แค่ทาโก้ชิ้นเดียว
แอชตันและออสติน ซามูเอลสันเรียนจบจากวิทยาลัยคริสเตียนพร้อมด้วยความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะรับใช้พระเยซู แต่ทั้งคู่ไม่รู้สึกว่าทรงเรียกให้รับใช้แบบดั้งเดิมในคริสตจักร แล้วถ้าเป็นพันธกิจในโลกล่ะ ใช่เลย พวกเขาผสมผสานภาระใจที่จะยุติความหิวโหยของเด็กๆเข้ากับทักษะในการบริหารจัดการที่พระเจ้าประทานให้ และในปี 2014 พวกเขาเปิดร้านอาหารที่ให้บริการทาโก้ แต่นี่ไม่ใช่ร้านอาหารทั่วๆไป ซามูเอลสันบริหารร้านด้วยปรัชญาซื้อหนึ่งให้หนึ่งจากอาหารทุกจานที่มีคนซื้อ พวกเขาจะบริจาคเงินเพื่อจัดหาอาหารที่มีส่วนผสมพิเศษเพื่อให้มีสารอาหารที่จำเป็นสำหรับเด็กที่ขาดสารอาหาร จนถึงปัจจุบันพวกเขาบริจาคไปแล้วมากกว่าหกสิบประเทศ เป้าหมายของพวกเขาคือมีส่วนที่จะช่วยยุติความหิวโหยของเด็กๆโดยเริ่มจากทาโก้ทีละชิ้น
คำตรัสของพระเยซูในมัทธิวบทที่ 10 นั้นไม่คลุมเครือ แต่ชัดเจนอย่างน่าประหลาดใจว่า การอุทิศตนพิสูจน์ได้จากการกระทำ ไม่ใช่คำพูด (ข้อ 37-42) หนึ่งในการกระทำนั้นคือการให้กับ “คนเล็กน้อย” สำหรับซามูเอลสัน เป้าหมายของพวกเขาคือให้กับเด็ก แต่สังเกตให้ดีว่าวลี “คนเล็กน้อย” นี้ไม่ได้บ่งบอกอายุ พระเยซูทรงเรียกเราที่จะให้กับใครก็ตามที่เป็น “คนเล็กน้อย” ในมุมมองของโลก คนยากจน คนป่วย นักโทษ ผู้ลี้ภัย ผู้ซึ่งด้อยโอกาสไม่ว่าทางใดก็ตาม แล้วเราจะให้อะไรน่ะหรือ พระเยซูตรัสว่า “น้ำเย็นสักถ้วยหนึ่ง” (ข้อ 42) หากสิ่งที่เล็กและธรรมดาอย่างน้ำเย็นถ้วยหนึ่งยังมีความสำคัญ ทาโก้ชิ้นหนึ่งก็เข้าข่ายอย่างแน่นอน
เกิดปัญหาอะไรกับโลกใบนี้
มีเรื่องราวที่ได้ยินบ่อยครั้งว่าหนังสือพิมพ์ลอนดอนไทม์ส ตั้งคำถามให้ผู้อ่านได้คิดในช่วงเปลี่ยนศตวรรษที่ยี่สิบว่า เกิดปัญหาอะไรกับโลกใบนี้นั่นเป็นคำถามที่ค่อนข้างแปลกใช่ไหม บางคนอาจตอบอย่างรวดเร็วว่า “แล้วคุณมีเวลาฟังคำตอบของผมนานแค่ไหนล่ะ” และนั่นดูเหมือนจะสมเหตุสมผล เพราะมีปัญหามากมายเกิดขึ้นในโลกของเรา เมื่อเวลาผ่านไป ไทม์ส ได้รับคำตอบมากมาย แต่มีคำตอบหนึ่งที่สั้นแต่หลักแหลม จี. เค. เชสเตอร์ตั้นผู้เป็นนักเขียนกวีและปราชญ์ชาวอังกฤษ เขียนคำตอบสี่คำนี้ซึ่งสร้างความประหลาดใจที่แปลกใหม่สำหรับผู้ที่อยู่ในช่วงเปลี่ยนยุค “ท่านครับ ผมเอง (ที่เป็นปัญหา)”
เรื่องนี้ไม่ว่าจะเป็นจริงหรือไม่ก็ยังเป็นข้อถกเถียงกัน แต่คำตอบนั้นเป็นความจริงแท้ นานมาแล้วก่อนเชสเตอร์ตั้นเกิด มีอัครสาวกคนหนึ่งชื่อเปาโล ผู้ห่างไกลจากการเป็นแบบอย่างของพลเมืองดี เปาโลสารภาพความบกพร่องของตนเองในอดีตว่า “เมื่อก่อนนั้นข้าพเจ้าเป็นคนหลู่พระเกียรติ ข่มเหงและทำการหมิ่นประมาท” (ข้อ13) หลังจากที่ท่านยอมรับว่าพระเยซูเสด็จมาเพื่อช่วย (คนบาป) ท่านยอมรับเหมือนกับเชสเตอร์ตั้นว่า “ในพวกคนบาปนั้นข้าพเจ้าเป็นตัวเอก” (ข้อ 15) เปาโลรู้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นกับโลก และท่านก็รู้ถึงความหวังเดียวในการแก้ไขให้ถูกต้อง นั่นคือ “พระคุณแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา” (ข้อ 14) ช่างเป็นความจริงที่อัศจรรย์! ความจริงอันถาวรนี้นำเราให้มองไปยังแสงสว่างแห่งความรักที่ช่วยให้รอดของพระคริสต์
ให้ทั้งหมดที่มี
การทำตามกำลัง เป็นศัพท์ที่ใช้ในแวดวงการออกกำลังกายที่เปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วมได้ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าพูดถึงการวิดพื้น คุณอาจทำได้สิบครั้งติดต่อกัน แต่ผมทำได้แค่สี่ครั้ง ครูฝึกอาจให้กำลังใจผมโดยลดจำนวนครั้งการวิดพื้นตามสมรรถภาพทางร่างกายของผมในเวลานั้น เราทุกคนไม่ได้มีศักยภาพในระดับเดียวกัน แต่เราสามารถมุ่งไปในทิศทางเดียวกันได้ ครูฝึกอาจจะบอกว่า “วิดพื้นสี่ครั้งตามกำลังที่คุณมี อย่าเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น ทำตามกำลังก่อน ทำเท่าที่ทำได้ แล้วคุณจะประหลาดใจที่วันหนึ่งคุณจะทำได้เจ็ดครั้ง หรือแม้กระทั่งสิบครั้ง”
เมื่อพูดถึงเรื่องการให้ อัครทูตเปาโลสอนชัดเจนว่า “พระเจ้าทรงรักคนนั้นที่ให้ด้วยใจยินดี” (2 คร.9:7) แต่คำหนุนใจของท่านสำหรับผู้เชื่อในเมืองโครินธ์และพวกเรานั้นแตกต่างกันตามกำลัง “ทุกคนจงให้ตามที่เขาได้คิดหมายไว้ในใจ” (ข้อ 7) เราพบว่าเราแต่ละคนให้ได้ตามกำลังที่ต่างกัน และบางครั้งกำลังในการให้ของเราก็เปลี่ยนไปตามเวลา การเปรียบเทียบก็ไร้ประโยชน์ แต่ทัศนคติต่างหากที่ส่งผลดี จงให้ด้วยใจกว้างขวางตามกำลังของคุณ (ข้อ 6) พระเจ้าทรงสัญญาว่าการฝึกฝนอย่างมีวินัยที่จะให้ด้วยใจยินดี จะนำมาซึ่งชีวิตที่ได้รับการอวยพรให้มีสิ่งสารพัดมั่งคั่งบริบูรณ์ อันจะก่อให้เกิด “การขอบพระคุณพระเจ้า” (ข้อ 11)
ในวิถีทางของพระเจ้า
ในปี 1960 ชุมชนที่คึกคักของนอร์ธ ลอว์นเดล ทางฝั่งตะวันตกของชิคาโก เป็นชุมชนนำร่องของการอยู่ร่วมกันระหว่างคนต่างเชื้อชาติ ชาวแอฟริกันอเมริกันซึ่งเป็นชนชั้นกลางจำนวนหนึ่งได้ซื้อบ้านในชุมชนนี้ภายใต้ “สัญญา” ซึ่งผนวกความรับผิดชอบในการเป็นเจ้าของบ้านเข้ากับข้อเสียในการเช่าบ้าน ในสัญญาซื้อขาย ผู้ซื้อไม่มีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินและหากผิดนัดชำระเพียงครั้งเดียว เขาจะสูญเงินดาวน์และค่างวดที่ชำระรายเดือนทั้งหมด รวมทั้งบ้านที่เขาซื้อด้วย ผู้ขายที่ไร้จรรยาบรรณขายบ้านในราคาสูงเกินจริง หลายครอบครัวจึงถูกไล่ออกเมื่อผิดนัดชำระ และครอบครัวใหม่จะเข้ามาซื้อต่อด้วยเงื่อนไขสัญญาแบบเดียวกัน และวัฏจักรซึ่งขับเคลื่อนด้วยความโลภก็ดำเนินต่อไป
ซามูเอลแต่งตั้งบุตรชายให้เป็นผู้วินิจฉัยคนอิสราเอลและบุตรของท่านมีใจโลภ พวกเขา “มิได้ดำเนินในทางของท่าน” (1 ซมอ.8:3) ตรงข้ามกับซามูเอลที่ซื่อสัตย์ บุตรชายของท่าน “ได้เลี่ยงไปหากำไร” และใช้ตำแหน่งเพื่อหาผลประโยชน์ให้ตนเอง พฤติกรรมที่ไม่ถูกต้องนี้สร้างความไม่พอใจให้กับพวกผู้อาวุโสของอิสราเอลและทำให้พระเจ้าไม่พอพระทัย ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของวงจรกษัตริย์ในพันธสัญญาเดิม (ข้อ 4-5)
การปฏิเสธที่จะเดินในทางของพระเจ้าเปิดช่องให้ค่านิยมเหล่านั้นถูกบิดเบือนและทำให้ความอยุติธรรมจำเริญขึ้น การเดินในทางของพระเจ้าหมายถึง ความซื่อสัตย์และความยุติธรรมที่สำแดงอย่างชัดเจนทั้งด้วยคำพูดและการกระทำ การกระทำที่ดีเหล่านั้นไม่ได้จบในตัวของมันเอง แต่จะช่วยให้ผู้อื่นมองเห็นและยกย่องพระบิดาในสวรรค์ของเราเสมอ
ประกายไฟเล็กๆ
“เราอยู่ในห้องสมุด และมองเห็นเปลวไฟที่ด้านนอก” เธอกำลังกลัว เราฟังน้ำเสียงนั้นออกเพราะเธอคือลูกสาวของเรา ขณะเดียวกันเรารู้ว่าที่มหาวิทยาลัยคือที่ที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับเธอและเพื่อนอีกเกือบ 3,000 คน ในปี 2018 ไฟป่าวูลซีย์ได้ขยายตัวอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงคาดการณ์ไว้ สภาพที่ร้อนและแห้งแล้งในหุบเขาแคลิฟอร์เนียร่วมกับกระแสลมซานตาอาน่า ทำให้ประกายไฟเล็กๆลุกลามเผาผลาญเนื้อที่กว่า 245,000 ไร่ ทำลายสิ่งก่อสร้างมากกว่า 1,600 แห่ง และมีผู้เสียชีวิต 3 คน ในภาพถ่ายหลังจากควบคุมไฟไว้ได้แล้ว แนวป่าที่เคยอุดมสมบูรณ์กลับกลายเป็นพื้นที่ร้างเปล่าราวกับพื้นผิวดวงจันทร์
ในพระธรรมยากอบ ผู้เขียนเรียกสิ่งเล็กๆแต่มีอำนาจว่า “บังเหียนในปากของม้า” และหางเสือเรือ (3:3-4) คำเปรียบนี้ห่างไกลและไม่เป็นที่คุ้นเคยในสมัยของเราแล้ว แต่ผู้เขียนใช้อีกคำหนึ่งที่เรารู้จักดี เป็นสิ่งเล็กๆที่มนุษย์ทุกคนมี นั่นคือลิ้น และแม้บทนี้จะเจาะจงถึงครูผู้สอนโดยตรงเป็นอันดับแรก (ข้อ 1) แต่ก็นำไปใช้กับเราทุกคนด้วย ลิ้นเป็นอวัยวะเล็กๆแต่ทำให้เกิดหายนะได้
ลิ้นเล็กๆของเรานั้นมีอำนาจ แต่พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ทรงมีฤทธิ์อำนาจยิ่งกว่า ความช่วยเหลือของพระองค์ในทุกๆวันจะให้กำลังแก่เราเพื่อควบคุมและนำพาคำพูดของเรา
เดินหน้าตรงไป
ชาวนาในยุคก่อนต้องใช้สายตาที่มั่นคงและมือที่แข็งแรงในการขับรถไถให้เป็นแนวตรง ถึงแม้จะมีตาที่ดีมากก็ยังมีแนวที่เหลื่อมกัน และเมื่อสิ้นสุดวันมือที่แข็งแรงที่สุดก็ยังเหนื่อยล้าได้ แต่ในปัจจุบันมีพวงมาลัยอัตโนมัติซึ่งควบคุมโดยระบบจีพีเอส ทำให้การขึ้นแปลงเพาะปลูก และพ่นยาสามารถทำได้ง่ายและเป็นระเบียบขึ้น ซึ่งมีประสิทธิภาพอย่างเหลือเชื่อและไม่ต้องใช้มือเลย ลองจินตนาการว่านั่งอยู่บนรถไถยุคเก่าแต่แทนที่จะจับพวงมาลัย กลับถือแซนด์วิชในมือ เครื่องมือแสนวิเศษที่ทำให้คุณเคลื่อนตรงไปข้างหน้า
ลูกของพ่อ
พวกเขาก้มดูรูปที่ซีดจางแล้วเงยหน้ามองผม แล้วก็มองพ่อของผม หันกลับมามองผม แล้วก็หันไปมองพ่อ ตาพวกเขาโตเป็นไข่ห่าน “พ่อครับ พ่อเหมือนคุณปู่ตอนหนุ่มๆเลย” พ่อกับผมอมยิ้มเพราะพวกเรารู้มานานแล้ว แต่ลูกๆของผมเพิ่งสังเกตเห็น แม้พ่อกับผมจะเป็นคนละคนกัน แต่การได้เห็นผมก็เหมือนได้เห็นพ่อตอนยังหนุ่มที่ผอมสูง ผมดำ จมูกโด่งและหูค่อนข้างใหญ่ ผมไม่ใช่พ่อ แต่ผมเป็นลูกพ่อไม่ผิดแน่
เล่าเรื่องราวให้ฉันฟัง
กาลครั้งหนึ่ง วลีนี้อาจเป็นหนึ่งในสิ่งที่ทรงพลังที่สุดในโลก ความทรงจำบางเรื่องตอนผมยังเด็กประกอบด้วยหลายสิ่งจากวลีอันทรงพลังนี้วันหนึ่งแม่ผมกลับมาบ้านพร้อมหนังสือผู้เลี้ยงแกะที่ดีของฉันเรื่องราวจากพระคัมภีร์ ซึ่งเป็นพระคัมภีร์ประกอบภาพปกแข็งขนาดใหญ่ ทุกคืนก่อนปิดไฟ ผมกับพี่ชายจะนั่งลุ้นขณะที่แม่อ่านเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีตซึ่งเต็มไปด้วยบุคคลที่น่าสนใจ และพระเจ้าผู้ทรงรักเราให้ฟัง เรื่องราวเหล่านี้กลายเป็นเลนส์สายตาในการที่เรามองโลกอันกว้างใหญ่นี้
พระเยซูชาวนาซาเร็ธเป็นนักเล่าเรื่องผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างไม่มีข้อกังขา ทรงรู้ว่าภายในเราทุกคนมีธรรมชาติที่รักในการฟังเรื่องราว จึงทรงใช้เรื่องราวเพื่อสื่อสารถึงข่าวประเสริฐของพระองค์อยู่เสมอ กาลครั้งหนึ่ง มีชายคนหนึ่งหว่าน “พืชลงในดิน” (มก.4:26) กาลครั้งหนึ่ง มี “เมล็ดพืชเมล็ดหนึ่ง” (ข้อ 31) เรื่องแล้วเรื่องเล่า พระกิตติคุณมาระโกบอกชัดเจนว่าพระเยซูทรงใช้เรื่องเล่าในการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนทุกวัน (ข้อ 34) เป็นวิธีที่ช่วยให้พวกเขามองโลกได้ชัดเจนขึ้น และเข้าใจอย่างถ่องแท้ในพระเจ้าผู้ทรงรักพวกเขา
เป็นการฉลาดที่จะจดจำไว้ เมื่อเราปรารถนาจะแบ่งปันข่าวประเสริฐแห่งพระเมตตาและพระคุณของพระเจ้าแก่ผู้อื่น การใช้เรื่องเล่านั้นแทบจะไม่ถูกต่อต้านเลย
ผู้ที่ให้ด้วยใจยินดี
หลายปีมาแล้ว ภรรยาของผมได้รับเงินคืนมาเล็กน้อยจากการซื้อของบางอย่าง เงินนี้ถูกส่งมาทางไปรษณีย์โดยที่เธอไม่ได้คาดหวังไว้ ในช่วงเวลาเดียวกัน เพื่อนคนหนึ่งได้เล่าถึงความจำเป็นของผู้หญิงในอีกประเทศที่มีหัวใจของการเป็นผู้ประกอบการ พวกเธอพยายามพัฒนาตัวเองผ่านการศึกษาและการทำธุรกิจ แต่อุปสรรคแรกที่พวกเธอพบเหมือนในหลายกรณีก็คือเรื่องการเงิน
ภรรยาผมจึงนำเงินก้อนนี้มาทำเป็นเงินกู้ขนาดเล็กในพันธกิจช่วยเหลือผู้หญิงกลุ่มนี้ เมื่อได้รับชำระเงินกู้ เธอก็ให้กู้ต่อไปเรื่อยๆถึง 27 ครั้ง ภรรยาของผมมีความสุขกับหลายสิ่งแต่ไม่เคยมีรอยยิ้มไหนกว้างเหมือนกับตอนที่เธอได้ฟังความก้าวหน้าในชีวิตของผู้หญิงกลุ่มนี้ที่เธอไม่เคยพบเจอ
เรามักจะได้ยินการเน้นย้ำถึงคำว่าผู้ให้ในวลี “พระเจ้าทรงรักคนนั้นที่ให้ด้วยใจยินดี” (2 คร.9:7) ซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่การให้ของเราต้องมีความเจาะจงมากกว่านั้น ต้องไม่ใช่การกระทำที่ “ลังเล หรือ ถูกบังคับ” และเราไม่ได้ถูกเรียกให้หว่าน “เพียงเล็กน้อย” (ข้อ 6-7) การให้ของเราต้องทำด้วย “ใจยินดี” แม้เราแต่ละคนจะมีการให้ที่แตกต่างกัน แต่ใบหน้าของเราคือหลักฐานที่บ่งบอกถึงความยินดี