การเปิดเผยถึงพระสิริของพระเจ้า
คริสเตียน สเปนเซอร์ช่างภาพชาวออสเตรเลียใช้เวลามากกว่ายี่สิบปีในการถ่ายภาพในอุทยานแห่งชาติอิตาเชียในบราซิล สิ่งหนึ่งที่น่าทึ่งในการถ่ายภาพของเขาคือ เขาสามารถจับภาพของปรากฏการณ์ที่แสงแดดส่องผ่านปีกที่กางออกของนกฮัมมิ่งเบิร์ดได้ เขาพบว่าปีกของนกจะสร้างสีรุ้งคล้ายปริซึมเมื่อพวกนกบินอยู่ระหว่างแสงแดดจ้ากับเลนส์กล้องของเขา ช่างภาพคนอื่นๆก็ได้จับภาพปรากฏการณ์นี้กับนกชนิดอื่นนอกเหนือจากนกฮัมมิงเบิร์ดด้วย
การค้นพบสีรุ้งหลากสีในปีกของนกเป็นตัวอย่างของสิ่งล้ำค่าส่วนหนึ่งที่พระเจ้าทรงซ่อนไว้ในการทรงสร้างของพระองค์ ความงดงามตระการอันแสนวิเศษนี้กระตุ้นให้เราอยากรู้ว่าผู้ที่เชื่อในพระเยซูจะสังเกตเห็นสิ่งใดเมื่อพวกเขามองเห็นพระองค์ประทับอยู่บนบัลลังก์ เมื่อยอห์นเห็นบัลลังก์แห่งสวรรค์ในวิวรณ์ 4 ท่านคงจะตกตะลึง ท่านบรรยายถึงพระคริสต์บนบัลลังก์กับ “รุ้งล้อมรอบพระที่นั่งนั้น ดูประหนึ่งแก้วมรกต” (ข้อ 3) คำพูดไม่อาจบรรยายถึงพระสิริของพระเจ้าที่ได้ทรงเปิดเผยแก่อัครทูตท่านนี้ได้
เมื่อเราค้นพบสิ่งล้ำค่าที่ซ่อนอยู่ในการทรงสร้างของพระเจ้า ขอให้เราเพลิดเพลินกับสิ่งเหล่านั้น และให้รู้ไว้ว่ายังมีสิ่งล้ำค่าอีกมากมายรอเราอยู่ในสวรรค์ ที่นั่นเราจะนมัสการองค์พระผู้ทรงสร้างของเราและสรรเสริญพระองค์ตลอดไปเป็นนิตย์ “องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย พระองค์ทรงสมควรที่จะได้รับคำสรรเสริญ พระเกียรติและฤทธิ์เดช เพราะว่าพระองค์ได้ทรงสร้างสรรพสิ่งทั้งปวง และสรรพสิ่งทั้งปวงนั้นก็ทรงสร้างขึ้นแล้ว และดำรงอยู่ตามชอบพระทัยของพระองค์” (ข้อ 11)
ถูกที่ ถูกเวลา
ขณะที่งานประชุมด้านการพยาบาลกำลังดำเนินอยู่ที่โรงแรม มีแขกคนหนึ่งเกิดอาการหัวใจวายที่บริเวณล็อบบี้ ในทันทีนั้นมีผู้ให้การดูแลมากกว่า 24 คนมาถึงข้างกายเขาและทำการช่วยชีวิต แขกคนนั้นรู้สึกขอบคุณพยาบาลทุกคนเป็นอย่างมากที่อยู่ถูกที่ถูกเวลา
เอสเธอร์เองก็อยู่ถูกที่ถูกเวลาเช่นกัน เธอได้รับเลือกให้เป็นราชินีหลังจากได้รับความโปรดปรานและการยอมรับจากกษัตริย์ (อสธ.2:17) แต่มีกฎหมายที่คุกคามประชาชนของเธอคือชาวยิว โมรเดคัยญาติของเธอจึงหนุนใจให้เธอใช้ตำแหน่งเพื่อร้องขอต่อกษัตริย์ให้ช่วยพวกเขาพ้นจากความตาย “ที่จริงเธอมารับตำแหน่งราชินีก็เพื่อ ยามวิกฤตเช่นนี้ก็เป็นได้นะ ใครจะรู้” โมรเดคัยท้าทายเธอ (4:14) การตัดสินใจที่เธอต้องเสี่ยงชีวิต “ไปเข้าเฝ้าพระราชา” (ข้อ 16) เพื่อเปิดเผยแผนการร้ายนี้ได้ช่วยชาวยิวจากความตาย (บทที่ 8) เห็นได้ชัดว่าพระราชินีเอสเธอร์เข้าใจดีว่าพระเจ้าได้วางเธอไว้ในตำแหน่งนั้นในเวลาที่เหมาะสม
บางครั้งเราอาจสงสัยว่า ทำไมจึงเกิดเหตุการณ์นั้นๆหรือมีสถานการณ์บางอย่างที่เปลี่ยนไป บางทีเรารู้สึกโกรธและพยายามทำให้ทุกสิ่งกลับ “สู่ความปกติ” พระเจ้าอาจทรงวางเราไว้ในสถานการณ์ปัจจุบันเพื่อพระประสงค์ที่เจาะจง ในวันนี้หากเราพบกับอุปสรรคหรือการเปลี่ยนแปลง ขอให้เราทูลขอพระเจ้าให้ทรงสำแดงว่า มีสิ่งพิเศษที่พระองค์ต้องการให้เราทำซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในแผนการอันสมบูรณ์แบบของพระองค์หรือไม่
เมล็ดพันธุ์กับดิน
ถ้าคุณชอบปลูกฟักทอง คุณคงเคยได้ยินชื่อของเมล็ดฟักทองยักษ์พันธุ์ ดิลส์ แอตแลนติก ไจแอนท์ เมล็ดพันธุ์นี้ถูกพัฒนาขึ้นที่ฟาร์มแบบครอบครัวในประเทศแคนาดา ผลของฟักทองพันธุ์นี้ทำลายสถิติไปทั่วโลก ในปี 2011 ฟักทองที่ปลูกในรัฐควิเบก ได้สร้างสถิติโลกใหม่ด้วยน้ำหนัก 825 กิโลกรัม ผลฟักทองขนาดนั้นสามารถใช้ทำขนมพายได้ถึง 1,000 ชิ้น
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าทำอย่างไรจึงปลูกฟักทองได้ผลโตขนาดนั้น ชาวไร่ตอบว่าสิ่งสำคัญอยู่ที่ดินเมล็ดฟักทองเป็นพันธุ์ที่ใหญ่พิเศษก็จริง แต่ดินที่ใช้จะต้องเหมาะสมด้วย มิเช่นนั้นฟักทองจะไม่เติบโตดีเท่าที่ควร
องค์พระเยซูคริสต์ทรงใช้คำอุปมาเปรียบเทียบดินชนิดต่างๆ กับการที่คนเราตอบสนองต่อพระคำของพระเจ้า (มัทธิว 13) เมล็ดบางส่วนถูกนกจิกกิน บางส่วนงอกขึ้นมา แต่ถูกวัชพืชรบกวน บางส่วนเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่มีเนื้อดินไม่มาก ส่วนเมล็ดที่ตกลงในดินดี “เกิดผลร้อยเท่าบ้าง หกสิบเท่าบ้าง สามสิบเท่าบ้าง” (มัทธิว 13:8)
เราทุกคนต้องถามตัวเองว่า “ฉันเป็นดินแบบไหน?” พระเจ้าปรารถนาจะปลูกพระคำของพระองค์ลงในหัวใจของเรา เพื่อที่เราจะได้เติบโตขึ้นในความรู้เรื่องพระองค์ - Brent Hackett ผู้อำนวยการอาร์บีซี แคนาดา
ความรอดที่แน่นอน
มีเรื่องเล่าว่าพระราชินีวิคทอเรียแห่งสหราชอาณาจักรทรงซาบซึ้งใจมากเมื่อไปนมัสการที่คริสตจักรแห่งหนึ่ง พระนางตรัสถามอนุศาสกว่า “เราจะมั่นใจในชีวิตนิรันดร์ที่ปลอดภัยนี้ได้จริงหรือ?” เขาตอบไม่ได้ แต่ผู้ประกาศข่าวประเสริฐที่ชื่อจอห์น ทาวน์เซนด์ได้ยินคำถามนั้น เขาอธิษฐานอยู่พักใหญ่ จากนั้นได้ส่งสาสน์ไปถึงพระนางว่า “ด้วยมือที่สั่นเทาแต่จิตใจเปี่ยมด้วยความรัก หม่อมฉันรู้ว่า เรามั่นใจได้อย่างแน่นอนในเวลานี้ถึงชีวิตนิรันดร์ในบ้านที่พระเยซูทรงไปจัดเตรียมไว้ให้กับเราหม่อมฉันขอกราบทูลให้ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทอ่านพระธรรมยอห์น 3:16 และโรม 10:9-10 ได้หรือไม่พะย่ะค่ะ”