ถ้อยคำแห่งสติปัญญา
กล้ามเนื้อส่วนใดในร่างกายมนุษย์แข็งแรงที่สุด บางคนบอกว่าลิ้น แต่การจะระบุว่ากล้ามเนื้อส่วนใดแข็งแรงที่สุดไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะกล้ามเนื้อไม่ได้ทำงานโดยลำพัง
รู้สึกไม่สำคัญ
เราอยู่ท่ามกลางมนุษย์เจ็ดพันล้านคน ที่อาศัยร่วมกันบนดาวเคราะห์ดวงน้อย ในระบบสุริยะที่ไม่ค่อยสำคัญนัก ในความเป็นจริง โลกของเราเป็นเพียงจุดสีน้ำเงินท่ามกลางวัตถุบนท้องฟ้านับล้าน ที่พระเจ้าทรงสร้างบนผืนผ้าใบมหึมา ที่เรียกว่าจักรวาล โลกอันงดงามตระการของเรา เป็นเพียงฝุ่นผง
เรื่องของกระรอก
ผมปูตาข่ายจัดสวนที่สนามเพื่อจะโรยหินตกแต่ง ขณะที่ผมกำลังจะโรยหิน ก็สังเกตเห็นกระรอกตัวหนึ่งติดอยู่ที่ตาข่าย ผมสวมถุงมือและเริ่มตัดตาข่ายอย่างระมัดระวัง เจ้าตัวเล็กดูจะไม่ชอบผมนัก มันใช้ขาหลังเตะและพยายามกัดผม ผมปลอบว่า “ฉันไม่ทำร้ายแกหรอก ใจเย็นไว้” แต่มันไม่เข้าใจจึงขัดขืนด้วยความกลัว ในที่สุดผมก็ตัดห่วงสุดท้ายที่เกี่ยวอยู่แล้วปล่อยมันกลับบ้าน
จงเตือนเขา
ในสัปดาห์หนึ่งเราได้รับอีเมล์หลายฉบับที่เตือนว่าเรามีนัด หรือจะมีงานพิเศษหรือมีคำขอให้อธิษฐานเผื่อ เหล่านี้เป็นคำเตือนที่จำเป็น
ความหวังยังอยู่
เมื่อมีโศกนาฏกรรมหนักหนาสั่นคลอนชีวิต ทุกคนแสวงหาคําตอบ เร็วๆ นี้ แม่ที่สูญเสียลูกวัยรุ่นพูดกับผมว่า “ฉันไม่เข้าใจ ฉันไม่รู้ว่าฉันจะเชื่อได้อีกหรือเปล่า ฉันพยายาม แต่ก็ไม่เข้าใจพระเจ้าเลย เรื่องนี้หมายความว่าอะไร” ปัญหาใหญ่เช่นนี้ไม่มีคําตอบที่ง่าย แต่มีความหวังให้ผู้ที่เชื่อวางใจพระคริสต์ ไม่ว่าจะดื่มด่ำกับพระพรหรือกัดฟันสู้กับความเศร้า
แบ่งปันเบอร์เกอร์
ลีเกย์สบีค จากองค์การคอมแพสชั่นนานาชาติ เล่าถึงผู้หญิงคนหนึ่งที่ได้เดินทางไปดินแดนห่างไกล เพื่อเยี่ยมเด็กซึ่งเธอรับอุปการะ เธอพาเด็กคนนั้น ซึ่งมีความเป็นอยู่ที่แร้นแค้นไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหาร
ต้นไม้แห่งรัก
ต้นหลิวเกลียวยืนตระหง่านเฝ้าสวนหลังบ้านของเรามากว่า 20 ปี และให้ร่มเงาแก่ลูกทั้งสี่คนของผมเวลาเล่นกันที่สนาม อีกทั้งเป็นบ้านหมู่กระรอก แต่เมื่อฤดูใบไม้ผลิมาถึง มันไม่ยอมตื่นจากการหลับใหลในช่วงฤดูหนาว เราจึงต้องโค่นมันทิ้ง
เริ่มต้นที่เรา
สิ่งที่ผมเรียกว่าเมลโน้ต คือข้อคิดที่เมลิสสาลูกสาวของผมเขียนไว้ในพระคัมภีร์ของเธอ เพื่อช่วยในการนำพระคำไปใช้ในการดำเนินชีวิต ในมัทธิว 7 เธอตีกรอบรอบข้อ 1 และ 2 ที่พูดถึงการไม่ตัดสินผู้อื่น เพราะถ้า “ท่านจะตวงให้เขาด้วยทะนานอันใดพระเจ้าจะได้ทรงตวงให้ท่านด้วยทะนานอันนั้น” ข้างๆ มีเมลโน้ตที่เขียนว่า “มองดูสิ่งที่ตัวเองทำก่อนไปมองดูคนอื่น”
ตามทัน
ศิษยาภิบาลคนหนึ่งเล่าเรื่องของตนลงในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นว่า ท่านถามชายสูงอายุคนหนึ่งที่เพิ่งรู้จัก “คุณเคยทำงานที่บริษัทนี้หรือ” ศิษยาภิบาลถามพร้อมออกชื่อบริษัท “ใช่แล้ว” ชายคนนั้นตอบ อาจารย์ท่านนี้บอกต่อว่า ตอนที่ท่านเป็นเด็ก สายเคเบิลของบริษัทนี้พาดผ่านที่ดินพ่อแม่ของท่าน “บ้านอยู่ที่ไหน” ชายคนนั้นถาม เมื่ออาจารย์ตอบไป เขากล่าวว่า “ผมจำที่ตรงนั้นได้ ผมเหนื่อยมากกับการต้องไปคอยตั้งป้ายเตือนให้ระวังสายเคเบิล เพราะเด็กๆ แถวนั้นชอบไปล้มป้ายลงมา” เมื่อศิษยาภิบาลหน้าแดงด้วยความอาย เขาก็ถามว่า “คุณคือคนหนึ่งในเด็กพวกนั้นใช่ไหม” ไม่ต้องสงสัยเลยว่าใช่