
เมื่อฉันบ่นว่าการตัดสินใจของเพื่อนคนหนึ่งทำให้เธอถลำลึกลงในบาปและการกระทำของเธอส่งผลต่อฉัน สุภาพสตรีคนหนึ่งที่อธิษฐานกับฉันทุกอาทิตย์วางมือลงบนมือของฉันและพูดว่า “ให้เราอธิษฐานเพื่อเราทุกคน”
ฉันขมวดคิ้ว “เราทุกคน!” “ใช่” เธอตอบ “คุณที่มักจะบอกว่าพระเยซูทรงตั้งมาตรฐานความบริสุทธิ์ของเรา ดังนั้นเราก็ไม่ควรเอาบาปของคนอื่นมาเปรียบเทียบกับบาปของเรา”
“ความจริงนี้แทงใจดำฉัน” ฉันบอก “แต่ก็ถูกของคุณ การตัดสินผู้อื่นและความยโสฝ่ายวิญญาณของฉันไม่ได้ดีหรือเลวไปกว่าความบาปของเพื่อนเลย” “และการพูดถึงเพื่อน คือการนินทา เพราะฉะนั้น...” “...เรากำลังทำบาป” ฉันก้มศีรษะลง “โปรดอธิษฐานเพื่อเรา”
ในลูกา 18 พระเยซูเล่าคำอุปมาเรื่องชายสองคนที่กำลังไปพระวิหาร เพื่ออธิษฐานด้วยท่าทีที่แตกต่างกัน (ลก.18:9-14) เราอาจเหมือนฟาริสีที่ตกอยู่ในกับดักของการเปรียบเทียบ เราอาจอวดตัวเอง (ลก.18:11-12) และใช้ชีวิตราวกับมีสิทธิ์ที่จะตัดสิน หรือมีหน้าที่หรืออำนาจในการเปลี่ยนแปลงผู้อื่น
เมื่อเราให้พระเยซูเป็นแบบอย่างการดำเนินชีวิตที่บริสุทธิ์ และได้สัมผัสว่าพระองค์ทรงแสนดี เหมือนคนเก็บภาษีเราจะยิ่งต้องการพระคุณพระเจ้า (ลก.18:13) เมื่อเรามีประสบการณ์กับพระเมตตาและการให้อภัยด้วยความรักของพระเจ้า เราจะเปลี่ยนไปและมีกำลังที่จะมีความหวัง มีเมตตาและไม่ตัดสินผู้อื่น
ดอกไม้ตลอดไป
ซาเวียร์ ลูกชายวัยเตาะแตะชอบยื่นดอกไม้ให้ฉัน ฉันชื่นใจทุกครั้งที่ได้รับดอกไม้จากลูก ไม่ว่าจะเป็นดอกหญ้าหรือดอกไม้ที่เขากับพ่อซื้อมาจากร้านค้า ฉันรักษาไว้อย่างดีจนมันเหี่ยวแห้งและต้องทิ้งไป
วันหนึ่ง ซาเวียร์เอาช่อดอกไม้ประดิษฐ์มาให้ฉัน เขายิ้มมุมปากในขณะที่ใส่ดอกไม้ลงในแจกันแก้ว “แม่ฮะ ดูสิ ดอกไม้พวกนี้จะอยู่ตลอดไป เหมือนที่ผมรักแม่ไง”
เวลาผ่านไป ลูกชายของฉันโตเป็นหนุ่ม ดอกไม้ผ้าไหมเหล่านั้นหลุดรุ่ย สีซีด แต่ ‘ดอกไม้ตลอดไป’ นี้ยังคงทำให้ฉันคิดถึงความรักของลูกชาย และคิดถึงสิ่งที่จะคงอยู่ตลอดไปแน่นอน นั่นคือความรักของพระเจ้าที่ยั่งยืนและไร้ขีดจำกัด ดังปรากฏในพระคำที่ดำรงอยู่นิรันดร์และไม่ผิดพลาด
ขณะที่ชนชาติอิสราเอลเผชิญปัญหาครั้งแล้วครั้งเล่า อิสยาห์ปลอบโยนพวกเขาให้มั่นใจในถ้อยคำอันยั่งยืนของพระเจ้า (อสย.40:1) ท่านประกาศว่าพระเจ้าทรงชดใช้หนี้บาปของอิสราเอลแล้ว (อสย.40:2) ให้ความมั่นใจในความหวังถึงการเสด็จมาของพระเมสสิยาห์ (อสย.40:3-5) คนอิสราเอลวางใจในผู้เผยพระวจนะ เพราะท่านมุ่งมองไปยังพระเจ้ามากกว่าสถานการณ์
ในโลกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนและความทุกข์ ความคิดเห็นของมนุษย์หรือแม้แต่ความรู้สึกของเราก็จำกัดและผันแปรตลอดเวลา (ยรม.40:6-7) ทว่าเรายังคงวางใจได้เสมอในความรักและพระลักษณะอันไม่เปลี่ยนแปลงของพระเจ้า ที่เปิดเผยทางพระวจนะแห่งความจริงที่ถาวรนิรันดร์
ฉันควรยกโทษหรือ?
ฉันมาถึงโบสถ์ก่อนเวลาเพื่อช่วยเตรียมสถานที่ มีผู้หญิงคนหนึ่งยืนร้องไห้อยู่ด้านหลังห้องนมัสการ เธอคนนี้เคยนินทาว่าร้ายฉันมาก่อน ฉันจึงรีบเปิดเครื่องดูดฝุ่นเพื่อกลบเสียงสะอื้นเสีย ทำไมฉันจึงต้องใส่ใจคนที่ไม่ชอบฉันด้วยเล่า?
พระวิญญาณบริสุทธิ์เตือนฉันว่า พระเจ้าก็ทรงยกโทษให้ฉันมาแล้วมากแค่ไหน ฉันจึงเดินไปหาเธอ เธอเล่าว่าลูกน้อยของเธอเข้าโรงพยาบาลนานหลายเดือนแล้ว เราร้องไห้ สวมกอด และอธิษฐานเผื่อลูกสาวของเธอด้วยกัน หลังจากที่เรายอมรับความแตกต่างของกันและกัน เราก็กลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน
ในมัทธิว 18 พระเยซูเปรียบเทียบแผ่นดินสวรรค์เป็นเหมือนกษัตริย์องค์หนึ่งที่ตัดสินใจยกหนี้จำนวนมากให้กับทาสที่ร้องขอความเมตตา แต่ทันทีที่ทาสได้รับการยกหนี้ เขากลับไปทวงหนี้กับเพื่อนทาสที่ติดหนี้เขา น้อยกว่าที่เขาเคยเป็นหนี้กษัตริย์มากนัก เมื่อกษัตริย์รับรู้สิ่งที่เขาทำ ทาสผู้ชั่วร้ายจึงต้องถูกจองจำเพราะเขาไม่ยอมยกโทษให้ผู้อื่น (ข้อ 22-34)
การเลือกที่จะให้อภัยไม่ได้หมายความว่าเรายอมรับความบาป หรือแก้ตัวให้ความผิดที่กระทำต่อเรา หรือทำให้ความเจ็บปวดของเรากลายเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่การให้อภัยช่วยปลดปล่อยเราเพื่อจะสามารถชื่นชมของขวัญแห่งพระกรุณาของพระเจ้าที่เราไม่สมควรได้รับ เมื่อเราได้เชิญพระองค์ให้เข้ามาฟื้นฟูสันติสุขในชีวิตและในความสัมพันธ์ของเรา
เมื่อ ได้ แปลว่า ไม่ได้
ฉันขอบคุณพระเจ้าที่ได้ปรนนิบัติแม่ในช่วงที่ท่านต่อสู้กับมะเร็งเม็ดเลือดขาว เมื่อยาไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้น ท่านจึงตัดสินใจหยุดรับการรักษา ท่านว่า “แม่ไม่อยากทรมาน อยากใช้วาระสุดท้ายกับครอบครัวอย่างเป็นสุข พระเจ้ารู้ว่าแม่พร้อมจะกลับบ้าน”
ฉันคร่ำครวญต่อพระบิดาในสวรรค์ผู้เปี่ยมด้วยรัก แพทย์ผู้ประเสริฐ ด้วยมั่นใจว่าทรงทำการอัศจรรย์ได้ แต่การตอบตามคำทูลขอของแม่หมายถึงการตอบปฏิเสธฉัน ฉันยอมจำนนทั้งน้ำตา “ขอให้เป็นไปตามน้ำพระทัยพระองค์”
ไม่นานนัก พระเยซูได้รับแม่ไปสู่นิรันดรกาลที่ปราศจากความเจ็บปวด
ในโลกที่มีบาป เราจะพบกับความทุกข์ จนกว่าพระเยซูจะกลับมา ( โรม 8:22-25 ) ธรรมชาติบาป ความเข้าใจที่จำกัด และความกลัวความเจ็บปวดอาจทำให้ความสามารถในการอธิษฐานผิดเพื้ยนไป ขอบคุณพระเจ้าที่ “พระวิญญาณทรงอธิษฐานขอเพื่อธรรมิกชนตามที่ชอบพระทัยพระเจ้า” (โรม 8:27) ทรงเตือนว่าพระองค์ทรงช่วยคนที่รักพระองค์ให้เกิดผลอันดีในทุกสิ่ง (โรม 8:28) แม้การตอบคำอธิษฐานของผู้อื่นจะหมายถึงการปฏิเสธเราก็ตาม
เมื่อเรายอมรับว่าเราเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ในแผนการยิ่งใหญ่ของพระเจ้า เราจะพูดได้เหมือนอย่างแม่ฉันว่า “พระเจ้าประเสริฐ เท่านี้ก็เพียงพอ ไม่ว่าพระองค์ตอบว่าอย่างไร ใจแม่ก็สงบ” เรามั่นใจในความดีของพระเจ้า เราจึงไว้วางใจได้ว่าจะทรงตอบคำอธิษฐานทุกคำตามน้ำพระทัยและเพื่อพระเกียรติของพระองค์