เส้นทางที่ยาวไกล
ขณะที่เพื่อนร่วมงานได้เลื่อนตำแหน่งทีละคน เบนจามินได้แต่รู้สึกอิจฉานิดหน่อย “ทำไมคุณยังไม่ได้เป็นผู้จัดการสักที คุณสมควรได้เป็นนะ” เพื่อนๆ บอกกับเขา แต่เบนตัดสินใจมอบงานของเขาไว้กับพระเจ้า “ถ้านี่เป็นแผนการของพระเจ้าสำหรับผม ผมก็แค่ทำงานของผมให้ดี” เขาตอบ
หลายปีต่อมาเบนได้เลื่อนตำแหน่งในที่สุด ถึงตอนนั้นประสบการณ์ที่เพิ่มขึ้นช่วยให้เขาทำงานด้วยความมั่นใจและได้รับความเคารพจากผู้ใต้บังคับบัญชา ขณะเดียวกันเพื่อนของเขาบางคนยังคงมีปัญหากับความรับผิดชอบในการควบคุมดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาเพราะพวกเขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งก่อนที่จะพร้อม เบนตระหนักว่าพระเจ้าทรงพาเขาไปใน “เส้นทางที่ยาวไกล” เพื่อเขาจะได้รับการเตรียมให้พร้อมสำหรับหน้าที่ของเขา
เมื่อพระเจ้าทรงนำชนชาติอิสราเอลออกจากประเทศอียิปต์ (อพย.13:17-18) พระองค์ทรงเลือกเส้นทางที่ไกลกว่า เพราะ “ทางลัด” ไปคานาอันเต็มไปด้วยความเสี่ยง นักวิเคราะห์พระคัมภีร์ตั้งข้อสังเกตว่า ระยะทางที่ไกลกว่าให้เวลาพวกเขามากขึ้นในการทำให้พวกเขาแข็งแกร่งทั้งด้านร่างกาย จิตใจและจิตวิญญาณสำหรับสงครามที่จะตามมา
หนทางที่สั้นที่สุดไม่ได้ดีที่สุดเสมอไป บางครั้งพระเจ้าทรงอนุญาตให้เราใช้เส้นทางที่ไกลกว่าในชีวิต ไม่ว่าในด้านอาชีพหรือความอุตสาหะอื่นๆ เพื่อเตรียมเราให้พร้อมสำหรับการเดินทางที่รออยู่ข้างหน้า เมื่อทุกอย่างดูเหมือนจะเกิดขึ้นไม่รวดเร็วพอ เราสามารถวางใจในพระเจ้า ผู้ทรงนำและชี้ทางให้แก่เรา
ทางอ้อมที่เสี่ยงอันตราย
เสียเวลาจริงๆ ฮาร์ลีย์คิด ตัวแทนประกันของเธอยืนยันที่จะนัดพบเธออีกครั้ง ฮาร์ลีย์รู้ว่ามันคือการเสนอขายประกันที่แสนน่าเบื่อ แต่เธอตัดสินใจว่าจะใช้โอกาสนี้ให้คุ้มค่าโดยเล่าเรื่องความเชื่อของเธอ
เมื่อสังเกตเห็นว่าตัวแทนประกันผู้นี้สักคิ้ว เธอจึงถามถึงสาเหตุอย่างลังเลใจและได้รู้ว่าหญิงผู้นี้สักคิ้วเพื่อจะมีโชคดี คำถามของฮาร์ลีย์เป็นการถามนอกเรื่องไปจากบทสนทนาด้านการเงินตามปกติซึ่งเสี่ยงต่อการเข้าใจผิด แต่ก็ได้เปิดโอกาสให้ทั้งสองได้คุยกันถึงเรื่องโชคและความเชื่อ ทำให้เธอมีโอกาสเล่าว่าทำไมเธอจึงไว้วางใจในพระเยซู การ “เสียเวลา” นั้น กลับกลายเป็นเวลานัดหมายจากพระเจ้า
พระเยซูทรงใช้ทางอ้อมที่เสี่ยงอันตรายเช่นกัน ขณะเสด็จจากแคว้นยูเดียไปกาลิลี พระองค์ออกนอกเส้นทางเพื่อไปพูดคุยกับหญิงชาวสะมาเรีย ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่คาดคิดสำหรับชาวยิว ที่แย่ไปกว่านั้น เธอเป็นหญิงที่ล่วงประเวณีที่แม้แต่ชาวสะมาเรียก็ไม่อยากพูดคุยด้วย แต่พระองค์ทรงพูดคุยกับเธอและทำให้คนมากมายมาถึงความรอด (ยน.4:1-26, 39-42)
คุณจะต้องพบกับคนที่คุณไม่อยากเจอหรือเปล่า คุณมักเดินสวนกับเพื่อนบ้านที่คุณคอยหลีกเลี่ยงหรือไม่ พระคัมภีร์เตือนเราให้เตรียมพร้อมอยู่เสมอ “ทั้งในขณะที่มีโอกาสและไม่มีโอกาส” เพื่อจะแบ่งปันข่าวประเสริฐ (2 ทธ.4:2) ลองใช้ “ทางอ้อม” ดูสิ ใครจะรู้ว่าพระเจ้าอาจกำลังจัดเตรียมโอกาสให้คุณได้พูดเรื่องของพระองค์กับใครบางคนในวันนี้!
แยกกันอย่างกลมเกลียว
การที่อัลวินถูกมอบหมายให้ทำโครงงานร่วมกับทิมเพื่อนร่วมงาน ทำให้เขารู้สึกลำบากใจมาก เขาและทิมมีแนวคิดที่แตกต่างกันมาก แม้จะเคารพในความคิดของกันและกัน แต่วิธีการของทั้งสองแตกต่างกันจนยากที่จะหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง ก่อนที่ความขัดแย้งจะปะทุขึ้น ทั้งสองคนตกลงที่จะคุยเรื่องความต่างนี้กับหัวหน้าผู้ซึ่งให้ทั้งสองแยกทีมกัน การตัดสินใจนี้ส่งผลดี สิ่งที่อัลวินได้เรียนรู้ในวันนั้นคือ การเป็นหนึ่งเดียวกันไม่จำเป็นต้องทำอะไรด้วยกันเสมอไป
อับราฮัมตระหนักถึงความจริงข้อนี้เมื่อท่านบอกกับโลทให้แยกทางกันที่เบธเอล (ปฐก.13:5-9) เมื่อเห็นว่ามีพื้นที่ไม่พอสำหรับฝูงสัตว์ของพวกเขาอับราฮัมจึงบอกอย่างชาญฉลาดให้แยกทางกัน แต่ก่อนอื่น ท่านได้ย้ำว่าพวกเขาเป็น “ญาติสนิท” กัน (ข้อ 8) เพื่อเตือนโลทถึงความสัมพันธ์ แล้วด้วยความถ่อมใจอย่างที่สุดท่านจึงให้หลานเป็นคนเลือกก่อน (ข้อ 9) แม้อับราฮัมจะมีอาวุโสกว่าก็ตาม เหมือนกับที่ศิษยาภิบาลท่านหนึ่งอธิบายไว้ว่า “แยกกันอย่างกลมเกลียว”
พระเจ้าทรงสร้างเราแต่ละคนมาอย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว บางครั้งเราทำงานได้ดีกว่าเมื่อต้องแยกกันทำเพื่อบรรลุจุดมุ่งหมายเดียวกัน เราเป็นหนึ่งเดียวกันได้ในความแตกต่าง ขอให้เราไม่ลืมว่าเรายังเป็นพี่น้องกันในครอบครัวของพระเจ้า เราอาจใช้วิธีที่แตกต่างแต่เรายังคงเป็นหนึ่งเพื่อเป้าหมายเดียวกัน
พระเจ้าทรงอยู่ที่นั่นไหม
เลล่ากำลังจะเสียชีวิตเพราะมะเร็ง และสามีของเธอทิโมธีไม่เข้าใจว่าเหตุใดพระเจ้าผู้เปี่ยมด้วยความรักจึงปล่อยให้ภรรยาของเขาต้องทนทุกข์ทรมาน เธอรับใช้พระองค์ด้วยความสัตย์ซื่อในฐานะครูสอนพระคัมภีร์และให้คำปรึกษาคนมากมาย ทำไมพระองค์จึงยอมให้เกิดเรื่องนี้ขึ้น เขาร้องถาม แต่ทิโมธีก็ยังคงสัตย์ซื่อในการเดินไปกับพระเจ้า
แผนที่ถูกเปลี่ยน
แผนที่เจนจะเป็นนักบำบัดด้านการพูดสิ้นสุดลงเมื่อการฝึกงานทำให้รู้ว่างานนี้มีความท้าทายทางอารมณ์มากเกินไป แล้วเธอก็มีโอกาสเขียนบทความลงนิตยสาร เธอไม่เคยคิดจะเป็นนักเขียน แต่หลายปีต่อมาเธอได้เป็นกระบอกเสียงให้หลายครอบครัวที่ลำบากผ่านงานที่เธอเขียน “เมื่อมองย้อนไป ฉันได้เข้าใจเหตุผลที่พระเจ้าเปลี่ยนแผนของฉัน พระองค์มีแผนการที่ใหญ่กว่าสำหรับฉัน” เธอกล่าว
ในพระคัมภีร์มีหลายเรื่องราวของแผนที่ถูกแทรกแซง ในการไปประกาศครั้งที่สอง เปาโลพยายามนำข่าวประเสริฐไปแคว้นบิธีเนีย แต่พระวิญญาณของพระเยซูหยุดท่านไว้ (กจ.16:6-7) เราอาจสงสัยว่าทำไมพระเยซูขัดขวางแผนการที่สอดคล้องกับงานที่พระเจ้ามอบหมาย คำตอบปรากฏในความฝันคืนหนึ่งว่ามาซิโดเนียต้องการท่านมากกว่า เปาโลจะตั้งคริสตจักรแรกในยุโรปที่นั่น ซาโลมอนเรียนรู้เช่นกันว่า “ในใจของมนุษย์มีแผนงานเป็นอันมาก แต่พระประสงค์ของพระเจ้านั่นแหละจะดำรงอยู่ได้” (สภษ.19:21)
การวางแผนเป็นสิ่งดี ดังคำกล่าว “การพลาดไม่วางแผน คือการวางแผนไปสู่ความผิดพลาด” แต่พระเจ้าอาจแทนที่แผนของคุณด้วยแผนการของพระองค์ สิ่งที่ท้าทายเราคือการเชื่อฟังและทำตามโดยรู้ว่าเราวางใจพระองค์ได้ ถ้าเราจำนนต่อน้ำพระทัยพระองค์ เราจะอยู่ในแผนการที่ทรงมีต่อชีวิตเรา
ขณะที่วางแผน ให้เราเพิ่มข้อคิดที่ว่า จงวางแผนที่จะฟัง ให้เราเชื่อฟังแผนการของพระเจ้า
แบ่งแยกในความรัก
การอภิปรายในหมู่ประชาชนเกี่ยวกับกฎหมายของสิงคโปร์ที่ยังเป็นที่ถกเถียงกันได้ทำให้เกิดการแบ่งแยกในหมู่ผู้เชื่อที่คิดเห็นต่างกัน บางคนเรียกคนอื่นว่า “ใจแคบ” หรือหาว่าคนอื่นมีความเชื่อที่ประนีประนอม
เรื่องที่ยังเป็นที่ถกเถียงอาจทำให้เกิดการแบ่งแยกชัดเจนในครอบครัวของพระเจ้า ทำให้เจ็บปวดและผู้คนท้อใจ ผมรู้สึกละอายใจเมื่อเห็นวิธีที่ผมประยุกต์ใช้คำสอนในพระคัมภีร์กับชีวิตของตนเอง และผมแน่ใจว่าผมเองก็ทำผิดเช่นกันที่วิจารณ์คนที่ผมไม่เห็นด้วยกับเขา
ผมคิดว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่มุมมองของเราหรือแม้แต่วิธีที่เราถ่ายทอดมุมมองนั้น แต่อยู่ที่ทัศนคติในจิตใจในขณะนั้น เราเพียงแค่ไม่เห็นด้วยกับมุมมอง หรือเรากำลังหาทางทำลายผู้ที่มีมุมมองเช่นนั้นกันแน่
จริงอยู่ที่บางครั้งเราต้องชี้ให้เห็นคำสอนเท็จหรืออธิบายจุดยืนของเรา แต่เอเฟซัส 4:2-6 เตือนให้กระทำด้วยความถ่อมใจ ความสุภาพอ่อนโยน ความอดทนอดกลั้น และความรัก และที่สุดแล้วให้เราพยายามอย่างยิ่งที่จะ “รักษาความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันที่มาจากพระวิญญาณ” (ข้อ 3)
ข้อถกเถียงบางข้อจะยังคงไม่มีทางออก แต่พระวจนะเตือนว่าเราควรมุ่งเสริมสร้างความเชื่อของผู้อื่นเสมอ ไม่ใช่ทำลายเขา (ข้อ 29) เราทำให้คนอื่นรู้สึกแย่เพื่อให้ชนะการโต้เถียงหรือไม่ หรือเรายอมให้พระเจ้าช่วยให้เราเข้าใจความจริงของพระองค์ในเวลาและวิถีของพระองค์ และรู้ว่าเราต่างก็มีความเชื่อเดียว ในองค์พระผู้เป็นเจ้าเดียว (ข้อ 4-6) - LK
งดงามสำหรับพระเจ้า
ตอนที่เดนิสเริ่มคบกับเพื่อนชาย เธอพยายามรักษารูปร่างให้ผอมและแต่งตัวสวย เธอเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะดึงดูดเขา นั่นเป็นเพราะนิตยสารสำหรับผู้หญิงทุกฉบับแนะนำเช่นนั้น หลังจากนั้นนานทีเดียวกว่าเธอจะพบว่าแท้จริงแล้วเขาคิดว่า “ผมชอบคุณเท่าเดิมเวลาที่คุณน้ำหนักมากขึ้น และไม่กังวลเรื่องเสื้อผ้าที่ใส่”
เมื่อทุกสิ่งดูเหมือนสูญเสีย
เพียง 6 เดือนชีวิตของเจอรัลด์พังทลาย วิกฤติเศรษฐกิจทำลายธุรกิจและทรัพย์สิน ลูกประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต แม่ของเขาสะเทือนใจมากจนหัวใจล้มเหลวเสียชีวิต ภรรยาซึมเศร้า ลูกสาวสองคนเก็บตัว เขาได้แต่พูดอย่างผู้เขียนสดุดีว่า “พระเจ้าข้า พระเจ้าข้าไฉนทรงทอดทิ้งข้าพระองค์เสีย” (สดด.22:1)
พระองค์อยู่ที่นั่นไหม
ตอนที่ภรรยาป่วยเป็นโรคร้ายแรงที่รักษาไม่หาย ไมเคิลอยากให้เธอพบสันติสุขเหมือนที่เขาได้รับผ่านสัมพันธภาพกับพระเจ้า เขาเคยแบ่งปันเรื่องความเชื่อให้เธอฟังแต่เธอไม่สนใจ วันหนึ่งขณะเดินผ่านร้านหนังสือเขาสะดุดตากับหนังสือชื่อ พระเจ้า พระองค์อยู่ที่นั่นไหม เขาไม่แน่ใจว่าภรรยาจะตอบสนองอย่างไร เขาจึงเข้าออกร้านอยู่หลายครั้งก่อนจะซื้อในที่สุด แล้วก็ต้องประหลาดใจที่เธอยอมอ่าน