รอคอยในความหวัง
โรเจลิโอ ทำหน้าที่เป็นบริกรให้เราในช่วงวันหยุดยาว ครั้งหนึ่งขณะคุยกันเขาขอบคุณพระเยซูที่อวยพรให้เขามีคาลี่ภรรยาผู้เปี่ยมไปด้วยใจเมตตาและความเชื่อเข้มแข็ง หลังจากทั้งคู่มีลูกคนแรก พระเจ้าให้พวกเขามีโอกาสช่วยดูแลหลานสาวที่มีภาวะดาวน์ซินโดรม หลังจากนั้นไม่นาน แม่ยายของโรเจลิโอก็ต้องการคนดูแลใกล้ชิด
โรเจลิโอทำงานด้วยความชื่นชมยินดี และมักจะรับงานสองกะเพื่อให้ภรรยาสามารถอยู่บ้านดูแลคนที่พระเจ้ามอบหมายไว้กับพวกเขาได้ เมื่อฉันบอกว่าการที่พวกเขาทั้งสองเปิดใจและเปิดบ้านเพื่อปรนนิบัติสมาชิกในครอบครัวได้เป็นแรงบันดาลใจให้ฉันรักผู้อื่นมากขึ้น เขาตอบว่า “ผมยินดีที่ได้รับใช้พวกเขา...และคุณ”
ชีวิตของโรเจลิโอยืนยันถึงฤทธิ์เดชในการดำเนินชีวิตด้วยใจกว้างขวางและไว้วางใจ ว่าพระเจ้าจะทรงจัดเตรียมเมื่อเรารับใช้ซึ่งกันและกันอย่างไม่เห็นแก่ตัว เปาโลกระตุ้นประชากรของพระเจ้าให้ “รักกันฉันพี่น้อง...จงชื่นชมยินดีในความหวัง จงอดทนต่อความยากลำบาก จงขะมักเขม้นอธิษฐาน” เมื่อเรา “เห็นอกเห็นใจช่วยธรรมิกชนเมื่อเขาขัดสน จงมีน้ำใจอัธยาศัยไมตรี” (รม.12:10-13)
ชีวิตของเราอาจเปลี่ยนแปลงไปในชั่วพริบตา จนตัวเราหรือคนที่เรารักอยู่ในสถานการณ์ที่เกินจะรับไหว แต่เมื่อเราเต็มใจแบ่งปันทุกสิ่งที่พระเจ้าประทานให้กับเราในขณะที่เรารอคอยพระองค์ เราจะสามารถยึดมั่นในความรักมั่นคงของพระองค์...ด้วยกัน
ผู้ให้อย่างลับๆ
สำหรับคริสโตเฟอร์ผู้เป็นทหารผ่านศึกที่พิการทางร่างกายนั้น กิจวัตรประจำวันเป็นเรื่องท้าทายมากขึ้น ใช้เวลามากขึ้น และสร้างความเจ็บปวดมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ กระนั้นเขาก็ยังทำสุดกำลังเพื่อปรนนิบัติภรรยาและลูก คนที่ผ่านไปมาจะเห็นเขาใช้รถเข็นตัดหญ้าที่สนามหน้าบ้านทุกสัปดาห์
วันหนึ่งคริสโตเฟอร์ได้รับจดหมายและรถตัดหญ้าแบบขับขี่ราคาแพงจากผู้บริจาคที่ไม่ระบุนาม ความอิ่มเอมใจของผู้ให้อย่างลับๆนี้มาจากการได้ช่วยเหลือผู้ที่ขัดสน
พระเยซูไม่ได้ตรัสว่าการให้ทั้งสิ้นของเราต้องเป็นความลับ แต่พระองค์ทรงเตือนให้สำรวจแรงจูงใจเมื่อเราให้ออกไป (มธ.6:1) พระองค์ตรัสอีกว่า “เมื่อท่านทำทานอย่าเป่าแตรข้างหน้าท่าน เหมือนคนหน้าซื่อใจคดกระทำในธรรมศาลาและตามถนน เพื่อให้คนสรรเสริญ” (ข้อ 2) ในขณะที่พระเจ้าปรารถนาให้เราเป็นผู้ให้ด้วยใจกว้างขวาง พระองค์ก็หนุนใจให้เราหลีกเลี่ยงการทำดีต่อหน้าผู้อื่นเพราะหวังจะได้รับเกียรติหรือการยอมรับเป็นพิเศษ (ข้อ 3)
เมื่อเราตระหนักว่าทุกสิ่งที่เรามีมาจากพระเจ้า เราจะเป็นผู้ให้อย่างลับๆที่ไม่ต้องยกย่องตัวเองหรือรับคำชื่นชมจากผู้อื่น พระองค์ผู้ทรงทราบทุกสิ่งและประทานสิ่งดีทั้งสิ้นทรงยินดีที่คนของพระองค์มีใจกว้างขวางอย่างแท้จริง ไม่มีรางวัลใดที่จะดีไปกว่าการเห็นชอบจากพระองค์
วิสัยทัศน์ใหม่
หลังการผ่าตัดเล็กที่ตาข้างซ้าย แพทย์แนะนำให้ฉันทดสอบการมองเห็นด้วยความมั่นใจฉันปิดตาขวาและอ่านไล่ไปทีละบรรทัดอย่างสบาย แต่เมื่อปิดตาซ้ายฉันถึงกับอ้าปากค้าง ฉันไม่รู้เลยหรือว่าตัวเองตาบอดขนาดนี้
ในขณะที่ปรับแว่นและมุมมองใหม่ ฉันก็คิดถึงการทดลองในชีวิตประจำวันที่มักจะทำให้สายตาฝ่ายวิญญาณของฉันสั้นลง การจดจ่ออยู่กับสิ่งที่มองเห็นได้ในระยะใกล้ เช่น ความเจ็บปวดและสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด ทำให้ฉันมองไม่เห็นความสัตย์ซื่อของพระเจ้าผู้เป็นนิรันดร์และไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ด้วยมุมมองที่จำกัดนี้ ความหวังจึงกลายเป็นภาพเลือนลางที่ไม่มีวันเป็นจริงได้
1 ซามูเอล 1 เป็นเรื่องราวของผู้หญิงอีกคนซึ่งไม่เชื่อในความสัตย์ซื่อของพระเจ้า แต่กลับจดจ่ออยู่กับความปวดร้าว ความไม่แน่นอน และการสูญเสียที่กำลังเผชิญ หลายปีที่ฮันนาห์ต้องทนกับการไม่มีบุตร และคำพูดทิ่มแทงจากเปนินนาห์ภรรยาอีกคนของเอลคานาห์สามีของนาง แม้สามีจะรักนางแต่ก็ไม่ทำให้นางพอใจ วันหนึ่งนางได้อธิษฐานอย่างขมขื่น เมื่อเอลีปุโรหิตถาม นางจึงเล่าสถานการณ์ของนางให้ท่านฟัง ก่อนที่นางจะไป ท่านอธิษฐานขอให้พระเจ้าประทานตามคำขอของนาง (1 ซมอ.1:17) แม้ว่าสถานการณ์จะไม่เปลี่ยนแปลงในทันที แต่ฮันนาห์ก็เดินจากไปด้วยความหวังและความมั่นใจ (ข้อ 18)
คำอธิษฐานของนางใน 1 ซามูเอล 2:1-2 เผยให้เห็นมุมมองที่เปลี่ยนไป แม้สถานการณ์จะยังคงเหมือนเดิม แต่วิสัยทัศน์ใหม่ทำให้มุมมองและทัศนคติของฮันนาห์เปลี่ยนไป นางชื่นชมยินดีในการทรงสถิตของพระเจ้า ผู้ทรงเป็นพระศิลาและความหวังนิรันดร์ของนาง
ทำงานร่วมกัน
โจทำงานมากกว่าสิบสองชั่วโมงต่อวันโดยมักจะไม่ได้พักเลย การเริ่มต้นธุรกิจเพื่อการกุศลทำให้เขาต้องทุ่มเทเวลาและกำลังจนแทบจะไม่มีเวลาให้กับภรรยาและลูกๆเมื่อกลับถึงบ้าน หลังจากที่ความเครียดสะสมทำให้โจต้องเข้าโรงพยาบาล เพื่อนคนหนึ่งเสนอให้มีทีมช่วยงานเขา แม้เขารู้สึกกลัวที่จะปล่อยมือ แต่โจรู้ว่าเขาไม่สามารถก้าวต่อไปแบบเดิมได้ เขายอมไว้ใจเพื่อนและพระเจ้า และมอบหมายงานให้กลุ่มคนที่พวกเขาช่วยกันเลือก หนึ่งปีต่อมาโจยอมรับว่าองค์กรการกุศลและครอบครัวของเขาไม่มีทางเจริญรุ่งเรืองได้หากเขาปฏิเสธความช่วยเหลือที่พระเจ้าประทานให้
พระเจ้าไม่ได้ออกแบบมนุษย์ให้เติบโตโดยไร้ซึ่งการสนับสนุนจากชุมชนแห่งความรัก ในอพยพบทที่ 18 โมเสสนำชนชาติอิสราเอลผ่านถิ่นทุรกันดาร ท่านรับใช้คนของพระเจ้าด้วยตัวคนเดียวทั้งในฐานะครู ที่ปรึกษา และผู้พิพากษา เมื่อเยโธรพ่อตาของท่านมาเยี่ยม เขาได้ให้คำแนะนำแก่โมเสสว่า “ท่านและประชาชนที่มาหาท่านนั้นคงจะอ่อนระอาใจเพราะภาระอันหนักนี้เหลือกำลังของท่าน ท่านไม่สามารถที่จะทำแต่ผู้เดียวได้” (อพย.18:18) เขาหนุนใจให้โมเสสแบ่งภาระความรับผิดชอบให้แก่คนที่สัตย์ซื่อ โมเสสยอมรับความช่วยเหลือ และชุมชนทั้งหมดได้รับประโยชน์
เมื่อเราวางใจว่าพระเจ้าทรงทำงานอยู่ภายในและในท่ามกลางคนของพระองค์ทุกคนซึ่งทำงานร่วมกัน เราจะได้พบการพักสงบที่แท้จริง
ทรงตัวบนคลื่น
ขณะที่สามีของฉันเดินเล่นไปตามหาดหินเพื่อถ่ายภาพขอบฟ้าของเกาะฮาวาย ฉันนั่งอยู่บนก้อนหินใหญ่ ในใจคิดกังวลเรื่องปัญหาสุขภาพ แม้จะมีปัญหารออยู่ที่บ้านแต่ ณ เวลานั้นฉันต้องการสันติสุข ฉันมองดูคลื่นที่ซัดกระแทกหินคมสีดำเหล่านั้น มีเงาดำตรงแนวโค้งของคลื่นสะดุดตาฉัน เมื่อใช้กล้องซูมภาพจากรูปทรงก็บอกได้ว่าเป็นเต่าทะเลกำลังว่ายไปตามแนวคลื่นอย่างสงบในท่ากางขาออก ฉันยิ้มออกมาขณะหันหน้าไปสูดกลิ่นไอทะเล
“ฟ้าสวรรค์จงสรรเสริญการอัศจรรย์ของพระองค์” (สดด.89:5) พระเจ้าผู้ไม่มีใครเปรียบได้ของเราทรงปกครอง “การเดือดดาลของทะเล เมื่อคลื่นสูงขึ้นพระองค์ทรงให้สงบ” (ข้อ 9) พระองค์ “ได้ทรงตั้งพิภพ และบรรดาสิ่งที่อยู่ในนั้น” (ข้อ 11) พระองค์ทรงสร้างทุกสิ่ง ทรงเป็นเจ้าของ ทรงจัดการ และกำหนดจุดมุ่งหมายทั้งสิ้นเพื่อพระสิริของพระองค์และเพื่อความชื่นชมยินดีของเรา
การยืนอยู่บนรากฐานของความเชื่อ คือในความรักของพระบิดาผู้ไม่เปลี่ยนแปลงนั้น ทำให้เรา “เดินในสว่างแห่งพระพักตร์ของพระองค์” (ข้อ 15) พระเจ้ายังทรงฤทธิ์อำนาจยิ่งใหญ่และทรงพระเมตตาในการปฏิบัติต่อเรา เราเต้นโลดอยู่ในพระนามของพระองค์ได้วันยังค่ำ (ข้อ 16) ไม่ว่าอุปสรรคใดที่เราเผชิญหรือต้องอดทนกับความล้มเหลวอีกกี่ครั้ง พระเจ้าทรงยึดเราไว้ในขณะที่คลื่นซัดขึ้นและลง
ผ้าคลุมไหล่สีม่วง
ในขณะทำหน้าที่ดูแลแม่ที่ศูนย์มะเร็งซึ่งอยู่ห่างจากบ้านไปหลายร้อยกิโลเมตร ฉันขอให้พี่น้องช่วยอธิษฐานเผื่อพวกเรา หลายเดือนผ่านไปความโดดเดี่ยวและความเหงาบั่นทอนกำลังของฉัน ฉันจะดูแลแม่ได้อย่างไรถ้าฉันยอมแพ้ความอ่อนล้าของร่างกาย จิตใจ และอารมณ์
วันหนึ่งมีเพื่อนส่งของมาให้กำลังใจฉันโดยไม่ได้คาดคิด โจดี้ถักผ้าคลุมไหล่อธิษฐานสีม่วงให้กับฉัน ซึ่งเป็นเครื่องเตือนใจอันอบอุ่นว่ามีคนอธิษฐานเผื่อเราทุกวัน ทุกครั้งที่ฉันคลุมไหล่ด้วยผ้าอันอ่อนนุ่ม ฉันรู้สึกว่าพระเจ้ากำลังกอดฉันด้วยคำอธิษฐานจากประชากรของพระองค์ หลายปีต่อมาพระองค์ยังคงใช้ผ้าคลุมไหล่สีม่วงในการปลอบโยนและเสริมกำลังในยามที่ฉันอ่อนล้า
อัครทูตเปาโลยืนยันถึงความสำคัญและพลังของการอธิษฐานเพื่อผู้อื่นที่ช่วยรื้อฟื้นจิตใจขึ้นใหม่ เปาโลขอร้องให้อธิษฐานเผื่อและหนุนน้ำใจท่านในระหว่างการเดินทางเพื่อเป็นการแสดงให้เห็นว่าคนที่อธิษฐานเผื่อผู้อื่นก็ได้กลายเป็นหุ้นส่วนในพันธกิจการรับใช้ (รม.15:30) ด้วยการบอกหัวข้ออธิษฐานที่เฉพาะเจาะจง เปาโลไม่เพียงแสดงให้เห็นว่าท่านพึ่งพาการสนับสนุนจากผู้เชื่อ แต่ยังแสดงถึงความไว้วางใจว่าพระเจ้าจะทรงตอบคำอธิษฐานอย่างทรงพลัง (ข้อ 31-33)
เราทุกคนล้วนมีวันที่รู้สึกอ้างว้าง แต่เปาโลสอนเราให้รู้จักที่จะขอให้ผู้อื่นอธิษฐานเผื่อเรา เมื่อเราถูกปกคลุมด้วยคำอธิษฐานวิงวอนจากประชากรของพระเจ้า เราสามารถสัมผัสถึงพระกำลังและการปลอบประโลมของพระองค์ไม่ว่าชีวิตของเราจะเผชิญสิ่งใด
สงบนิ่งและปลอดภัย
เซเวียร์ลูกชายฉันเป็นเด็กวัยอนุบาลที่เต็มไปด้วยพลัง เขามักหลีกเลี่ยงเวลาสงบยามบ่าย การอยู่นิ่งมักนำไปสู่การงีบหลับอันไม่พึงประสงค์แต่เป็นสิ่งจำเป็น เขาจะขยับตัวออกจากที่นั่ง เลื่อนตัวจากโซฟาไถลไปบนพื้นไม้ แม้แต่กลิ้งไปทั่วห้องเพื่อหนีจากความเงียบ “แม่ ผมหิว... ผมคอแห้ง... ผมต้องไปห้องน้ำ... ผมอยากกอด”
ฉันเข้าใจถึงประโยชน์ของความนิ่งฉันจึงช่วยเซเวียร์ให้สงบโดยการให้เขาซบและพิงตัวฉันจนหลับไป
ในช่วงแรกของชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณ ฉันเห็นตัวเองมีความต้องการแบบลูกชายที่จะตื่นตัวอยู่ตลอด ความยุ่งทำให้ฉันรู้สึกสำคัญ ได้รับการยอมรับและควบคุมทุกอย่างได้ ในขณะที่เสียงรอบข้างดึงความสนใจฉันจากความกังวลในข้อบกพร่องและความลำบาก การยอมหยุดพักยิ่งยืนยันถึงความเป็นมนุษย์ที่อ่อนแอ ฉันจึงหลีกเลี่ยงการอยู่นิ่งและความสงบ ไม่เชื่อว่าพระเจ้าจะทรงจัดการได้โดยไม่มีฉัน
แต่พระเจ้าทรงเป็นที่ลี้ภัยของเรา ไม่ว่าปัญหาหรือความไม่แน่นอนรอบตัวเราจะมากมายเพียงใด ทางข้างหน้าอาจดูเหมือนยาวไกล น่ากลัวและท่วมท้น แต่ความรักพระองค์อยู่ล้อมรอบเรา พระองค์ทรงได้ยินเรา ตอบเรา และอยู่กับเรา... ทั้งบัดนี้และตลอดไปเป็นนิตย์ (สดด. 91)
เราโอบกอดความเงียบและพักพิงในความรักที่ไม่เปลี่ยนแปลงและการสถิตอยู่ของพระเจ้าได้ เราสงบนิ่งและพักในพระองค์ได้ เพราะเราปลอดภัยอยู่ภายใต้ความสัตย์สุจริตของพระองค์ (ข้อ 4)
เปิดไฟ
ขณะที่ฉันและสามีเตรียมตัวที่จะย้ายข้ามประเทศ ฉันอยากให้แน่ใจว่าเรายังติดต่อกับลูกชายของเราได้ ฉันพบของขวัญชิ้นพิเศษเป็นตะเกียงมิตรภาพที่เชื่อมต่อระบบอินเตอร์เน็ตไร้สายและสามารถเปิดได้จากระยะไกล ตอนที่มอบตะเกียงให้ ฉันอธิบายว่าตะเกียงของพวกเขาจะเปิดเมื่อฉันสัมผัสตะเกียงของฉัน เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจถึงความรักและคำอธิษฐานที่ไม่หยุดหย่อนของฉัน ไม่ว่าจะอยู่ห่างไกลกันเพียงใด การแตะบนตะเกียงของพวกเขาก็จะเปิดไฟในบ้านของเราเช่นกัน แม้จะรู้ว่าไม่มีสิ่งใดมาแทนที่ช่วงเวลาแห่งความสัมพันธ์ที่แนบแน่นนี้ แต่เราก็ยังได้รับการหนุนใจเมื่อรู้ว่ามีผู้ที่รักและอธิษฐานเผื่อทุกครั้งที่เราเปิดไฟ
บุตรของพระเจ้าทุกคนได้รับสิทธิพิเศษในการเป็นผู้แบ่งปันแสงสว่างโดยกำลังจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ พวกเราถูกออกแบบให้มีชีวิตเป็นแสงสว่างแห่งความหวังที่ยั่งยืนและความรักที่ไม่มีเงื่อนไขของพระเจ้า เมื่อแบ่งปันพระกิตติคุณและรับใช้ผู้อื่นในพระนามพระเยซู เรากลายเป็นดวงไฟที่ส่องสว่างและคำพยานที่มีชีวิต การทำดี รอยยิ้มที่เมตตา คำหนุนใจที่อ่อนสุภาพ และคำอธิษฐานอย่างจริงใจทำให้เกิดแสงที่ย้ำเตือนถึงความสัตย์ซื่อ และรักที่ไม่มีเงื่อนไขของพระเจ้าซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิต (มธ.5:14-16)
ไม่ว่าพระเจ้านำไปที่ใด และไม่ว่าเราจะรับใช้อย่างไร พระองค์ทรงใช้เราเพื่อช่วยผู้อื่นให้ฉายแสงของพระองค์ได้ พระเจ้าทรงประทานแสงสว่างแท้แก่เราผ่านพระวิญญาณ เราจึงสำแดงถึงความสว่างและความรักในการทรงสถิตได้
ภาพเหมือน
ระหว่างออกไปเที่ยว เราพบผู้หญิงคนหนึ่งที่รู้จักกับครอบครัวของสามีฉันตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก เธอมองดูอลันแล้วก็ลูกชายของเราซาเวียร์ “เขาเป็นภาพเหมือนของพ่อเขา” เธอพูด “ทั้งดวงตา รอยยิ้ม ใช่แล้ว เหมือนเขาทุกอย่าง” ขณะที่เธอยินดีในความเหมือนที่เห็นได้ชัดระหว่างพ่อกับลูกชาย เธอยังเห็นบุคลิกที่คล้ายคลึงกันอีกด้วย ถึงแม้พวกเขาจะมีหลายสิ่งที่เหมือนกัน แต่ลูกชายของฉันก็ยังไม่สามารถสะท้อนภาพพ่อของเขาได้อย่างสมบูรณ์แบบ
มีบุตรชายคนเดียวเท่านั้นคือพระเยซู ที่สามารถสะท้อนภาพพระบิดาของพระองค์ได้อย่างสมบูรณ์ พระคริสต์ทรงเป็น “พระฉายของพระเจ้าผู้ซึ่งไม่ประจักษ์แก่ตา” (คส.1:15) ในพระองค์ โดยพระองค์ และเพื่อพระองค์ ทุกอย่างได้ถูกสร้างขึ้น (ข้อ 16) “พระองค์ทรงดำรงอยู่ก่อนสรรพสิ่งทั้งปวงและสรรพสิ่งทั้งปวงเป็นระเบียบอยู่โดยพระองค์” (ข้อ 17)
เราสามารถใช้เวลาในการอธิษฐาน ศึกษาพระคำ เพื่อค้นหาพระลักษณะของพระบิดาโดยการมองที่พระเยซูผู้ทรงเป็นพระเจ้าที่มีเลือดเนื้อ พระองค์เชื้อเชิญเราให้เป็นพยานถึงความรักของพระองค์ ที่ทรงสำแดงออกต่อผู้คนในพระคัมภีร์และในการดำเนินชีวิตของเราแต่ละวัน หลังจากที่เรายอมมอบชีวิตของเราให้กับพระคริสต์ และได้รับของประทานจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ เราก็สามารถเติบโตในการรู้จักและวางใจในพระบิดาที่รักของเรา พระองค์ทรงเปลี่ยนแปลงเราเพื่อให้เราสะท้อนพระลักษณะของพระองค์ ดังนั้นเราจึงสามารถมีชีวิตเพื่อพระองค์
จะน่าชื่นชมยินดีเพียงไร หากผู้อื่นสามารถพูดได้ว่าเราเหมือนพระเยซู