กุญแจแห่งรัก
ฉันยืนทึ่งกับแม่กุญแจหลายแสนตัวที่สลักชื่อย่อของคู่รักเอาไว้และแขวนอยู่ในพื้นที่ทุกตารางนิ้วบนสะพานปงเดซาร์ในปารีส สะพานคนเดินข้ามแม่น้ำแซนแห่งนี้เต็มไปด้วยสัญลักษณ์แห่งความรัก และการประกาศคำมั่นสัญญา “ชั่วนิรันดร์” ของคู่รัก ในปี 2014 กุญแจแห่งรักเหล่านี้มีน้ำหนักราวห้าสิบตัน และเป็นเหตุให้สะพานบางส่วนพังลงมาจึงต้องถอดกุญแจออก
ปรากฏการณ์ของกุญแจแห่งรักจำนวนมากนี้ชี้ให้เห็นถึงความปรารถนาลึกๆของมนุษย์ที่ต้องการเครื่องรับประกันว่าความรักจะมั่นคง ในหนังสือเพลงซาโลมอนจากพันธสัญญาเดิมได้บรรยายภาพของคู่รัก ฝ่ายหญิงบอกถึงความปรารถนาในรักที่มั่นคง โดยการขอให้คนรักของเธอ “แนบดิฉันไว้ให้เป็นเนื้อเดียวดุจดวงตราแขวนอยู่ที่ใจของเธอ ประดุจดวงตราบนแขนของเธอ” (พซม.8:6) ความปรารถนาของเธอคือการอยู่อย่างปลอดภัยและมั่นคงในความรักของเขาเหมือนกับตราที่ประทับบนหัวใจของเขา หรือแหวนบนนิ้วของเขา
ความปรารถนาแห่งรักอันยั่งยืนของหนุ่มสาวที่บรรยายไว้ในเพลงซาโลมอนชี้ให้เราเห็นความจริงจากพระธรรมเอเฟซัสในพันธสัญญาใหม่ ที่บอกว่าเราได้รับการผนึก “ตรา” ไว้ด้วยพระวิญญาณของพระเจ้า (1:13) ในขณะที่ความรักของมนุษย์อาจแปรเปลี่ยน และกุญแจอาจถูกถอดออกจากสะพาน แต่พระวิญญาณของพระคริสต์ผู้สถิตอยู่ภายในเรา ทรงเป็นตราประทับนิรันดร์ที่แสดงถึงความรักอันมั่นคงและไม่สิ้นสุดที่พระเจ้ามีต่อลูกของพระองค์ทุกคน
ตั้งชื่อโดยพระเจ้า
สายต้าน แม่ค้างคาวสาว จอมถ่ายพลัง ฉายาเหล่านี้เป็นคำที่เราใช้เรียกผู้ให้คำปรึกษาในค่ายฤดูร้อนที่ครอบครัวเราไปเข้าร่วมเป็นประจำทุกปี ชื่อเล่นที่เพื่อนร่วมค่ายตั้งให้นี้มักมาจากเหตุการณ์ที่น่าขายหน้า อุปนิสัยที่ตลก หรืองานอดิเรกที่คนๆนั้นชื่นชอบ
ฉายาเหล่านี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในค่าย แต่เรายังพบในพระคัมภีร์อีกด้วยตัวอย่างเช่น พระเยซูทรงขนานนามอัครทูตยากอบและยอห์นว่า “ลูกฟ้าร้อง” (มก.3:17) ไม่บ่อยนักที่บุคคลในพระคัมภีร์จะตั้งฉายาให้กับตัวเอง แต่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อหญิงที่ชื่อนาโอมีให้คนเรียกเธอว่า “มารา” ซึ่งแปลว่า “ขมขื่น” (นรธ.1:20) เพราะทั้งสามีและลูกชายสองคนของเธอเสียชีวิต เธอรู้สึกว่าพระเจ้าทำให้ชีวิตของเธอขมขื่น (ข้อ 21)
อย่างไรก็ตาม ชื่อใหม่ที่นาโอมีใช้เรียกตัวเองไม่ได้ติดตัวเธอไป เพราะความสูญเสียอันยิ่งใหญ่นี้ไม่ใช่จุดจบในเรื่องราวของเธอ ท่ามกลางความเศร้าโศกนั้น พระเจ้าทรงอวยพรเธอผ่านทางนางรูธลูกสะใภ้ที่แสนดี ซึ่งในที่สุดก็ได้แต่งงานใหม่และมีบุตรชายหนึ่งคน ส่งผลให้นาโอมีได้มีครอบครัวใหม่อีกครั้ง
แม้บางครั้งเราอาจถูกทดลองให้ตั้งฉายาที่ขมขื่นให้ตัวเอง เช่น “ไอ้ขี้แพ้” หรือ “คนไม่น่ารัก” ตามความทุกข์ยากลำบากที่เราเผชิญหรือข้อผิดพลาดที่เราทำ แต่ชื่อเหล่านั้นไม่ใช่จุดจบของเรื่องราวทั้งหมดในชีวิต เราสามารถแทนที่คำตราหน้าเหล่านั้นด้วยชื่อที่พระเจ้าประทานให้ คือ “เป็นที่รัก” (รม.9:25) และมองหาหนทางที่พระองค์ทรงจัดเตรียมให้กับเราแม้กระทั่งในเวลาที่ท้าทายที่สุด
ถูกทรยศ
ในปี 2019 งานแสดงศิลปะทั่วโลกต่างฉลองครบรอบห้าร้อยปีแห่งการเสียชีวิตของลีโอนาโด ดาวินชี ในขณะที่มีการจัดแสดงภาพวาดและการค้นพบทางวิทยาศาสตร์มากมายของเขา แต่กลับมีภาพเขียนเพียงห้าภาพซึ่งเป็นที่ยอมรับทั่วโลกว่าเขียนโดยดาวินชี รวมถึงภาพอาหารมื้อสุดท้าย
ภาพนี้แสดงถึงการร่วมรับประทานอาหารมื้อสุดท้ายของพระเยซูกับเหล่าสาวกจากพระธรรมยอห์น โดยจับภาพความงุนงงของสาวกเมื่อพระเยซูตรัสว่า “คนหนึ่งในพวกท่านจะอายัดเราไว้” (ยน.13:21) เหล่าสาวกต่างสงสัยว่าคนทรยศนั้นคือใคร ขณะที่ยูดาสลอบออกไปเพื่อบอกทหารว่าพระอาจารย์และเพื่อนของเขาอยู่ที่ไหน
ความเจ็บปวดจากการทรยศปรากฏในคำตรัสของพระเยซูว่า “ผู้รับประทานอาหารของข้าพระองค์ก็ยกส้นเท้าใส่ข้าพระองค์” (ข้อ 18) เพื่อนที่ใกล้ชิดมากจนร่วมมื้ออาหารกันได้ใช้ความสัมพันธ์นั้นทำร้ายพระองค์
เราอาจเคยถูกเพื่อนหักหลัง เราทำอย่างไรกับความเจ็บปวดนั้น สดุดี 41:9 ซึ่งพระเยซูตรัสถึงในระหว่างรับประทานอาหาร (ยน.13:18) ทำให้เรามีความหวัง หลังจากดาวิดระบายความเจ็บปวดจากการถูกเพื่อนสนิทหลอกลวง ท่านได้รับการปลอบโยนในความรักและการสถิตอยู่ด้วยของพระเจ้า ซึ่งค้ำชูและวางท่านไว้ต่อเบื้องพระพักตร์ของพระองค์เป็นนิตย์ (สดด.41:11-12)
เมื่อเพื่อนทำให้เราผิดหวัง เราพบการปลอบประโลมได้เมื่อรู้ว่าความรักมั่นคงและการทรงสถิตของพระเจ้าจะช่วยเราให้ทนต่อความทุกข์แสนสาหัสได้
พบตามริมขอบ
ท่ามกลางฝูงชนในงานแสดงรถจักรยานยนต์ที่ผู้ขับขี่โชว์ลีลาน่าประทับใจ ฉันต้องยืนเขย่งจึงจะมองเห็น เมื่อมองไปรอบๆฉันเห็นเด็กสามคนนั่งอยู่บนต้นไม้ใกล้ๆ เพราะพวกเขาฝ่าฝูงชนเข้าไปดูจากด้านหน้าไม่ได้เหมือนกัน
สุริยุปราคา
ฉันเตรียมพร้อมสำหรับสุริยุปราคา โดยมีทั้งอุปกรณ์ป้องกันตา ทำเลที่ดูได้ชัด และขนมไหว้พระจันทร์แบบโฮมเมด เช่นเดียวกับผู้คนหลายล้านในสหรัฐ ครอบครัวฉันเฝ้าดูปรากฏการณ์ที่หาชมได้ยากนี้ เมื่อเงาของดวงจันทร์บดบังดวงอาทิตย์จนมิด
สุริยคราสทำให้เกิดความมืดในช่วงบ่ายของฤดูร้อนที่มักมีแดดจ้า แม้สุริยคราสจะเป็นการฉลองที่สนุก และเตือนให้เราระลึกถึงฤทธานุภาพยิ่งใหญ่ของพระเจ้าเหนือสิ่งทรงสร้าง (สดด.135:6-7) แต่ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ความมืดที่เกิดขึ้นระหว่างวันถูกมองว่าผิดปกติและเป็นลางไม่ดี (อพย.10:21; มธ.27:45) เป็นสัญญาณบอกถึงสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น
นี่คือความมืดที่อาโมสผู้เผยพระวจนะในยุคการแยกอาณาจักรในอิสราเอลโบราณหมายถึง ท่านเตือนอาณาจักรเหนือว่า จะถูกทำลายหากยังหันหลังให้พระเจ้า ซึ่งหมายสำคัญคือ“เราจะกระทำให้ดวงอาทิตย์ตกในเวลาเที่ยงวัน กระทำให้โลกมืดไปในกลางวันแสกๆ” (อมส.8:9)
แต่พระประสงค์และเป้าหมายสูงสุดของพระเจ้าทั้งอดีตและปัจจุบันคือ การแก้ไขทุกสิ่งให้ถูกต้อง แม้ผู้คนจะถูกเนรเทศ แต่พระเจ้าสัญญาว่าวันหนึ่งจะทรงนำคนที่เหลืออยู่กลับมายังเยรูซาเล็มและจะ “ตั้งขึ้นใหม่และซ่อมช่องชำรุดต่างๆเสียและยกที่ปรักหักพังขึ้น” (9:11)
เมื่อชีวิตมืดมนที่สุดเหมือนอิสราเอล เราอุ่นใจที่รู้ว่าพระเจ้ากำลังทำการเพื่อนำแสงสว่างและความหวังกลับมาสู่ทุกคน (กจ.15:14-18)
ม่านถูกเปิดออก
เมื่อเครื่องบินบินได้ระดับ แอร์โฮสเตสก็ปิดม่านที่กั้นผู้โดยสารชั้นหนึ่ง และฉันก็ตระหนักถึงความแตกต่างของที่นั่งในแต่ละชั้นบนเครื่องบิน นักเดินทางบางคนได้ขึ้นเครื่องก่อน มีความสุขกับที่นั่งพิเศษที่มีพื้นที่เหยียดขาและบริการเฉพาะบุคคล ม่านเป็นสิ่งย้ำเตือนว่าฉันถูกแยกออกจากคนกลุ่มนั้น
ความแตกต่างระหว่างกลุ่มคนนั้นพบได้ในตลอดประวัติศาสตร์รวมถึงพระวิหารของพระเจ้าในเยรูซาเล็ม โดยไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าใครจ่ายได้มากกว่า คนที่ไม่ใช่ชาวยิวสามารถเข้าไปนมัสการได้แค่พระวิหารชั้นนอก ชั้นถัดมาคือสำหรับผู้หญิง และใกล้เข้ามาอีกคือส่วนของผู้ชาย ในส่วนสุดท้ายคืออภิสุทธิสถานซึ่งพระเจ้าสำแดงพระองค์เองอยู่หลังม่าน และมีเพียงมหาปุโรหิตผู้ชำระตัวแล้วเท่านั้นที่เข้าได้ปีละครั้ง (ฮบ.9:1-10)
แต่น่ายินดีที่การแบ่งแยกนี้ไม่มีอีกต่อไป พระเยซูได้ทำลายสิ่งกีดขวางที่ปิดกั้นการแสวงหาพระเจ้า ซึ่งรวมถึงความผิดบาปของเรา (10:17) เช่นเดียวกับม่านในพระวิหารที่ถูกฉีกเป็นสองส่วนเมื่อพระเยซูสิ้นพระชนม์ (มธ.27:50-51) พระวรกายที่ถูกตรึงก็ได้ทำลายทุกอุปสรรคที่ขวางเราไม่ให้อยู่ต่อหน้าพระพักตร์ ไม่มีสิ่งใดจะแบ่งแยกผู้เชื่อจากการมีประสบการณ์ในพระสิริและความรักของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์ได้
การเปิดเผยที่สมบูรณ์
คนชอบภาพยนตร์คงได้ฟังเสียงไพเราะของเอมิลี่ บลันท์ ดารานำในเรื่อง แมรี่ ป๊อบปิ้นส์กลับมาแล้ว น่าประหลาดที่สามีเธอใช้เวลาถึงสี่ปีหลังแต่งงานกว่าจะพบว่าเธอมีความสามารถในการใช้เสียง ขณะให้สัมภาษณ์ เขาเปิดเผยถึงความประหลาดใจตอนได้ยินเธอร้องเพลงเป็นครั้งแรก และคิดว่า “เมื่อไรคุณถึงจะบอกผมเรื่องนี้”
ในความสัมพันธ์ต่างๆเรามักได้เรียนรู้สิ่งใหม่ บางครั้งก็เหนือความคาดหมาย มีรายละเอียดที่ทำให้ประหลาดใจ ในพระธรรมมาระโก สาวกของพระคริสต์เริ่มต้นด้วยภาพที่ไม่สมบูรณ์ของพระเยซู และพบปัญหาในการเข้าใจว่าพระองค์เป็นใคร ในการเผชิญหน้าบนทะเลสาบกาลิลี พระเยซูได้เปิดเผยพระองค์เองมากขึ้นโดยได้สำแดงฤทธิ์อำนาจเหนือธรรมชาติ
หลังจากเลี้ยงฝูงชนกว่า 5,000 คน พระเยซูทรงส่งสาวกที่ทะเลสาบกาลิลี พวกเขาติดในพายุใหญ่ ก่อนรุ่งสางสาวกตกใจกลัวเมื่อเห็นใครคนหนึ่งเดินมาบนน้ำ เสียงที่แสนคุ้นเคยของพระคริสต์กล่าวถ้อยคำที่เล้าโลมใจ “ทำใจให้ดีไว้เถิด เราเอง อย่ากลัวเลย” (มก.6:50) จากนั้นพระองค์ก็หยุดคลื่นลม เหล่าสาวกเห็นฤทธิ์เดชเช่นนั้นก็ “ประหลาดใจมาก” (ข้อ 51) แม้พวกเขาจะยังคงไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ในประสบการณ์ฤทธิ์อำนาจของพระคริสต์ที่เกิดขึ้น
เมื่อเรามีประสบการณ์ในพระเยซูและฤทธิ์อำนาจเหนือพายุแห่งชีวิต เราจะมีภาพของพระองค์ที่สมบูรณ์มากขึ้น แล้วเราจะประหลาดใจ
ปีติในพระวจนะ
ซึนโดกุ คือสิ่งที่ฉันต้องการเสมอ คำภาษาญี่ปุ่นนี้หมายถึงกองหนังสือข้างเตียงที่รอการอ่าน หนังสือทำให้เราได้เรียนรู้หรือหลีกหนีไปยังเวลาหรือสถานที่อื่นได้ และฉันเฝ้าคอยที่จะได้รับความสุขและความเข้าใจลึกซึ้งจากการอ่านหนังสือ กองหนังสือจึงอยู่ข้างเตียงฉันเสมอ
ความคิดที่ว่าการอ่านทำให้เราเพลิดเพลินและได้ประโยชน์นั้น เป็นจริงยิ่งกว่าเมื่อพูดถึงพระคริสตธรรมคัมภีร์ที่เป็นสุดยอดหนังสือ พระเจ้าให้โยชูวาใช้เวลากับพระวจนะเมื่อท่านรับการเจิมเป็นผู้นำคนใหม่ของอิสราเอล และรับหน้าที่นำพวกเขาเข้าสู่ดินแดนแห่งพระสัญญา (ยชว.1:8)
พระเจ้ารู้ว่ามีความยากลำบากรออยู่ จึงให้ความมั่นใจกับโยชูวาว่า “เราจะอยู่กับเจ้า” (ข้อ 5) ความช่วยเหลือส่วนหนึ่งจะมาเมื่อโยชูวาเชื่อฟังพระบัญชา พระเจ้าจึงตรัสว่า “อย่าให้หนังสือธรรมบัญญัตินี้ห่างเหินไปจากปากของเจ้า แต่เจ้าจงตรึกตรองตามนั้นทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อเจ้าจะได้ระวังที่จะกระทำตามข้อความที่เขียนไว้นั้นทุกประการ” (ข้อ 8) แม้โยชูวาจะมีหนังสือธรรมบัญญัติแล้ว แต่ท่านต้องหมั่นศึกษาเพื่อจะมีสติปัญญาและเข้าใจว่าพระเจ้าเป็นผู้ใดและทรงมีน้ำพระทัยอย่างไรเพื่อคนของพระองค์
วันนี้คุณต้องการคำชี้แนะ ความจริง หรือกำลังใจหรือไม่ ขณะที่เราใช้เวลาอ่าน เชื่อฟัง และรับการบำรุงเลี้ยงผ่านทางพระวจนะ เราสามารถเพลิดเพลินอย่างในพระวจนะตอนนั้นได้ด้วยเช่นกัน (2 ทธ.3:16)
สถิตอยู่ด้วยตลอดเวลา
ระหว่างการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ราดาเมล ฟัลเกา กองหน้าทีมชาติโคลัมเบียทำประตูได้ในนาทีที่ 17 ในการแข่งขันกับโปแลนด์ และได้ชัยชนะ การทำประตูที่เหลือเชื่อครั้งนั้นเป็นการยิงลูกเข้าประตูได้ครั้งที่ 30 ของฟัลเกาในการเล่นระดับนานาชาติ เขาจึงเป็นผู้เล่นทีมชาติโคลัมเบียที่โดดเด่นซึ่งทำประตูได้มากสุดในระดับนานาชาติ
ฟัลเกามักใช้ความสำเร็จในสนามฟุตบอลแบ่งปันความเชื่อ เขามักเลิกเสื้อกีฬาขึ้นเมื่อทำคะแนนได้เพื่อให้เห็นเสื้อตัวในที่มีคำว่า Con Jesus nunca estara solo แปลว่า “เมื่อมีพระเยซูคุณจะไม่มีวันโดดเดี่ยว”
ประโยคนี้ของฟัลเกากล่าวถึงพระสัญญาที่พระเยซูทรงรับรองว่า “เราจะอยู่กับท่านทั้งหลายเสมอไปจนกว่าจะสิ้นยุค” (มธ.28:20) พระเยซูทรงทราบว่าพระองค์จะกลับสู่สวรรค์ในไม่ช้า จึงทรงหนุนใจโดยรับรองว่าจะทรงอยู่กับพวกเขาเสมอ โดยพระวิญญาณของพระองค์ทรงสถิตอยู่ด้วย (ข้อ 20; ยน.14:16-18) และจะปลอบโยน นำทาง คุ้มครอง และให้ฤทธิ์เดชเมื่อพวกเขานำข่าวประเสริฐของพระเยซูไปสู่เมืองทั้งใกล้และไกล และเมื่อพวกเขาประสบกับความโดดเดี่ยวที่สุดในที่ที่ไม่คุ้นเคย ถ้อยคำของพระคริสต์จะก้องอยู่
ในหูของพวกเขา เป็นคำย้ำเตือนว่าพระองค์สถิตกับพวกเขา
ไม่ว่าเราจะไปที่ไหน ใกล้หรือไกลบ้าน เมื่อเราติดตามพระเยซูไปสู่ที่ที่เราไม่รู้จัก เราก็ยึดพระสัญญาเดียวกันนี้ได้ เมื่อเรารู้สึกโดดเดี่ยว แล้วอธิษ-ฐานร้องหาพระเยซู เราจะได้รับการปลอบโยนเพราะรู้ว่าพระองค์ทรงอยู่กับเรา - LMS