ผู้เขียน

ดูทั้งหมด

บทความ โดย Xochitl Dixon

จัดส่งแบบลับๆ

ดอกลิลลี่ทรงระฆังจากหุบเขา ทิวลิปสีชมพู และแดฟโฟดิลสีเหลืองในแจกันแก้วใสรอคิมอยู่ที่ประตูบ้านของเธอ นานเจ็ดเดือนที่ผู้เชื่อพระเยซูซึ่งไม่ประสงค์ออกนาม ส่งดอกไม้แสนสวยจากร้านในชุมชนมาให้ ทุกเดือนของขวัญมาพร้อมข้อความหนุนใจจากพระคัมภีร์ ลงท้ายว่า “รัก จาก พระเยซู”

คิมบอกเล่าเรื่องการส่งของขวัญแบบนี้บนเฟซบุ๊ก ดอกไม้ที่ได้รับทำให้เธอมีโอกาสฉลองความใจดีของผู้คน และได้รู้วิธีที่พระเจ้าสำแดงความรักแก่เธอผ่านคนของพระองค์ เมื่อเธอวางใจในพระองค์ตลอดเวลาที่ต่อสู้กับโรคเรื้อรัง ดอกไม้สีสันสดใสทุกดอกและทุกข้อความที่เขียนด้วยลายมือ ล้วนยืนยันถึงความรักเมตตาที่พระเจ้ามีต่อเธอ

การที่ผู้ส่งไม่เปิดเผยตัวเป็นแรงจูงใจของการให้แบบที่พระเยซูทรงสอนประชากรของพระองค์ พระเจ้าทรงเตือนให้ระวังการกระทำศาสนกิจ “เพื่ออวด” คนอื่น (มธ.6:1) การทำดีต้องเป็นการนมัสการที่สำแดงออกจากหัวใจที่ขอบพระคุณสำหรับทุกสิ่งที่พระเจ้าทรงกระทำเพื่อเรา การมุ่งทำดีโดยหวังหรือคาดหวังการยกย่อง อาจทำให้เราไม่ให้ความสำคัญกับพระเยซู ผู้ประทานสิ่งดีทั้งปวง

พระเจ้าทรงทราบเมื่อเราให้ด้วยความปรารถนาดี (ข้อ 4) ทรงประสงค์ให้การให้ของเรามีแรงจูงใจจากความรัก เพื่อถวายพระสิริ พระเกียรติ และคำสรรเสริญแด่พระองค์

ชำระด้วยความรัก

คริสตจักรเล็กๆทางใต้ของแคลิฟอร์เนียเห็นโอกาสสำแดงความรักของพระเจ้าอย่างเป็นรูปธรรมผู้เชื่อพระเยซูรวมตัวกันที่ร้านซักผ้าหยอดเหรียญเพื่อรับใช้ชุมชนด้วยการออกเงินซักผ้าให้กับคนที่ขัดสนทางการเงิน พวกเขาช่วยกันทำความสะอาดและพับผ้าบางครั้งก็มีอาหารร้อนๆ หรือของชำใส่ถุงไว้แจกด้วย

เดินกับพระเจ้าในปัจจุบัน

ซี. เอส. ลูอิส เขียนไว้ในหนังสือจุดยืนคริสเตียนว่า “พระเจ้าไม่ทรงถูกจำกัดด้วยกาลเวลา ชีวิตของพระองค์ไม่ได้มีชั่วโมงต่อชั่วโมง...เวลาสิบโมงครึ่ง และทุกวินาทีตั้งแต่สร้างโลกล้วนเป็นปัจจุบันสำหรับพระองค์” กระนั้น ฤดูกาลรอคอยก็ยังคงยาวนานเหมือนไม่สิ้นสุด แต่เมื่อเราจะวางใจพระเจ้าผู้ทรงสร้างกาลเวลา เราก็จะยอมรับความจริงได้ว่าชีวิตที่เปราะบางของเรามั่นคงอยู่ในพระหัตถ์พระองค์

การขอบคุณที่จริงใจ

ในการเตรียมตัวเพื่อสัมภาษณ์งานครั้งแรกของเซเวียร์ลูกของเรา อลันสามีของฉันได้ยื่นการ์ดขอบคุณห่อหนึ่งเพื่อให้ลูกมอบให้ผู้ที่อาจเป็นนายจ้างในอนาคตหลังจากที่ได้พบกันแล้ว จากนั้นอลันก็สวมบทเป็นผู้สัมภาษณ์ โดยอาศัยประสบการณ์ผู้จัดการนานหลายสิบปีตั้งคำถามถามลูกชาย หลังจากบทบาทสมมติจบลง ลูกของเราก็นำประวัติส่วนตัวที่ทำสำเนาไว้หลายฉบับใส่ลงในแฟ้ม เขายิ้มเมื่ออลันย้ำเรื่องการ์ด “ผมรู้ครับ” เขาพูด “ข้อความขอบคุณที่จริงใจจะทำให้ผมแตกต่างจากผู้สมัครคนอื่น”

อย่าหมดหวัง

เมื่อเพื่อนของฉันรู้ผลตรวจว่าเธอเป็นมะเร็ง แพทย์แนะนำให้จัดการเรื่องต่างๆ ให้เรียบร้อย เธอโทรมาร้องไห้กับฉันเพราะเป็นห่วงสามีและลูกๆ ที่ยังเล็ก ฉันแจ้งให้เพื่อนๆ อธิษฐานเผื่ออย่างเร่งด่วน เราดีใจที่แพทย์อีกคนให้กำลังใจเธอว่าอย่าเพิ่งหมดหวังและยืนยันว่าทีมแพทย์จะทำทุกอย่างเพื่อช่วยเธอ แม้มีวันที่ยากลำบาก แต่เธอยังคงเพ่งมองพระเจ้าแทนที่จะมองสิ่งที่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ เธอไม่ยอมแพ้

ดำเนินไปดุจนักรบ

เอ็มม่าวัย 18 ปีแบ่งปันเรื่องพระเยซูอย่างสัตย์ซื่อในสื่อสังคมออนไลน์แม้มีคนข่มเหงวิจารณ์ความชื่นชมยินดีและความรักยิ่งที่เธอมีต่อพระคริสต์ บางคนวิจารณ์รูปร่างหน้าตาของเธอ บ้างบอกว่าเธอโง่เขลาเพราะอุทิศตนแด่พระเจ้า แม้ถ้อยคำโหดร้ายจะกรีดลึกลงในใจ แต่เอ็มม่าก็ประกาศต่อไปด้วยความเชื่อที่กล้าหาญและด้วยความรักต่อพระเยซูและผู้อื่น บางครั้งเธออดไม่ได้ที่จะเชื่อว่าตัวตนและคุณค่าของเธอเป็นไปตามคำวิจารณ์ เมื่อใดที่รู้สึกอย่างนั้น เธอจะขอให้พระเจ้าช่วย อธิษฐานเผื่อผู้ข่มเหง ใคร่ครวญพระวจนะ และบากบั่นอย่างกล้าหาญและมั่นใจโดยกำลังจากพระวิญญาณ

กรอกชื่อของคุณ

ในหนังสือชุดจดหมายรักจากพระเจ้า (Love Letters from God) เกลนิสเนลลิสต์ ชวนให้เด็กๆ มีปฏิสัมพันธ์ส่วนตัวอย่างลึกซึ้งกับองค์พระผู้เป็นเจ้า หนังสือเด็กเหล่านี้มีข้อความจากพระเจ้าที่เว้นช่องให้เติมชื่อของเด็กต่อจากแต่ละเรื่องในพระคัมภีร์ การให้รับเอาความจริงจากพระคัมภีร์ไว้เป็นส่วนตัว ช่วยให้ผู้อ่านรุ่นเยาว์ของเธอเข้าใจว่าพระคัมภีร์ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องเล่า และได้รับการสอนว่าพระเจ้าทรงต้องการมีความสัมพันธ์กับพวกเขา และตรัสกับบรรดาบุตรที่พระองค์ทรงรักมากผ่านพระวจนะ

ไม่ว่าเราจะทำสิ่งใด

ในหนังสือพิศวงในความสุข (Surprised by Joy) ซี.เอส.ลูอิส เล่าว่าท่านเป็นคริสเตียนเมื่ออายุ 33 ปี หลังจาก “ต่อสู้ ขัดขืน คับแค้นใจ และหาทางหนีทุกทางที่เป็นไปได้” กระนั้น แม้ว่าท่านจะต่อต้าน มีข้อบกพร่อง และเผชิญอุปสรรค แต่พระเจ้าทรงเปลี่ยนท่านให้เป็นผู้ปกป้องความเชื่อที่กล้าหาญและมีความคิดสร้างสรรค์ ลูอิสประกาศความจริงและความรักของพระเจ้าผ่านบทความและนิยายที่ทรงพลังซึ่งยังมีผู้อ่าน ศึกษา และกล่าวถึงแม้ท่านจะเสียชีวิตไปกว่า 55 ปีแล้ว ชีวิตของท่านสำแดงถึงความเชื่อของท่านที่ว่า ไม่มีใคร “แก่เกินกว่าจะตั้งเป้าหมายหรือมีความฝันใหม่ๆ”

ใช้ชีวิต อธิษฐาน รัก

นักวิ่งดาวรุ่ง เจซซี่ โอเวนส์ได้รับอิทธิพลจากพ่อแม่ที่เป็นผู้เชื่อเข้มแข็งในพระเยซู เขาสำแดงความเชื่ออย่างกล้าหาญ ในการแข่งขันโอลิมปิคที่กรุงเบอร์ลินปี 1936 เขาเป็นนักกีฬาอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันคนหนึ่งในไม่กี่คนที่ได้เหรียญทอง 4 เหรียญต่อหน้านาซีผู้มีแต่ความเกลียดชังและฮิตเลอร์ซึ่งเป็นผู้นำ เขาได้ผูกมิตรกับนักกีฬาเยอรมันชื่อลูซ ลอง การโฆษณาชวนเชื่อนาซีมีอยู่ทั่ว โอเวนส์ดำเนินชีวิตเรียบง่ายที่สำแดงความเชื่อซึ่งมีผลกระทบต่อชีวิตของลูซ ในภายหลังลูซเขียนถึงโอเวนส์ว่า “ในเวลานั้นที่เบอร์ลิน ตอนที่ผมคุยกับคุณครั้งแรก คุณคุกเข่าอยู่กับพื้น ผมรู้ว่าคุณกำลังอธิษฐาน...ผมคิดว่าผมอาจจะเชื่อพระเจ้า”

เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไป นั่นเป็นการแสดงว่าท่านยอมรับ นโยบายการใช้คุกกี้ของเรา