ผู้เขียน

ดูทั้งหมด

บทความ โดย Mike Wittmer

ลงทุนในผู้อื่น

บริษัทแห่งหนึ่งเสนอไมล์สะสมหนึ่งพันไมล์จากการซื้ออาหารหนึ่งชนิดในทุกๆสิบครั้ง ชายคนหนึ่งรู้ว่าสินค้าที่ถูกที่สุดคือช็อกโกแลตพุดดิ้ง เขาซื้อมากกว่าหมื่นสองพันชิ้น ด้วยเงิน 3,000 ดอลลาร์เขาจึงได้รับสถานภาพบัตรทองและสะสมไมล์การบินตลอดชีวิตสำหรับตนและครอบครัว นอกจากนี้เขายังได้บริจาคพุดดิ้งเพื่อการกุศล ซึ่งทำให้เขาได้หักภาษี 800 ดอลลาร์ ช่างเป็นอัจฉริยะจริงๆ!

พระเยซูตรัสคำอุปมาซึ่งเป็นที่ถกเถียงเรื่องคนต้นเรือนผู้ฉลาดแกมโกง เมื่อเขาใกล้จะถูกไล่ออก ก็ได้ลดจำนวนหนี้แก่ลูกหนี้ที่เป็นหนี้นายของตน โดยรู้ว่าภายหลังตนอาจพึ่งพาการช่วยเหลือจากพวกเขาได้เพราะความกรุณาที่ตนทำในตอนนี้ พระเยซูไม่ได้ยกย่องการทำธุรกิจที่ผิดจริยธรรม แต่ทรงรู้ว่าเราเรียนรู้ได้จากความเฉลียวฉลาดของเขา ทรงตรัสว่าเราควรหลักแหลม “กระทำตัวให้มีมิตรสหายด้วยทรัพย์สมบัติอธรรม เพื่อเมื่อทรัพย์นั้นเสียไปแล้ว เขาจะได้ต้อนรับท่านไว้ในที่อาศัยอันถาวรเป็นนิตย์” (ลก.16:9) เหมือน “นายพุดดิ้งคนนั้น” ที่เปลี่ยนขนมราคา 25 เซ็นต์ให้กลายเป็นเที่ยวบิน ดังนั้นเราอาจใช้ “ความมั่งคั่งทางโลก” เพื่อให้ได้มาซึ่ง “ความมั่งคั่งที่แท้จริง” (ข้อ 11)

ความมั่งคั่งเหล่านี้คืออะไร พระเยซูตรัสว่า “จงให้แก่คนยากจน” และท่านจะ “กระทำถุงใส่เงินสำหรับตนซึ่งไม่รู้เก่า คือให้มีทรัพย์สมบัติไว้ในสวรรค์ซึ่งไม่รู้หมดสิ้น ที่ขโมยมิได้เข้ามาใกล้และที่ตัวแมลงมิได้ทำลายเสีย” (12:33) การลงทุนของเราไม่ได้ทำให้เรารอด แต่เป็นการยืนยันถึงความรอดนั้น “เพราะว่าทรัพย์สมบัติของท่านอยู่ที่ไหน ใจของท่านก็อยู่ที่นั่นด้วย” (ข้อ 34)

รักเหมือนที่แม่รัก

ฮวนนิต้าเล่าให้หลานชายฟังถึงการเติบโตขึ้นมาในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในอเมริกา ครอบครัวที่ยากจนของเธอมีเพียงแอปเปิลเพื่อประทังชีวิต และสัตว์ป่าที่พ่อเธอจะล่ามาได้ เมื่อไหร่ที่พ่อจับกระรอกมาทำเป็นอาหารมื้อเย็น แม่ของเธอจะพูดว่า “เอาหัวกระรอกมาให้แม่ แม่อยากกินแต่หัวของมัน เนื้อส่วนนี้อร่อยที่สุด” หลายปีต่อมา ฮวนนิต้าจึงรู้ว่าหัวกระรอกนั้นไม่มีเนื้อ แม่ไม่ได้กินหัวกระรอก แม่แค่แสร้งทำว่ามันเป็นของดีหายาก “เพื่อที่พวกเราลูกๆจะได้กินมากขึ้นโดยไม่ต้องเป็นห่วงท่าน”

วันพรุ่งนี้เมื่อเราจะฉลองวันแม่ ขอให้เราเล่าเรื่องราวการอุทิศทุ่มเทของแม่ของเราเช่นกัน เราขอบคุณพระเจ้าสำหรับแม่ และเพียรพยายามที่จะรักให้ได้เหมือนที่แม่รัก

เปาโลรับใช้คริสตจักรในเมืองเธสะโลนิกา “เหมือนมารดาที่เลี้ยงดูลูกของตน” (1 ธส.2:7) ท่านรักอย่างเอาจริงเอาจัง ต่อสู้กับ “การต่อต้านอย่างรุนแรง” เพื่อจะบอกพวกเขาเกี่ยวกับพระเยซูและแบ่งปันชีวิตของท่านกับพวกเขา (ข้อ 2, 8) “เมื่อเราประกาศข่าวประเสริฐของพระเจ้าให้ท่านฟัง เราทำงานทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อเราจะไม่เป็นภาระแก่ผู้ใดในพวกท่าน” (ข้อ 9) ช่างเหมือนแม่
ไม่มีผิด

มีไม่กี่คนที่สามารถต้านทานความรักของแม่ได้ และเปาโลกล่าวอย่างอ่อนน้อมว่าความอุทิศทุ่มเทของท่าน “ไม่ไร้ประโยชน์เลย” (ข้อ 1) เราไม่สามารถควบคุมได้ว่าคนอื่นจะตอบสนองอย่างไร แต่เราเลือกได้ว่าเราจะตั้งใจรับใช้พวกเขาอย่างเสียสละและสม่ำเสมอ แม่จะภูมิใจและพระบิดาแห่งฟ้าสวรรค์ก็เช่นกัน

พ่อของการมุสา

วิคเตอร์ค่อยๆเสพติดสื่อลามกทีละน้อย เพื่อนของเขาหลายคนดูสื่อลามก และเขาตกลงไปในวังวนนี้เช่นกัน แต่ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่ามันเป็นสิ่งที่ผิด เขาทำบาปต่อพระเจ้าและทำให้ภรรยาเสียใจมาก เขาปฏิญาณว่าจะป้องกันชีวิตตัวเองและไม่กลับไปดูมันอีก แต่เขากลัวว่ามันจะสายไป ชีวิตแต่งงานของเขาจะรอดไหม เขาจะเป็นอิสระและได้รับการยกโทษอย่างแท้จริงไหม

ศัตรูของเราคือมารร้ายนำเสนอสิ่งล่อใจให้ดูราวกับมันไม่ใช่เรื่องใหญ่ ใครๆเขาก็ทำกัน มันอันตรายตรงไหน แต่ทันทีที่เรารู้เท่าทันแผนร้ายของมัน มันจะเปลี่ยนวิธี สายไปแล้วล่ะ! คุณมาไกลเกินไปแล้ว! คุณหมดหวังแล้ว!

เมื่อเราเข้าสู่สงครามฝ่ายวิญญาณ ศัตรูจะพูดทุกอย่างเพื่อทำลายเรา พระเยซูตรัสว่า “มันเป็นผู้ฆ่าคนตั้งแต่ปฐมกาลและมิได้ตั้งอยู่ในสัจจะ เพราะมันไม่มีสัจจะ เมื่อมันพูดเท็จมันก็พูดตามสันดานของมันเอง เพราะมันเป็นผู้มุสา และเป็นพ่อของการมุสา” (ยน.8:44)

ถ้ามารเป็นจอมโกหก เราก็ไม่ควรฟังมัน เวลาที่มันบอกว่าบาปของเราไม่ใช่เรื่องใหญ่ หรือเวลาที่มันบอกว่าเราหมดหวัง ขอพระเยซูทรงช่วยเราไม่ให้ใส่ใจในคำพูดของมารร้ายแต่ให้ฟังพระองค์แทน เราไว้วางใจในพระสัญญาของพระองค์ที่ว่า “ถ้าท่านทั้งหลายดำรงอยู่ในคำของเรา ท่านก็เป็นสาวกของเราอย่างแท้จริง และท่านทั้งหลายจะรู้จักสัจจะ และสัจจะจะทำให้ท่านทั้งหลายเป็นไท” (ข้อ 31-32)

การวินิจฉัยฝ่ายวิญญาณ

การทำคีโมทำให้ก้อนเนื้อในตับอ่อนของพ่อตาผมมีขนาดเล็กลง จนกระทั่งมันไม่ได้ผล เมื่อก้อนเนื้อขยายใหญ่ขึ้นอีกครั้ง ท่านต้องตัดสินใจกับความเป็นความตาย ท่านถามหมอว่า “ผมควรจะรับคีโมต่อหรือลองอย่างอื่น เช่น ยาตัวอื่นหรือการฉายรังสี”

ชนชาติยูดาห์เคยมีคำถามเกี่ยวกับความเป็นความตายเช่นเดียวกัน หลังจากเหนื่อยล้ากับสงครามและการขาดแคลนอาหาร คนของพระเจ้าสงสัยว่าปัญหาของพวกเขาคือบูชารูปเคารพมากเกินไปหรือน้อยไป พวกเขาสรุปว่าควรจะถวายบูชาแด่พระเทียมเท็จมากขึ้นและดูว่านางจะปกป้องและอวยพรพวกเขาหรือไม่ (ยรม.44:17)

เยเรมีย์บอกว่าพวกเขาวินิจฉัยสถานการณ์ผิดไปมาก ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ว่าขาดการบูชารูปเคารพ แต่ปัญหาคือเพราะมีการบูชารูปเคารพต่างหาก พวกเขาบอกเยเรมีย์ว่า “สำหรับ​ถ้อยคำ​ซึ่ง​ท่าน​ได้​บอก​แก่​เรา ใน​พระ​นาม​ของ​พระ​เจ้า​นั้น เรา​จะ​ไม่​ฟัง​ท่าน” (ข้อ 16) เยเรมีย์ตอบว่า “เพราะ​ว่า​ท่าน​ได้​เผา​เครื่อง​หอม และ​เพราะ​ว่า​ท่าน​ได้​กระทำ​บาป​ต่อ​พระ​เจ้า และ​ไม่​เชื่อ​ฟัง​พระ​สุรเสียง​ของ​พระ​เจ้า หรือ​ดำเนิน​ตาม​พระ​ธรรม​ของ​พระ​องค์​ตาม​กฎหมาย​ของ​พระ​องค์ และ​ตาม​พระ​โอวาท​ของ​พระ​องค์ โทษ​นี้​จึง​ได้​ตก​แก่​ท่าน” (ข้อ 23)

เช่นเดียวกับชนชาติยูดาห์ เราอาจถูกทดลองให้ทำบาปมากขึ้นซึ่งนำเราไปสู่ปัญหา มีปัญหาด้านความสัมพันธ์หรือ เราจะยิ่งเหินห่างให้มากกว่าเดิม มีปัญหาด้านการเงินหรือ เราจะใช้เงินซื้อความสุข ถูกกีดกันหรือ เราจะร้ายกลับไม่แพ้กัน แต่รูปเคารพที่เป็นเหตุให้เราเจอปัญหานั้นไม่สามารถช่วยเราได้ มีเพียงพระเยซูที่ทรงพาเราผ่านปัญหาได้เมื่อเราหันไปหาพระองค์

จิ้งจอกตัวเล็ก

นักบินใส่แก้วชาลงไปในที่วางแก้วไม่ได้ เขาจึงวางไว้บนแผงควบคุมตรงกลาง เมื่อเครื่องบินตกหลุมอากาศ น้ำชาจึงหกใส่แผงควบคุมทำให้เครื่องยนต์ดับ เที่ยวบินนั้นถูกเปลี่ยนเส้นทางและลงจอดอย่างปลอดภัย แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นอีกครั้งกับลูกเรือของสายการบินอื่นในเวลาสองเดือนต่อมา บริษัทผู้ผลิตจึงตระหนักว่ามีปัญหา เครื่องบินมีราคา 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่กลับมีที่วางแก้วเล็กเกินไป การละเลยที่ดูเหมือนเล็กน้อยนี้นำไปสู่ช่วงเวลาที่เจ็บปวดใจ

รายละเอียดเล็กๆสามารถทำลายแผนการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดได้ ดังนั้นชายในบทเพลงซาโลมอนจึงเรียกร้องให้คนรักจับ “สุนัขจิ้งจอกตัวเล็กที่ทำลายสวนองุ่น” แห่งความรักของพวกเขา (2:15) ท่านเคยเห็นว่ามีสุนัขจิ้งจอกปีนข้ามกำแพงและขุดคุ้ยเพื่อหาองุ่น การจับพวกมันทำได้ยากเพราะพวกมันพุ่งเข้าไปในสวนองุ่นและหายไปในความมืด แต่จะละเลยพวกมันไม่ได้

สิ่งใดคุกคามความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดที่สุดของคุณ อาจไม่ใช่เป็นการทำความผิดใหญ่โต แต่เป็นสุนัขจิ้งจอกตัวเล็กๆ คำพูดบางคำในบางเวลา ที่คอยขุดรากถอนโคนความรักของคุณ ความผิดเล็กน้อยสะสมมากขึ้น ทำให้มิตรภาพที่เคยเบ่งบานหรือชีวิตแต่งงานที่เคยดูดดื่มอาจตกอยู่ในภาวะวิกฤติ

ขอพระเจ้าทรงช่วยเราจับสุนัขจิ้งจอกตัวเล็กเหล่านั้นด้วยเถิด! ให้เราทูลขอและยอมให้อภัย และบำรุงเลี้ยงต้นองุ่นของเราในดินแห่งการแสดงความห่วงใยในขณะที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมสิ่งที่เราต้องการ

สิ่งทรงสร้างทั้งน้อยใหญ่

มิเชล แกรนท์ ฝึกลูกบีเวอร์ที่ชื่อทิมเบอร์ให้กลับสู่ป่า เมื่อเธอพามันไปว่ายน้ำในสระ มันจะกลับมาหาเธอที่เรือคายัคพร้อมกับซุกตัวและถูจมูก เช้าวันหนึ่งทิมเบอร์ไม่กลับมา มิเชลค้นหามันทั่วสระเป็นเวลาหกชั่วโมงก่อนที่จะยอมแพ้ สัปดาห์ต่อมาเธอพบหัวกะโหลกของบีเวอร์ เธอคิดว่าเป็นทิมเบอร์จึงเริ่มร้องไห้

ผมรู้สึกเจ็บปวดใจไปกับมิเชลและทิมเบอร์ ผมบอกตัวเองว่า “อย่าไปคิดอะไรมาก มันเป็นเพียงแค่หนูน้ำตัวหนึ่งเท่านั้น” แต่ความจริงคือผมรู้สึกห่วงใย และพระเจ้าก็เช่นกัน ความรักของพระองค์สูงถึงฟ้าสวรรค์และลงมาสู่สิ่งมีชีวิตที่เล็กที่สุด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งทรงสร้างที่พระองค์ทรงเรียกให้เราดูแล (ปฐก.1:28) พระองค์ทรงรักษา “ทั้งมนุษย์และสัตว์” (สดด.36:6) และประทาน “อาหารแก่สัตว์ และแก่ลูกกาที่ร้อง” (147:9)

วันหนึ่งขณะที่มิเชลกำลังพายเรือคายัคอยู่ในสระของเพื่อนบ้าน มีเรื่องประหลาดเกิดขึ้นคือทิมเบอร์อยู่ที่นั่น! มันพบครอบครัวบีเวอร์และกำลังช่วยพวกนั้นเลี้ยงลูกอีกสองตัว มันโผล่ขึ้นมาข้างเรือคายัคของมิเชล เธอยิ้มและพูดว่า “เจ้าดูดีและมีครอบครัวที่น่ารักนะ” มันส่งเสียงร้องพร้อมกับสะบัดหางและว่ายไปหาแม่ใหม่ของมัน

ผมชอบตอนจบที่มีความสุข โดยเฉพาะของผมเอง! พระเยซูทรงสัญญาว่า พระบิดาทรงเลี้ยงนกฉันใด พระองค์ก็จะทรงจัดเตรียมสิ่งที่จำเป็นให้กับเราเช่นกัน (มธ.6:25-26) “ถ้าพระบิดาของท่านไม่ทรงเห็นชอบ นกนั้นแม้สักตัวเดียวจะตกลงถึงดินก็ไม่ได้...เหตุฉะนั้นอย่ากลัวเลย ท่านทั้งหลายก็ประเสริฐกว่านกกระจาบหลายตัว” (10:29-31)

รักคนที่คุณรัก

เอมอสเป็นคนชอบแสดงออกที่เอาแต่ใจ ขณะที่แดนนี่เป็นคนเก็บตัวที่ชอบสงสัยในตัวเอง แต่อัจฉริยะที่แปลกประหลาดทั้งสองคนกลายเป็นเพื่อนรักกัน พวกเขาใช้เวลาสิบปีหัวเราะและเรียนรู้ร่วมกัน วันหนึ่งผลงานของพวกเขาอาจได้รับรางวัลโนเบล แต่แดนนี่เบื่อหน่ายกับการยึดตัวเองเป็นศูนย์กลางของเอมอส และบอกกับเขาว่าพวกเขาไม่เป็นเพื่อนกันอีกต่อไป

สามวันต่อมาเอมอสโทรไปบอกข่าวร้าย หมอตรวจพบมะเร็งและบอกเขาว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียงหกเดือน แดนนี่หัวใจแตกสลาย “เราเป็นเพื่อนกัน” เขาพูด “ไม่ว่านายจะคิดยังไงเราก็ยังเป็นเพื่อนกัน”

เปาโลเป็นคนมีนิมิตที่ดื้อรั้น ขณะที่บารนาบัสเป็นผู้หนุนน้ำใจที่มีจิตใจอ่อนโยน พระวิญญาณนำพวกเขามาทำงานร่วมกัน และส่งพวกเขาให้ออกเดินทางเพื่อไปประกาศ (กจ.13:2-3) พวกเขาเทศนาและก่อตั้งคริสตจักร จนกระทั่งมาขัดแย้งกันในเรื่องที่มาระโกละทิ้งหน้าที่ไป บารนาบัสอยากจะให้โอกาสมาระโกอีกครั้ง แต่เปาโลบอกว่าท่านไม่สามารถเชื่อใจมาระโกได้อีกแล้ว พวกเขาจึงต้องแยกจากกัน (15:36-41)

ในที่สุดเปาโลยกโทษให้มาระโก ท่านลงท้ายจดหมายสามฉบับด้วยคำทักทายหรือคำชมเชยในตัวเขา (คส.4:10; 2 ทธ.4:11; ฟม.1:24) เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับบารนาบัส ท่านมีชีวิตยืนยาวจนได้คืนดีกับเปาโลไหม ผมก็หวังเช่นนั้น

วันนี้ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานการณ์ใด จงพยายามสานสัมพันธ์กับคนที่คุณเคยขัดแย้ง นี่เป็นเวลาที่จะแสดงและบอกพวกเขาว่าคุณรักพวกเขามากเพียงไร

ยกขึ้น

ระหว่างการเยี่ยมชมเรือบรรทุกเครื่องบิน นักบินขับไล่อธิบายว่าเครื่องบินต้องการลมที่ความเร็ว 56 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อจะบินขึ้นจากลานบินที่สั้นแบบนี้ เพื่อให้ได้แรงลมที่คงที่กัปตันจึงหันเรือให้เข้าหาทิศทางลม “ลมควรมาจากด้านหลังของเครื่องบินไม่ใช่หรือครับ” ผมถาม “ไม่ครับ” นักบินตอบ “เครื่องบินจะต้องบินเข้าหาลม นั่นเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้การยกตัวสำเร็จ”

พระเจ้าทรงเรียกโยชูวาให้นำประชากรของพระองค์เข้าไปหา “ลม” ที่รอพวกเขาอยู่ในดินแดนแห่งพันธสัญญา โยชูวาจำเป็นต้องมีสองสิ่ง จากภายในเขาจำเป็นต้อง “เข้มแข็งและกล้าหาญ” (ยชว.1:7) และภายนอกเขาต้องการการท้าทาย ซึ่งรวมถึงภารกิจประจำวันในการนำชาวอิสราเอลนับพันประจันหน้ากับเมืองที่มีกำแพง (6:1-5) รับมือกับความพ่ายแพ้ที่ทำให้เสียขวัญ (7:3-5) จัดการกับการยักยอกของอาคาน (ข้อ 16-26) และนำการรบในสงครามที่ต่อเนื่อง (บทที่ 10-11)

ลมที่พัดปะทะหน้าของโยชูวาจะยกชีวิตของเขาขึ้นตราบเท่าที่แรงขับเคลื่อนของเขามาจากการทรงนำของพระเจ้า พระเจ้าตรัสว่าเขาจะต้อง “ระวังที่จะกระทำตามธรรมบัญญัติทั้งหมด...อย่าหลีกเลี่ยงจากธรรมบัญญัตินั้นไปทางขวามือหรือทางซ้าย...จงตรึกตรองตามนั้นทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อเจ้าจะได้ระวังที่จะกระทำตามข้อความที่เขียนไว้นั้นทุกประการ แล้วเจ้าจะมีความจำเริญและเจ้าจะสำเร็จผลเป็นอย่างดี” (ยชว.1:7-8)

คุณตั้งใจที่จะเดินตามทางของพระเจ้าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหรือไม่ ถ้าเช่นนั้นจงมองหาความท้าทาย จงบินอย่างกล้าหาญเข้าหาลมและมองดูจิตวิญญาณของคุณทะยานขึ้น

นี่คือพระคุณ

วรรณกรรมเรื่องเหยื่ออธรรม เริ่มต้นด้วยเรื่องของนักโทษติดทัณฑ์บนชื่อ ฌอง วาลฌองที่ขโมยเครื่องเงินของบาทหลวง เขาถูกจับและคิดว่าจะต้องถูกส่งตัวกลับไปที่เหมือง แต่บาทหลวงคนนั้นทำให้ทุกคนตกใจเมื่อเขาอ้างว่าได้เป็นคนมอบเครื่องเงินนั้นให้แก่วาลฌองเอง หลังจากตำรวจไปแล้ว เขาหันกลับมาหาหัวขโมยบอกว่า “ท่านไม่ได้เป็นของความชั่วอีกต่อไป แต่เป็นของความดี”

ความรักที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ชี้ให้เห็นถึงความรักที่หลั่งไหลมาจากน้ำพุแห่งพระคุณทั้งปวง ในวันเพ็นเทคอสต์เปโตรกล่าวแก่ผู้ที่มาฟังท่านว่า เมื่อไม่ถึงสองเดือนก่อนพวกเขาได้ตรึงพระเยซูไว้ที่กางเขนในเมืองนั้น ฝูงชนรู้สึกแปลบปลาบใจจึงถามว่าพวกเขาจะต้องทำอย่างไร เปโตรตอบว่า “จงกลับใจใหม่และรับบัพติศมาในพระนามแห่งพระเยซูคริสต์สิ้นทุกคน เพื่อพระเจ้าจะทรงยกความผิดบาปของท่านเสีย” (กจ.2:38) พระเยซูทรงรับเอาการลงโทษที่พวกเขาสมควรได้รับไว้ แล้ว บัดนี้โทษของพวกเขาจะได้รับการอภัย ถ้าพวกเขาไว้วางใจในพระองค์

โอ เรื่องของพระคุณช่างฟังดูย้อนแย้ง มนุษย์จะได้รับการอภัยโทษก็ต่อเมื่อพระคริสต์ทรงสิ้นพระชนม์ ซึ่งความตายนี้เป็นสิ่งที่พวกเขาต้องรับผิดชอบ พระเจ้าทรงพระคุณและทรงฤทธิ์ ทรงใช้บาปที่เลวร้ายที่สุดของมนุษยชาติเพื่อบรรลุถึงความรอดของพวกเรา หากพระเจ้าทรงกระทำสิ่งนี้โดยถือโทษบาปจากการตรึงพระเยซู เราก็รู้ว่าพระองค์จะยังทรงให้เกิดสิ่งดีได้ในทุกสิ่ง จงเชื่อวางใจในพระองค์ผู้ “ทรงช่วยคนที่รักพระองค์ให้เกิดผลอันดีในทุกสิ่ง” (รม.8:28)

เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไป นั่นเป็นการแสดงว่าท่านยอมรับ นโยบายการใช้คุกกี้ของเรา