ผู้เขียน

ดูทั้งหมด

บทความ โดย John Blase

เหตุผลที่บันทึกไว้

“องค์กษัตริย์ทรงเป็นหอคอยสูงของข้า...เราออกจากค่ายด้วยการร้องเพลง” วันที่ 7 กันยายน ค.ศ.1943 เอ็ตตี้ ฮิลเลซัมเขียนคำเหล่านี้บนไปรษณียบัตรและโยนออกจากรถไฟ นั่นเป็นบันทึกคำพูดสุดท้ายที่เราจะได้ยินจากเธอ เธอถูกฆ่าที่ค่ายเอาช์วิทซ์ ภายหลังสมุดบันทึกของฮิลเลซัมเกี่ยวกับประสบการณ์ในค่ายกักกันถูกแปลและตีพิมพ์ บันทึกเหล่านั้นเป็นมุมมองของเธอในเรื่องการยึดครองของนาซีอันน่าสะพรึงกลัว และความงดงามในโลกที่พระเจ้าทรงสร้าง บันทึกของเธอถูกแปลออกไปหกสิบเจ็ดภาษา เป็นของขวัญให้กับทุกคนที่อ่านและเชื่อทั้งในสิ่งดีและร้าย

อัครสาวกยอห์นไม่ได้หลีกเลี่ยงการกล่าวถึงชีวิตในด้านที่ยากลำบากของพระเยซูบนโลก ท่านเขียนถึงทั้งสิ่งดีที่พระเยซูทำและความท้าทายที่พระองค์เผชิญ ข้อความสุดท้ายจากพระกิตติคุณยอนห์ชี้ถึงจุดประสงค์ของพระธรรมนี้ที่ตั้งชื่อตามท่าน พระเยซูทรงกระทำ “หมายสำคัญอื่นๆ... ซึ่งไม่ได้บันทึกไว้” (20:30) โดยยอห์น แต่เหตุการณ์เหล่านี้ “ได้ถูกบันทึกไว้เพื่อท่านทั้งหลายจะได้เชื่อ” (ข้อ 31) “บันทึก” ของยอห์นจบลงด้วยข้อความแห่งชัยชนะว่า “พระเยซูทรงเป็นพระเมสสิยาห์ พระบุตรของพระเจ้า” ของขวัญจากถ้อยคำในพระกิตติคุณนั้นทำให้เรามีโอกาสที่จะเชื่อและ “มีชีวิตในพระนามของพระองค์”

พระกิตติคุณคือสมุดบันทึกถึงความรักของพระเจ้าที่ทรงมีต่อเรา เป็นถ้อยคำให้เราได้อ่าน เชื่อ และแบ่งปัน เพราะถ้อยคำเหล่านี้นำเราสู่ชีวิต และนำเราสู่พระคริสต์

วางใจในความสว่าง

พยากรณ์อากาศบอกว่าจะเกิดพายุไซโคลนระเบิด ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อพายุฤดูหนาวทวีความรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็วขณะที่ความกดอากาศลดลง พอตกกลางคืนพายุหิมะทำให้ทัศนวิสัยบนทางหลวงที่ไปยังสนามบินเดนเวอร์แย่ลงจนเกือบจะมองไม่เห็นทาง แต่เมื่อคนที่บินกลับมาเยี่ยมบ้านเป็นลูกสาวคุณเอง คุณจะทำทุกสิ่งเท่าที่จะทำได้ เช่น สำรองเสื้อผ้าและน้ำเผื่อไว้ (ในกรณีที่คุณต้องติดอยู่บนทางหลวง) ขับรถให้ช้าที่สุด อธิษฐานไปตลอดทาง และสิ่งสุดท้ายที่สำคัญไม่น้อยคือ วางใจในไฟหน้ารถของคุณ และบางครั้งคุณจะสามารถทำในสิ่งที่ดูไม่น่าจะเป็นไปได้

พระเยซูทรงพยากรณ์ถึงพายุที่กำลังจะมา ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ (ยน.12:31-33) และอีกลูกหนึ่งเป็นการท้าทายสาวกของพระองค์ให้คงไว้ซึ่งความสัตย์ซื่อและปรนนิบัติพระองค์ต่อไป (ข้อ 26) สถานการณ์กำลังมืดมนลงจนเกือบจะมองไม่เห็น พระเยซูบอกให้พวกเขาทำอะไร ทรงบอกว่าจงเชื่อหรือวางใจในความสว่าง (ข้อ 36) นั่นเป็นทางเดียวที่พวกเขาจะสามารถเดินหน้าต่อไปและคงไว้ซึ่งความสัตย์ซื่อ

พระเยซูจะอยู่กับพวกเขาอีกเพียงไม่นาน แต่ผู้เชื่อมีองค์พระวิญญาณผู้ทรงเป็นแสงส่องนำทางเราไปตลอด เราเองก็จะเผชิญกับช่วงเวลาที่มืดมิดจนเกือบจะมองไม่เห็นหนทางข้างหน้า แต่โดยการเชื่อหรือไว้วางใจในความสว่าง เราจะเดินหน้าต่อไปได้

เมื่อกระแสน้ำไหลเชี่ยว

ผมอยู่ที่โคโลราโด เป็นรัฐทางตะวันตกของอเมริกาซึ่งเป็นที่รู้จักจากเทือกเขาร็อคกี้และหิมะ แต่ภัยธรรมชาติครั้งเลวร้ายที่สุดในรัฐของเราไม่เกี่ยวข้องกับหิมะเลย แต่เป็นฝน เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 1976 เกิดน้ำท่วมใหญ่จากแม่น้ำบิ๊กทอมสัน เข้ามาในที่พักตากอากาศที่เอสทิสพาร์ค เมื่อน้ำลดมียอดผู้เสียชีวิต 144 คนไม่รวมปศุสัตว์ ภายหลังภัยพิบัติได้มีการศึกษาค้นคว้าที่ให้ความสำคัญเป็นพิเศษเกี่ยวกับรากฐานของถนนและทางหลวง ผนังของถนนที่ต้านทานพายุได้คือส่วนที่ทำด้วยคอนกรีต หรืออีกนัยหนึ่งคือ พวกมันมีรากฐานที่มั่นคงแข็งแรง

ในชีวิตของเรานั้นคำถามไม่ใช่แค่ว่าจะเกิดน้ำท่วมหรือไม่ แต่ว่าเป็นเมื่อไร บางครั้งเราได้รับคำเตือนล่วงหน้าแต่โดยปกติแล้วไม่ใช่ พระเยซูทรงเน้นย้ำเรื่องรากฐานที่แข็งแรงเพื่อช่วงเวลาเหล่านั้น คนจะถูกสร้างได้ไม่เพียงได้ยินพระคำของพระเจ้าเท่านั้น แต่ต้องดำเนินชีวิตที่สำแดงข่าวประเสริฐด้วย (ลก.6:47) การปฏิบัติเช่นนั้นเปรียบเหมือนการเทคอนกรีตในชีวิตของเรา เมื่อเกิดน้ำท่วมซึ่งจะเกิดแน่นอน เราจะสามารถต้านทานมันได้เพราะเราถูก “สร้างไว้มั่นคง” (ข้อ 48) การไม่ปฏิบัติตามนั้นทำให้ชีวิตของเราอ่อนแอเสี่ยงต่อการถูกทำลายได้ (ข้อ 49) นี่คือความแตกต่างระหว่างคนมีปัญญาและคนโง่

เป็นการดีที่จะหยุดเป็นครั้งคราวเพื่อประเมินรากฐานของเรา พระเยซูจะทรงช่วยเสริมสร้างส่วนที่อ่อนแอของเรา เพื่อเราจะยืนอย่างมั่นคงโดยกำลังของพระองค์เมื่อกระแสน้ำไหลเชี่ยว

แค่ทาโก้ชิ้นเดียว

แอชตันและออสติน ซามูเอลสันเรียนจบจากวิทยาลัยคริสเตียนพร้อมด้วยความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะรับใช้พระเยซู แต่ทั้งคู่ไม่รู้สึกว่าทรงเรียกให้รับใช้แบบดั้งเดิมในคริสตจักร แล้วถ้าเป็นพันธกิจในโลกล่ะ ใช่เลย พวกเขาผสมผสานภาระใจที่จะยุติความหิวโหยของเด็กๆเข้ากับทักษะในการบริหารจัดการที่พระเจ้าประทานให้ และในปี 2014 พวกเขาเปิดร้านอาหารที่ให้บริการทาโก้ แต่นี่ไม่ใช่ร้านอาหารทั่วๆไป ซามูเอลสันบริหารร้านด้วยปรัชญาซื้อหนึ่งให้หนึ่งจากอาหารทุกจานที่มีคนซื้อ พวกเขาจะบริจาคเงินเพื่อจัดหาอาหารที่มีส่วนผสมพิเศษเพื่อให้มีสารอาหารที่จำเป็นสำหรับเด็กที่ขาดสารอาหาร จนถึงปัจจุบันพวกเขาบริจาคไปแล้วมากกว่าหกสิบประเทศ เป้าหมายของพวกเขาคือมีส่วนที่จะช่วยยุติความหิวโหยของเด็กๆโดยเริ่มจากทาโก้ทีละชิ้น

คำตรัสของพระเยซูในมัทธิวบทที่ 10 นั้นไม่คลุมเครือ แต่ชัดเจนอย่างน่าประหลาดใจว่า การอุทิศตนพิสูจน์ได้จากการกระทำ ไม่ใช่คำพูด (ข้อ 37-42) หนึ่งในการกระทำนั้นคือการให้กับ “คนเล็กน้อย” สำหรับซามูเอลสัน เป้าหมายของพวกเขาคือให้กับเด็ก แต่สังเกตให้ดีว่าวลี “คนเล็กน้อย” นี้ไม่ได้บ่งบอกอายุ พระเยซูทรงเรียกเราที่จะให้กับใครก็ตามที่เป็น “คนเล็กน้อย” ในมุมมองของโลก คนยากจน คนป่วย นักโทษ ผู้ลี้ภัย ผู้ซึ่งด้อยโอกาสไม่ว่าทางใดก็ตาม แล้วเราจะให้อะไรน่ะหรือ พระเยซูตรัสว่า “น้ำเย็นสักถ้วยหนึ่ง” (ข้อ 42) หากสิ่งที่เล็กและธรรมดาอย่างน้ำเย็นถ้วยหนึ่งยังมีความสำคัญ ทาโก้ชิ้นหนึ่งก็เข้าข่ายอย่างแน่นอน

เกิดปัญหาอะไรกับโลกใบนี้

มีเรื่องราวที่ได้ยินบ่อยครั้งว่าหนังสือพิมพ์ลอนดอนไทม์ส ตั้งคำถามให้ผู้อ่านได้คิดในช่วงเปลี่ยนศตวรรษที่ยี่สิบว่า เกิดปัญหาอะไรกับโลกใบนี้นั่นเป็นคำถามที่ค่อนข้างแปลกใช่ไหม บางคนอาจตอบอย่างรวดเร็วว่า “แล้วคุณมีเวลาฟังคำตอบของผมนานแค่ไหนล่ะ” และนั่นดูเหมือนจะสมเหตุสมผล เพราะมีปัญหามากมายเกิดขึ้นในโลกของเรา เมื่อเวลาผ่านไป ไทม์ส ได้รับคำตอบมากมาย แต่มีคำตอบหนึ่งที่สั้นแต่หลักแหลม จี. เค. เชสเตอร์ตั้นผู้เป็นนักเขียนกวีและปราชญ์ชาวอังกฤษ เขียนคำตอบสี่คำนี้ซึ่งสร้างความประหลาดใจที่แปลกใหม่สำหรับผู้ที่อยู่ในช่วงเปลี่ยนยุค “ท่านครับ ผมเอง (ที่เป็นปัญหา)”

เรื่องนี้ไม่ว่าจะเป็นจริงหรือไม่ก็ยังเป็นข้อถกเถียงกัน แต่คำตอบนั้นเป็นความจริงแท้ นานมาแล้วก่อนเชสเตอร์ตั้นเกิด มีอัครสาวกคนหนึ่งชื่อเปาโล ผู้ห่างไกลจากการเป็นแบบอย่างของพลเมืองดี เปาโลสารภาพความบกพร่องของตนเองในอดีตว่า “เมื่อก่อนนั้นข้าพเจ้าเป็นคนหลู่พระเกียรติ ข่มเหงและทำการหมิ่นประมาท” (ข้อ13) หลังจากที่ท่านยอมรับว่าพระเยซูเสด็จมาเพื่อช่วย (คนบาป) ท่านยอมรับเหมือนกับเชสเตอร์ตั้นว่า “ในพวกคนบาปนั้นข้าพเจ้าเป็นตัวเอก” (ข้อ 15) เปาโลรู้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นกับโลก และท่านก็รู้ถึงความหวังเดียวในการแก้ไขให้ถูกต้อง นั่นคือ “พระคุณแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา” (ข้อ 14) ช่างเป็นความจริงที่อัศจรรย์! ความจริงอันถาวรนี้นำเราให้มองไปยังแสงสว่างแห่งความรักที่ช่วยให้รอดของพระคริสต์

ให้ทั้งหมดที่มี

การทำตามกำลัง เป็นศัพท์ที่ใช้ในแวดวงการออกกำลังกายที่เปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วมได้ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าพูดถึงการวิดพื้น คุณอาจทำได้สิบครั้งติดต่อกัน แต่ผมทำได้แค่สี่ครั้ง ครูฝึกอาจให้กำลังใจผมโดยลดจำนวนครั้งการวิดพื้นตามสมรรถภาพทางร่างกายของผมในเวลานั้น เราทุกคนไม่ได้มีศักยภาพในระดับเดียวกัน แต่เราสามารถมุ่งไปในทิศทางเดียวกันได้ ครูฝึกอาจจะบอกว่า “วิดพื้นสี่ครั้งตามกำลังที่คุณมี อย่าเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น ทำตามกำลังก่อน ทำเท่าที่ทำได้ แล้วคุณจะประหลาดใจที่วันหนึ่งคุณจะทำได้เจ็ดครั้ง หรือแม้กระทั่งสิบครั้ง”

เมื่อพูดถึงเรื่องการให้ อัครทูตเปาโลสอนชัดเจนว่า “​พระเจ้าทรงรักคนนั้นที่ให้ด้วยใจยินดี​” (2 คร.9:7) แต่คำหนุนใจของท่านสำหรับผู้เชื่อในเมืองโครินธ์และพวกเรานั้นแตกต่างกันตามกำลัง “ทุกคนจงให้ตามที่เขาได้คิดหมายไว้ในใจ” (ข้อ 7) เราพบว่าเราแต่ละคนให้ได้ตามกำลังที่ต่างกัน และบางครั้งกำลังในการให้ของเราก็เปลี่ยนไปตามเวลา การเปรียบเทียบก็ไร้ประโยชน์ แต่ทัศนคติต่างหากที่ส่งผลดี จงให้ด้วยใจกว้างขวางตามกำลังของคุณ (ข้อ 6) พระเจ้าทรงสัญญาว่าการฝึกฝนอย่างมีวินัยที่จะให้ด้วยใจยินดี จะนำมาซึ่งชีวิตที่ได้รับการอวยพรให้มีสิ่งสารพัดมั่งคั่งบริบูรณ์ อันจะก่อให้เกิด “การขอบพระคุณพระเจ้า” (ข้อ 11)

ในวิถีทางของพระเจ้า

ในปี 1960 ชุมชนที่คึกคักของนอร์ธ ลอว์นเดล ทางฝั่งตะวันตกของชิคาโก เป็นชุมชนนำร่องของการอยู่ร่วมกันระหว่างคนต่างเชื้อชาติ ชาวแอฟริกันอเมริกันซึ่งเป็นชนชั้นกลางจำนวนหนึ่งได้ซื้อบ้านในชุมชนนี้ภายใต้ “สัญญา” ซึ่งผนวกความรับผิดชอบในการเป็นเจ้าของบ้านเข้ากับข้อเสียในการเช่าบ้าน ในสัญญาซื้อขาย ผู้ซื้อไม่มีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินและหากผิดนัดชำระเพียงครั้งเดียว เขาจะสูญเงินดาวน์และค่างวดที่ชำระรายเดือนทั้งหมด รวมทั้งบ้านที่เขาซื้อด้วย ผู้ขายที่ไร้จรรยาบรรณขายบ้านในราคาสูงเกินจริง หลายครอบครัวจึงถูกไล่ออกเมื่อผิดนัดชำระ และครอบครัวใหม่จะเข้ามาซื้อต่อด้วยเงื่อนไขสัญญาแบบเดียวกัน และวัฏจักรซึ่งขับเคลื่อนด้วยความโลภก็ดำเนินต่อไป

ซามูเอลแต่งตั้งบุตรชายให้เป็นผู้วินิจฉัยคนอิสราเอลและบุตรของท่านมีใจโลภ พวกเขา “มิได้ดำเนินในทางของท่าน” (1 ซมอ.8:3) ตรงข้ามกับซามูเอลที่ซื่อสัตย์ บุตรชายของท่าน “ได้เลี่ยงไปหากำไร” และใช้ตำแหน่งเพื่อหาผลประโยชน์ให้ตนเอง พฤติกรรมที่ไม่ถูกต้องนี้สร้างความไม่พอใจให้กับพวกผู้อาวุโสของอิสราเอลและทำให้พระเจ้าไม่พอพระทัย ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของวงจรกษัตริย์ในพันธสัญญาเดิม (ข้อ 4-5)

การปฏิเสธที่จะเดินในทางของพระเจ้าเปิดช่องให้ค่านิยมเหล่านั้นถูกบิดเบือนและทำให้ความอยุติธรรมจำเริญขึ้น การเดินในทางของพระเจ้าหมายถึง ความซื่อสัตย์และความยุติธรรมที่สำแดงอย่างชัดเจนทั้งด้วยคำพูดและการกระทำ การกระทำที่ดีเหล่านั้นไม่ได้จบในตัวของมันเอง แต่จะช่วยให้ผู้อื่นมองเห็นและยกย่องพระบิดาในสวรรค์ของเราเสมอ

ประกายไฟเล็กๆ

“เราอยู่ในห้องสมุด และมองเห็นเปลวไฟที่ด้านนอก” เธอกำลังกลัว เราฟังน้ำเสียงนั้นออกเพราะเธอคือลูกสาวของเรา ขณะเดียวกันเรารู้ว่าที่มหาวิทยาลัยคือที่ที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับเธอและเพื่อนอีกเกือบ 3,000 คน ในปี 2018 ไฟป่าวูลซีย์ได้ขยายตัวอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงคาดการณ์ไว้ สภาพที่ร้อนและแห้งแล้งในหุบเขาแคลิฟอร์เนียร่วมกับกระแสลมซานตาอาน่า ทำให้ประกายไฟเล็กๆลุกลามเผาผลาญเนื้อที่กว่า 245,000 ไร่ ทำลายสิ่งก่อสร้างมากกว่า 1,600 แห่ง และมีผู้เสียชีวิต 3 คน ในภาพถ่ายหลังจากควบคุมไฟไว้ได้แล้ว แนวป่าที่เคยอุดมสมบูรณ์กลับกลายเป็นพื้นที่ร้างเปล่าราวกับพื้นผิวดวงจันทร์

ในพระธรรมยากอบ ผู้เขียนเรียกสิ่งเล็กๆแต่มีอำนาจว่า “บังเหียนในปากของม้า” และหางเสือเรือ (3:3-4) คำเปรียบนี้ห่างไกลและไม่เป็นที่คุ้นเคยในสมัยของเราแล้ว แต่ผู้เขียนใช้อีกคำหนึ่งที่เรารู้จักดี เป็นสิ่งเล็กๆที่มนุษย์ทุกคนมี นั่นคือลิ้น และแม้บทนี้จะเจาะจงถึงครูผู้สอนโดยตรงเป็นอันดับแรก (ข้อ 1) แต่ก็นำไปใช้กับเราทุกคนด้วย ลิ้นเป็นอวัยวะเล็กๆแต่ทำให้เกิดหายนะได้

ลิ้นเล็กๆของเรานั้นมีอำนาจ แต่พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ทรงมีฤทธิ์อำนาจยิ่งกว่า ความช่วยเหลือของพระองค์ในทุกๆวันจะให้กำลังแก่เราเพื่อควบคุมและนำพาคำพูดของเรา

เดินหน้าตรงไป

ชาวนาในยุคก่อนต้องใช้สายตาที่มั่นคงและมือที่แข็งแรงในการขับรถไถให้เป็นแนวตรง ถึงแม้จะมีตาที่ดีมากก็ยังมีแนวที่เหลื่อมกัน และเมื่อสิ้นสุดวันมือที่แข็งแรงที่สุดก็ยังเหนื่อยล้าได้ แต่ในปัจจุบันมีพวงมาลัยอัตโนมัติซึ่งควบคุมโดยระบบจีพีเอส ทำให้การขึ้นแปลงเพาะปลูก และพ่นยาสามารถทำได้ง่ายและเป็นระเบียบขึ้น ซึ่งมีประสิทธิภาพอย่างเหลือเชื่อและไม่ต้องใช้มือเลย ลองจินตนาการว่านั่งอยู่บนรถไถยุคเก่าแต่แทนที่จะจับพวงมาลัย กลับถือแซนด์วิชในมือ เครื่องมือแสนวิเศษที่ทำให้คุณเคลื่อนตรงไปข้างหน้า

เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไป นั่นเป็นการแสดงว่าท่านยอมรับ นโยบายการใช้คุกกี้ของเรา