ผู้เขียน

ดูทั้งหมด

บทความ โดย Nancy Gavilanes

จากรุ่นสู่รุ่น

เมื่อไม่นานมานี้คุณยายสองคนจากรัฐเท็กซัสได้รับความสนใจจากสื่อต่างๆ เพราะเดินทางรอบโลกสำเร็จภายในเวลาแปดสิบวันด้วยวัยแปดสิบเอ็ดปี เพื่อนรักนักเดินทางท่องโลกคู่นี้ซึ่งรู้จักกันมายี่สิบสามปี ได้เดินทางไปครบทั้งเจ็ดทวีป พวกเธอเริ่มจากทวีปแอนตาร์กติกา ไปเต้นแทงโก้ที่อาร์เจนตินา ขี่อูฐที่อียิปต์ และนั่งเลื่อนหิมะขณะอยู่ที่ขั้วโลกเหนือ พวกเธอไปเยือนสิบแปดประเทศ รวมทั้งแซมเบีย อินเดีย เนปาล บาหลี ญี่ปุ่น โรม และจบการเดินทางที่ออสเตรเลีย ทั้งคู่หวังว่าพวกตนจะเป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ได้สนุกกับการท่องเที่ยวรอบโลกโดยไม่ต้องคำนึงถึงอายุ

ในพระธรรมอพยพเราได้อ่านเรื่องราวของคนวัยแปดสิบสองคน ซึ่งพระเจ้าทรงเลือกให้พบกับการผจญภัยที่พวกเขาไม่เคยพบเจอมาก่อนในชีวิต พระองค์ทรงเรียกโมเสสให้ไปเฝ้าฟาโรห์และเรียกร้องให้ปลดปล่อยประชากรของพระองค์จากการเป็นทาส พระเจ้าทรงส่งอาโรนพี่ชายของโมเสสมาช่วย “เมื่อเขาทั้งสองไปทูลฟาโรห์นั้น โมเสสมีอายุแปดสิบปี และอาโรนมีอายุแปดสิบสามปี” (อพย.7:7)

พระบัญชานี้เป็นที่น่าตระหนกสำหรับคนทุกวัย แต่พระเจ้าทรงเลือกพี่น้องคู่นี้ให้ทำหน้าที่นี้ และพวกเขาก็ทำตามพระบัญชา “โมเสสกับอาโรนจึงเข้าไปเฝ้าฟาโรห์ เขากระทำตามที่พระเจ้าทรงบัญชา” (ข้อ 10)

โมเสสกับอาโรนได้รับเกียรติให้เป็นพยานในเหตุการณ์ที่พระเจ้าทรงปลดปล่อยประชากรของพระองค์จากการเป็นทาสมานานกว่าสี่ร้อยปี ชายทั้งคู่เป็นตัวอย่างว่าพระเจ้าทรงสามารถใช้เราไม่ว่าเราจะอายุเท่าใด ไม่ว่าเราจะเป็นคนหนุ่มสาวหรือชรา ให้เราติดตามพระองค์ไปทุกแห่งหนที่ทรงนำไป

ชำระจนสะอาดโดยพระคริสต์

การเดินทางไปทำพันธกิจระยะสั้นครั้งแรกของฉันคือที่ป่าอเมซอนในประเทศบราซิล เพื่อช่วยสร้างคริสตจักรแห่งหนึ่งที่อยู่ริมแม่น้ำ บ่ายวันหนึ่ง เราไปเยี่ยมบ้านหนึ่งในไม่กี่หลังในบริเวณนั้นซึ่งมีเครื่องกรองน้ำ เมื่อเจ้าของบ้านเทน้ำขุ่นๆจากบ่อน้ำลงไปบนที่กรอง ภายในไม่กี่นาทีสิ่งสกปรกทั้งหมดถูกกำจัดออกไปเหลือไว้แต่น้ำดื่มที่ใสสะอาด ณ ห้องนั่งเล่นของชายคนนั้น ฉันได้เห็นภาพที่สะท้อนถึงความหมายของการถูกชำระให้สะอาดโดยพระคริสต์

เมื่อเราเข้ามาหาพระเยซูในครั้งแรกพร้อมกับความผิดบาปและความอับอาย แล้วทูลขอให้พระองค์ทรงยกโทษและต้อนรับพระองค์มาเป็นพระผู้ช่วยให้รอดนั้น พระองค์ก็ได้ทรงชำระเราจากความบาปและทำให้เราเป็นคนใหม่ เราได้รับการชำระให้บริสุทธิ์เหมือนน้ำขุ่นๆที่ถูกเปลี่ยนให้เป็นน้ำดื่มที่ใสสะอาด เป็นเรื่องน่ายินดีเพียงใดที่ได้รู้ว่าเราเป็นคนชอบธรรมสำหรับพระเจ้าเพราะการเสียสละของพระเยซู (2 คธ.5:21) และรู้ว่าพระเจ้าทรงกำจัดความบาปของเราไปไกลเท่าที่ตะวันออกไกลจากตะวันตก (สดด.103:12)

แต่อัครสาวกยอห์นเตือนว่า สิ่งนี้ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ทำบาปอีก เมื่อใดที่เราทำบาป เราก็มั่นใจได้จากภาพของเครื่องกรองน้ำนั้นและเราไม่ต้องกังวลเพราะรู้ว่า “ถ้าเราสารภาพบาปของเรา พระองค์ทรงสัตย์ซื่อและเที่ยงธรรม ก็จะทรงโปรดยกบาปของเรา และจะทรงชำระเราให้พ้นจากการอธรรมทั้งสิ้น” (1 ยน.1:9)

ขอให้เราดำเนินชีวิตอย่างมั่นใจโดยรู้ว่าเราได้รับการชำระให้สะอาดอยู่เสมอ โดยพระคริสต์

การสรรเสริญแบบไม่ได้เตรียมการ

ในการเดินทางไปทำพันธกิจช่วงสั้นๆที่ประเทศเอธิโอเปีย ทีมของเราได้ร่วมกับทีมพันธกิจในท้องถิ่นอีกทีมหนึ่ง เพื่อประกาศกับกลุ่มวัยรุ่นชายที่ประสบปัญหาและอาศัยอยู่ในเพิงของโรงเก็บขยะ ช่างน่าดีใจที่ได้พบกับพวกเขา! เราแบ่งปันคำพยาน คำพูดหนุนใจและอธิษฐานด้วยกัน ช่วงหนึ่งที่ฉันชอบที่สุดในเย็นวันนั้น คือตอนที่สมาชิกคนหนึ่งในทีมท้องถิ่นเล่นกีตาร์และเราได้นมัสการกับเพื่อนใหม่ของเราใต้แสงจันทร์ ช่างเป็นช่วงเวลาที่เราได้ถวายนมัสการพระเจ้าจริงๆ! แม้ชายหนุ่มเหล่านี้อยู่ในสถานการณ์ซึ่งเลวร้าย แต่พวกเขามีความหวังและความชื่นชมยินดีที่พบได้ในพระเยซูเท่านั้น

ในกิจการบทที่ 16 เราอ่านอีกเรื่องเกี่ยวกับการร้องเพลงสรรเสริญแบบไม่ได้เตรียมการครั้งนี้เริ่มขึ้นใน​คุก​ที่​เมือง​ฟีลิปปี เปาโลและสิลาสถูกจับ ถูกโบยตี ถูกด่าว่าและถูกจองจำขณะรับใช้พระเยซู แทนที่จะยอมจำนนต่อความสิ้นหวัง พวกเขานมัสการพระเจ้าด้วยการ “อธิษฐานและร้องเพลง” ในห้องขัง “ในทันใดนั้น เกิดแผ่นดินไหวใหญ่จนรากคุกสะเทือนสะท้าน และประตูคุกเปิดหมดทุกบาน เครื่องจำจองก็หลุดจากเขาสิ้นทุกคน” (ข้อ 25-26)

ความคิดแรกของผู้คุมคือการจบชีวิตตนเอง แต่เมื่อเขารู้ว่านักโทษไม่ได้หลบหนีไป เขาจึงเกิดความยำเกรงพระเจ้า และความรอดมาถึงครัวเรือนของเขา (ข้อ 27-34)

พระเจ้าทรงชื่นชอบที่จะฟังเราสรรเสริญพระองค์ ให้เรานมัสการพระองค์ทั้งในยามที่ชีวิตขึ้นสูงและในยามที่ตกต่ำ

ทิ้งมรดกฝ่ายวิญญาณไว้

ตอนเป็นวัยรุ่น ฉันกับน้องสาวไม่เข้าใจการตัดสินใจของแม่ที่ต้อนรับพระเยซูเป็นพระผู้ช่วยให้รอด แต่เราไม่อาจปฏิเสธการเปลี่ยนแปลงที่เราเห็นในตัวแม่ แม่มีสันติสุขและความชื่นชมยินดีมากขึ้นและเริ่มรับใช้ที่คริสตจักรอย่างสัตย์ซื่อ แม่หิวกระหายที่จะศึกษาพระคัมภีร์มากจนเข้าเรียนและจบการศึกษาจากวิทยาลัยพระคริสตธรรม ไม่กี่ปีหลังจากการตัดสินใจของแม่ พี่สาวก็ต้อนรับพระคริสต์และเริ่มรับใช้พระองค์ และไม่กี่ปีหลังจากนั้นฉันก็เชื่อวางใจในพระเยซูและเริ่มรับใช้พระองค์เช่นกัน หลายปีต่อมาพ่อก็เชื่อในพระองค์ร่วมกันกับเราด้วย การตัดสินใจของแม่ในการมาหาพระคริสต์สร้างแรงกระเพื่อมที่เปลี่ยนแปลงชีวิตครอบครัวเราและในหมู่เครือญาติ

เมื่ออัครทูตเปาโลเขียนจดหมายฉบับสุดท้ายถึงทิโมธีและหนุนใจให้เขารักษาความเชื่อในพระเยซู ท่านระบุถึงมรดกฝ่ายวิญญาณของทิโมธี “ข้าพเจ้าระลึกถึงความเชื่ออย่างจริงใจของท่าน อันเป็นความเชื่อซึ่งเมื่อก่อนได้มีอยู่ในโลอิสยายของท่าน และในยูนีสมารดาของท่าน และบัดนี้ข้าพเจ้าเชื่อว่ามีอยู่ในท่าน” (2 ทธ.1:5)

คุณแม่และคุณยายทั้งหลาย การตัดสินใจของพวกคุณอาจส่งผลต่อคนรุ่นหลัง

ช่างงดงามเหลือเกินที่ยายและแม่ของทิโมธีได้ช่วยบ่มเพาะความเชื่อของเขา เพื่อเขาจะกลายเป็นคนที่พระเจ้าทรงเรียกให้เขาเป็น

เนื่องในวันแม่และวันต่อๆไปนั้น ขอให้เราเชิดชูคุณแม่ที่ตัดสินใจติดตามพระเยซูและขอให้เราทิ้งมรดกฝ่ายวิญญาณไว้ให้คนที่เรารักด้วยเช่นกัน

เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไป นั่นเป็นการแสดงว่าท่านยอมรับ นโยบายการใช้คุกกี้ของเรา